ก่อนหน้านี้ถึงแม้จะมีข่าวว่ายอดการสั่งซื้อ iPhone 6s หลังจากเปิดตัวเป็นไปได้อย่างสวยงามคือกว่า 13 ล้านเครื่องถูกขายภายในสุดสัปดาห์ที่ Apple ได้เปิดตัวออกมา แต่ทว่าตอนนี้จากรายงานที่เราได้มาล่าสุดพบว่า Apple ได้มีการสั่งซืออุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบ iPhone ลดลง ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากยอดขายของ iPhone 6s ที่ไม่ได้ขายดีแบบเทน้ำเทท่านั่นเองครับ
จริงๆแล้วสำหรับ iPhone 6s นั้นเคยมีนักวิเคราะห์ออกมาให้ความเห็นกันก่อนหน้านี้ครับว่า เจ้าอุปกรณ์ตระกูล S เครื่องนี้ไม่น่าจะสามารถทำยอดขายได้ดีกว่า iPhone 6 ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นพอได้ทราบข่าวว่ามันขายดีกว่า iPhone 6 ในช่วงเปิดตัวยิ่งทำให้เหล่านักวิเคราะห์ถึงกับงุนงงกันไปตามๆกัน แต่ในท้ายที่สุดเมื่อมาถึงตอนนี้ก็ได้มีข้อมูลออกมาจาก Pacific Crest Securities ว่า Apple ได้ลดจำนวนการสั่งซื้ออุปกรณ์ลงไป 15% แล้ว ตามยอดขายของ iPhone 6s ที่ลดลง ซึ่งนอกจากนี้ยังมีอีกหลายๆแหล่งข่าวในอุตสาหกรรมการผลิตชิพก็ได้ออกมายืนยันไปทิศทางเดียวกันครับ ทั้งนี้ยังมีการคาดการณ์ออกมาใหม่ว่า iPhone 6s และ 6s Plus จะมียอดขายรวมประมาณ 67 ล้านเครื่องเท่านั้นในไตรมาสที่ 4 ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่นักวิเคราะห์เคยกล่าวไว้ว่าน่าจะมียอดขายประมาณ 75-80 ล้านเครื่องครับ
แต่ต้องบอกไว้ก่อนนะครับว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราจะได้ยินว่า Apple มีการสั่งอุปกรณ์ลดลง เพราะเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็มีรายงานออกมาจาก Digitimes ว่า Apple น่าจะขาย iPhone 6s ได้เพียง 65-70 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ 4 อีกทั้งยังมีนักวิเคราะห์อีกหลายๆสำนักที่มองว่า iPhone 6s จะไม่สามารถมียอดขายเติบโตแซงหน้า iPhone 6 ได้
อย่างไรก็ตามยังมีนักวิเคราะห์บางส่วนที่มองในทางกลับกันว่า Apple น่าจะมียอดขาย iPhone 6s ที่สูงกว่า iPhone 6 เพิ่มขึ้นมา 7% ในไตรมาสที่ 4 ครับ งานนี้ต้องมารอดูกันว่าสรุปแล้วยอดขายของ iPhone 6s จะเป็นอย่างไรกันต่อไป จะสามารถทำลายสถิติของรุ่นพี่อย่าง iPhone 6 ได้หรือไม่ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมออกมาเราจะรีบนำมารายงานทันทีครับ
ที่มา : phonearena