เมื่อไม่นานมานี้ มีการฟ้องร้อง Apple ในศาลแขวงเขต Northern District ของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยกล่าวหาว่าสาย Apple Watch รุ่น Sport, Ocean และ Nike Sport มีการใช้สารเคมีที่เรียกว่า PFAS (per- and polyfluoroalkyl substances) ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่ไม่สลายตัวง่ายๆ ในธรรมชาติ และจะสะสมในร่างกายมนุษย์เมื่อมีการสัมผัสกับร่างกายเป็นเวลานานๆ
สารเหล่านี้ถูกเอ่ยถึงว่าเป็นตัวเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งบางชนิดกับมนุษย์, มีส่วนให้การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง, เกิดความล่าช้าในการพัฒนาของเด็ก และรบกวนการสร้างฮอร์โมนบางชนิดของมนุษย์
PFAS ถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์หลากหลาย เช่น เครื่องครัวที่เคลือบสารลดการติดของอาหาร, ถูกใช้ในเสื้อผ้ากันน้ำ, พรม, ที่นอน และอื่น ๆ เพราะคุณสมบัติที่ทนทานต่อความร้อนและสารเคมีได้อย่างดี อย่างไรก็ตาม กลับมีการพบสารตัวนี้ปนเปื้อนอยู่ในสายนาฬิกาอัจฉริยะหลายแบรนด์ในปริมาณที่สูง ซึ่งเป็นสิ่งที่ติดกับตัวมนุษย์อยู่ตลอด แม้แต่ตอนที่เหงื่อออกเพราะออกกำลังกาย ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการสะสมของสารเหล่านี้ในร่างกาย ก่อให้เกิดความกังวลด้านสุขภาพขึ้นอย่างมาก
การฟ้องร้องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้พบว่าสายสมาร์ทวอทช์จากแบรนด์ยอดนิยม รวมถึง Apple มีความเข้มข้นสูงของสาร PFAS โดยเฉพาะสายที่ทำจากฟลูออโรอีลาสโตเมอร์ ซึ่งเป็นวัสดุที่นิยมใช้เนื่องจากความทนทานต่อเหงื่อและน้ำ แต่กลับมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ
แม้ว่า Apple จะเคยประกาศในปี 2023 ว่าจะยกเลิกการใช้สารเคมีเหล่านี้ในผลิตภัณฑ์ของตน แต่การฟ้องร้องครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่ายังมีการใช้งานอยู่ในบางผลิตภัณฑ์
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ผู้ใช้พิจารณาเปลี่ยนไปใช้สายสมาร์ทวอทช์ที่ทำจากวัสดุอื่น ๆ ที่ปลอดภัยกว่า เช่น ซิลิโคน, ไนลอน, หนัง หรือสแตนเลส เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากสาร PFAS และควรตรวจสอบข้อมูลวัสดุของสายก่อนการซื้อเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพ
แหล่งที่มา: Android Authority