อย่างที่เราทราบกันดีครับว่าวันนี้เป็นงานอีเว้นท์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของ Apple แน่นอนครับว่ามีอะไรใหม่ๆออกมาให้เราได้เซอร์ไพรส์กันอีกแล้ว สำหรับวันนี้เราจะไปพูดถึง iPad กันก่อนเลยครับ เพราะเมื่อสักครู่ Apple ได้ประกาศเปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ iPad ตัวใหม่ซึ่งเป็นตัวที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์เลยทีเดียวครับ โดยชื่อของเจ้ารุ่นนี้ก็คือ iPad Pro นั่นเอง นอกจากนี้มันไม่ได้มาแบบเหงาๆตามลำพังนะครับ เพราะนอกจากที่มันจะมีขนาดที่ใหญ่ขึนแล้วมันยังควงคู่มากับ Apple Pencil ที่ทำหน้าที่เหมือนกับปากกา Stylus ครับ
สำหรับเจ้า iPad Pro นั้นจะมีหน้าจอแบบ Retina 12.9 นิ้ว 2732×2048 พิกเซล ความหนาแน่นอยู่ที่ 5.6 ล้านพิกเซลครับ เรียกได้ว่าภาพนี่คมกริบเลยที่เดียว ซึ่งด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ของมันทำให้เจ้า iPad Pro เครื่องนี้มีหน้าตา รวมทั้งการทำงานคล้ายกับ Laptop มากขึ้นกว่าที่มันเคยเป็น แถมยังมีฟีเจอร์อย่าง Full size keyboard ที่ทำให้เหล่าผู้ใช้สามารถพิมพ์สิ่งต่างๆได้ราวกับการใช้งานคีย์บอร์ดจริงๆ รวมทั้งยังสามารถใช้ในการเล่นดนตรีอย่างคีย์บอร์ดต่างๆได้อย่างสมจริงอีกด้วยครับ
เรียกว่าหน้าจอของ iPad Pro เครื่องนี้ถูกออกแบบมาค่อนข้างจะดีมากเลยทีเดียว เพราะด้วยความคมชัดและความใหญ่ระดับนี้ การดูหนังหรือการเล่นเกมส์ด้วยเจ้าเครื่องนี้ย่อมไม่ใช่ปัญหามิแต่น้อยครับ ทำให้ผู้ใช้อย่างเราๆสามารถรับความบันเทิงกันได้เต็มอารมณ์มากๆ เกือบลืมพูดถึงไปครับนอกจากที่มันจะมาพร้อมหน้าจอไซส์ Big แล้ว อันที่จริงมันกลับไม่ได้หนามากเท่าไรเลยนะครับ เพราะมันมีความหนาอยู่ที่ 6.9 มม. และมีน้ำหนักอยู่ที่ 1.54 ปอนด์เท่านั้นครับ
นอกจากรูปร่างหน้าตาภายนอกที่เราจะพูดถึงแล้ว เรามาดูภายในกันบ้างดีกว่า สำหรับiPad Pro มันจะมาพร้อมกับ Processor ตัวใหม่ล่าสุดอย่าง A9X ครับ ทำให้การทำงานของมันเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว และสเถียรอย่างมาก ทำงานไวกว่าชิพตัวเก่าแบบ A8X ถึง 1.8 เท่า ถือว่าเร็วมากนะครับเพราะเร็วขึ้นเกือบ 2 เท่าเลยทีเดียว อีกทั้ง iPad Pro ยังมีลำโพงบริเวณมุมทั้ง 4 ด้านของตัวเครื่องทำให้เสียงที่ได้นั้นมีความสมดุลย์มากขึ้น และทีสำคัญแบตเตอรี่ของมันยังสามารถใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมงครับ
และแล้วก็มาถึงครับสำหรับ Apple Pencil ที่เชื่อว่าหลายๆคนคงอยากรู้ว่ามันทำอะไรได้บ้าง ต้องบอกแบบนี้ครับว่า Apple Pencil นอกจากจะมีไว้จิ้มๆทั่วไปแล้ว ััมันยังถือเป็นปากกาที่ฉลาดมากทีเดียวครับ เพราะว่ามันสามารถรับรู้แรงกด รวมทั้งองศาการจับปากกาของผู้ใช้ได้ด้วย ซึ่งนั่นทำให้การทำงานอย่างการเขียนด้วยลายมือ หรือการวาดรูปเป็นอะไรที่ทำได้เหมือนจริงมากขึ้น ลองดูตัวอย่างของรูปด้านล่างได้เลยครับ
จะเห็นว่าหากเราทำการเอียง Apple Pencil เส้นที่ได้จะหนาขึ้นเหมือนกับเวลาที่เราเอียงดินสอสีในการระบายพื้นที่ใหญ่ๆนั่นเองครับ นอกจากนี้หากเราทำการกดก็จะเห็นว่าเส้นที่ได้จาก Apple Pencil จะมีความเข้มขึ้นนั่นเองครับ นอกจากนี้ Smart Pencil ยังสามารถชาร์จแบตได้ด้วยการเสียบเข้ากับตัว iPad Pro ได้เลยตามรูปด้านล่างนี้เลย
นอกจากนี้ในส่วนของการทำงานของ iPad Pro ต้องบอกว่ามันสามารถทำงานร่วมกับ Microsoft Office ได้อย่างดีเยี่ยมทีเดียวครับ อย่างการสร้าง PowerPoint สำหรับ Presentation เป็นอะไรที่ง่ายและดูเป็นมืออาชีพมากทีเดียว เพียงแค่ทำการวาดรูปทรงขึ้นมา เราก็จะได้ Shape ใน PowerPoint มาจัดแต่งในไฟล์ของเราอย่างง่ายดายมากครับ
คือต้องบอกว่านอกจากที่มันจะเหมาะกับเหล่าผู้ใช้งานกราฟฟิกบ่อยๆ หรือเหล่านักวาดทั้งหลายแล้ว มันยังเหมาะที่จะใช้สำหรับการทำงานอย่างมากด้วย ทั้งนี้ iPad Pro ยังมาพร้อมกับ Accessory อย่างเคสคีย์บอร์ดที่มีชื่อว่า Smart Keyboard ที่เชื่อมต่อกับตัว iPad Pro ด้วย Smart Connector อัติโนมัติครับ
สเปคอื่นๆที่เราไม่ได้กล่าวถึงในขั้นต้นก็จะมีในส่วนของกล้องหลัง 8MP และกล้องหน้า HD Facetime ครับผม คราวนี้มาที่เรื่องของราคากันเลย สำหรับ iPad Pro 32GB Wifi จะมีราคาอยู่ที่ 800$ (ประมาณ 26,000 บาท) และ iPad Pro 128GB Wifi จะมีราคาอยู่ที่ 950$ (ประมาณ 31,000 บาท)และสุดท้ายสำหรับ iPad Pro 128GB Cellular จะมีราคาอยู่ที 1079$ (ประมาณ 35,000 บาท)ครับ
และในส่วนของ Accessories อย่าง Smart Keyboard จะวางขายในราคา 170$ (ประมาณ 5,500 บาท)และ Apple Pencil มีราคาอยู่ที่ 100$ ครับ (ประมาณ 3,200 บาท)
ทั้งนี้หากมีการตกหล่นของข้อมูลเราจะกลับมาอัพเดทเพิ่มเติมครับผม