กำลังไปได้สวยเลยทีเดียวครับสำหรับ Apple ในอินเดีย โดยล่าสุดจากรายงานสถิติของ Counterpoint Research ได้เปิดเผยว่า Apple สามารถขาย iPhone ไปได้ถึง 2.5 ล้านเครื่องในปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้บริษัทขึ้นมาอยู่อันดับ 10 บริษัทที่ทำยอดขายสมาร์ทโฟนได้ดีที่สุดในอินเดีย ซึ่งก็นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีครับ เพราะเพียงแค่ความพยายามครั้งแรกในการเจาะตลาดของอินเดียก็สามารถไต่ขึ้นมาอยู่ที่ 10 ของประเทศได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ทาง Apple ยังได้เคลมว่าตนเป็นผู้นำยอดขายในส่วนของสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยม (แพงกว่า 16,000 บาท) ในประเทศอินเดียแล้ว เพราะถือครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 62%
หากใครที่มองว่าการเจาะตลาดอินเดียสามารถทำได้ง่ายๆ จริงอยู่ที่บริษัทอื่นๆสามารถทำได้ไม่ยากเย็นนักจากการส่งสมาร์ทโฟนราคาเบาๆลงไปขาย แต่สำหรับ Apple แล้วถือว่าค่อนข้างยากพอสมควรเลย เพราะปกติแล้วผู้ใช้ในอินเดียมักมองหาสมาร์ทโฟนราคาประมาณ 5,300 บาทหรือถูกกว่านั้นมาใช้งาน ซึ่งก็อย่างที่เราทราบกันดีครับว่าเรทนี้มันไม่ได้ใกล้เคียงกับราคาขายของ iPhone เลยสักนิด ดังนั้นจึงถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมากๆครับสำหรับ Apple ที่จะเจาะตลาดอินเดียให้สำเร็จ
ที่เห็นจะล่อตาล่อใจชาวอินเดียได้มากที่สุดดูแล้วก็น่าจะเป็นเจ้า iPhone SE ครับ เพราะด้วยราคาที่ไม่สูงเหมือนบางรุ่น บวกกับสเปคที่ค่อนข้างดี รุ่นนี้จึงน่าจะเป็นที่เพ่งเล่งของประชากรในประเทศที่อยากจะลองมาสัมผัสความเป็น iOS
แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้เราก็คงต้องมาตามดูกันต่อไปว่า Apple จะทำอย่างไรในอนาคตให้สามารถเจาะตลาดอินเดียได้ จากรายงานที่ออกมาไม่นานนี้ระบุไว้ว่า Apple เตรียมให้ผู้ผลิตในอินเดียรับผิดชอบผลิต iPhone ทั้งหมดไปเลย ซึ่งจุดนี้น่าจะช่วยประหยัดเรื่องต้นทุนไปได้เยอะ แต่จะลดราคาขายลงมาหรือเปล่านั้นอันนี้เราก็ไม่แน่ใจครับ แต่ถึงกระนั้น Apple ก็ยังต้องไปต่อสู้ราคากับ Samsung, Lenovo, Xiaomi, OPPO และ vivo ที่วนเวียนอยู่บน TOP 5 ของตารางอีกทีครับ