ตอนนี้ทาง Apple ได้เข้าร่วมกับทางหน่วยงานกองทุนอนุรักษ์ในการจัดซื้อพื้นที่ป่าส่วนตัวกว่า 36,000 เอเคอร์ในรัฐ Maine และ North Carolina โดยมีจุดประสงค์ในการใช้พื้นที่ป่าเหล่านี้ในการทำบรรจุภัณฑ์ในอนาคตของทางบริษัท
โดยทางหน่วยงานกองทุนอนุรักษ์ได้จัดหาพื้นที่ป่าให้กับทาง Apple ทั้งหมด 2 ผืนด้วยกัน ซึ่งมีการคาดการณ์คร่าวๆว่าขนาดของพื้นที่ป่าที่ Apple ได้จัดซื้อไปทั้ง 2 ผืนนี้เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับเมือง Manhattan มันจะมีขนาดใหญ่กว่าถึง 2.5 เท่าเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีการตั้งชื่อโครงการนี้ว่า ” Working Forest ” ซึ่งคาดว่าจะสามารถจัดการพื้นที่ตรงส่วนนี้ให้กลายเป็นป่าที่สมบูรณ์และเหมาะกับการทำธุรกิจในระยะยาวได้ในอนาคต
อย่างที่เราทราบกันดีว่าช่วงหลังๆมานี้ทางบริษัท Apple เองเริ่มหันมาลงทุนในเรื่องของการพัฒนาพลังงานที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่ อย่างการลงทุนสร้างฟาร์มแผงโซล่าเซลล์ในแคลิฟอเนียที่ลงทุนไปกว่า 850 ล้านเหรียญ และในการจัดซื้อผืนป่าทั้ง 2 ผืนนี้ ทาง CEO ของหน่วยงานกองทุนอนุรักษ์และทาง Apple เองได้เห็นพ้องต้องกันว่าอยากจะทำให้บริษัท Apple กลายเป็นบริษัทที่สามารถใช้พลังงานที่นำกลับมาใช้ได้ใหม่ 100% เต็มนัั่นเองครับ
ที่มา : Businessinsider
[divider]
ทัศนคติผู้เขียน
ผมคาดว่าผืนป่าทั้ง 2 แห่งนี้จะกลายเป็นเหมือนโรงงานผลิตวัตถุดิบในการทำบรรจุภัณฑ์ให้กับ Apple ได้แบบยั่งยืนไม่รู้จบได้ในอนาคตครับ ซึ่งก็จะมีทั้งกระบวนการการปลูก การเก็บเกี่ยวและการแปรรูป ซ่งผมว่าเป็นแนวคิดที่ดีที่หลายๆบริษัทควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างครับ เพราะการเข้าไปทำลายแล้วเก็บเกี่ยวจากป่าออกมาอย่างเดียวในอนาคตต้นไม้คงหมดโลกแน่ๆ แต่กาทำแบบนี้แน่นอนว่าต้องมีทั้งการทำเกษตรกรรมควบคู่ไปกับอุตสาหกรรมอย่างลงตัวเลยล่ะครับ