ล่าสุดจากผลสำรวจของทาง Gartner ที่ได้เผยแพร่ออกมานั้นได้ระบุเอาไว้ว่าทั้ง Samsung และ Apple เป็น 2 บริษัทที่มีการใช้อุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor) มากที่สุดของโลกติดต่อกันมาถึง 5 ปี ซึ่งรวมกันแล้วคิดเป็น 17.7% ของทั้งโลก ซึ่งก็คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 59,000 ล้านเหรียญเลยทีเดียวครับ
และจากผลสำรวจดังกล่าวยังชี้ให้เห็นว่าปัจจุบันทาง Samsung เป็นบริษัทที่ใช้อุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์มากที่สุด ของโลก ซึ่งก็สืบเนื่องมาจากการที่บริษัทสามารถผลิตชิพระดับพรีเมียมออกมาเองแถมยังมีคู่ค้าคนสำคัญอย่าง Apple และ Qualcomm ที่มาใช้บริการอีก ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไรนักครับ
ทั้งนี้ถึงแม้ว่าปัจจุบันธุรกิจอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์จะมีแนวโน้มที่ลดลงจะเห็นได้จากผลรวมการใช้อุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ในบริษัท 10 อันดับแรกของโลกที่มีมูลค่ารวมประมาณ 123,000 ล้านเหรียญ คิดเป็น 36.9% ของรายได้ทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากทั่วโลกในปี 2015 ซึ่งลดลงจากปี 2014 ที่คิดเป็น 37.9% ครับ
และจากผลสำรวจของทาง Gartner นั้นชี้ให้เห็นว่าบริษัท Samsung เริ่มมีการใช้อุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์น้อยลง 3.6% ในปี 2015 ส่วน Apple นั้นกลับมีการใช้อุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์มากขึ้น 7.1% และจากเป้าหมายที่ทาง Apple ตั้งไว้ เชื่อว่าในอนาคตน่าจะมีแนวโน้มการใช้อุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ที่เพิ่มขึ้นอีกครับ และจากการคาดการณ์จึงมีความเป็นไปได้ว่าปี 2016 นี้อาจมีการสลับที่ของ 2 ยักษ์ใหญ่ในตารางด้านล่างนี้นั่นเองครับ
ปล.อุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor) คือหัวใจหลักเกือบทั้งหมดของระบบอิเล็กทรอนิกส์ในทุกวันนี้ ซึ่งในที่นี้น่าจะเป็นชิพส่วนประกอบในสมาร์ทโฟนทุกเครื่องนั่นเองครับ