วิวัฒนาการของ Microsoft ในช่วงไม่กี่ปีหลังมานี้ ดูเหมือนว่าจะนำพาให้ Microsoft เข้าไปใกล้กับ Apple มากกว่าที่ผ่านๆมา อย่างที่ทราบกันดีว่าตอนนี้ Microsoft นั้นมีการวางจำหน่ายทั้งโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตของตัวเองและไหนจะมีการปล่อยอัพเดท OS ฟรีๆอย่างที่มีข่าวกันไปก่อนหน้านี้ว่า Windows 10 จะปล่อยให้โหลดฟรีนั่นเอง และนอกจากนั้นตอนนี้ทาง Microsoft ก็มีสาขามากมายที่กระจายไปทั่วโลกอีกด้วย ในความเป็นจริงแล้วสาขาระดับเรือธงของ Microsoft เองก็ตั้งห่างออกไปจากร้านของ Apple เพียงไม่กี่บล็อคเท่านั้นใน Fifth Avenue ถึงแม้ว่าทั้ง 2 บริษัทนี้จะมีความคล้ายคลึงกันเพียงใด แต่หากเรามองลึกลงไปในความเหมือนนั้น เราจะพบกับความแตกต่างทางวิสัยทัศน์ของทั้ง 2 บริษัทครับ
สำหรับ Apple อนาคตของคอมพิวเตอร์ส่วนตัวหรือที่เราคุ้นหูกันในนาม PC คือ การทำให้มันกลายมาเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนตัวที่มีความส่วนตัวยิ่งขึ้น ซึ่งหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของ Apple อย่างชัดเจนนั้น คงจะเป็นสิ่งที่เราเห็นกันไปล่าสุดกับไอเดียการออกแบบของ Apple Watch ที่มีการออกแบบมาเพื่อเน้นให้ใช้ได้กับผู้ใช้เพียงคนเดียว เพราะอุปกรณ์ตัวนี้จะเรียนรู้เพื่อจะรู้จักกับผู้ที่สวมใส่ตัวมันอยู่นั่นเองครับ ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นแล้วว่า Apple Watch เป็นอะไรที่ควรถูกเรียกว่า”ความเป็นส่วนตัว” มากกว่าจะเป็นเพียงอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งเท่านั้น
ส่วนสำหรับ Microsoft นั้นได้ให้คำจำกัดความอนาคตของบริษัทไว้ว่า”ประสบการณ์ความเป็นส่วนตัวที่มากกว่า” ซึ่งนั่นไม่ได้จำกัดไว้เพียงแค่เพียงอุปกรณ์เท่านั้น และนั่นก็นำไปสู่ความแตกต่างของทั้ง 2 บริษัทอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีวิสัยทัศน์ที่แตกต่างก็ไม่ได้ทำให้ทั้ง 2 บริษัทนี้เข้ากันไม่ได้ซะทีเดียว เพราะในความเป็นจริงแล้วทั้ง Apple และ Microsoft ก็ใฝ่หาในสิ่งที่เรียกว่าเป้าหมายเดียวกันคือ รูปแบบที่จะเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการนั่นเองครับ
จริงๆแล้วทุกวันนี้สองยักษ์ใหญ่ในวงการเทคโนโลยีก็เข้ากันได้มากขึ้นแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ในประวัติศาสตร์ความสัมพันธุ์ที่ผ่านมาระหว่าง Apple และ Microsoft นั้นมักจะเป็นการเผชิญหน้ากันมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น Surface กับ iPad ,Zune กับ iPod หรือ PC กับ Mac จะบอกว่าทั้งคู่นั้นเป็นคู่แข่งกันในการที่จะมอบสิ่งต่างๆที่เหล่าผู้ใช้ต้องการก็ไม่ผิดนัก และตอนนี้ทาง Microsoft เองก็เริ่มยอมรับในอำนาจของ Android และ iOS แล้วว่าทั้งคู่เป็นระบบปฏิบัติการที่ดีที่สุดของสมาร์ทโฟน แต่ก็เหมือนจะยังพอมีที่ว่างสำหรับทั้ง Apple และ Microsoft ที่จะทำงานร่วมกันในอุปกรณ์เดียวกันอยู่ ตัวอย่างล่าสุดที่ได้แสดงให้เห็นถึงการทำงานร่วมกันก็มีให้เห็นมาแล้ว อย่างในงานสัมนา Microsoft’s Build 2015 ที่ผ่านมาได้มีการกล่าวถึง Uber add-on สำหรับ Outlook ใน iPad ที่จะอนุญาติให้ผู้ใช้สามารถทำการจองบริการ Uber ผ่านทางหน้า Calendar หรือปฏิทินบน iPad ได้นั่นเองครับ
นอกจากนี้ Microsoft กำลังทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยกำลังที่ตัวเองมีเพิ่อที่จะทำลายกำแพงความแตกต่างของสมาร์ทโฟนและแพลตฟอร์มต่างๆ โดยเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าทาง Microsoft ได้ออกมาแสดงวิธีการพอร์ทแอพใน Android และ iOS มาใน Windows และนอกจากนั้นทาง Satya Nadella ยังมีการพัฒนาฮาร์ดแวร์ให้ดีขึ้นและต้องมั่นใจว่าผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้ในราคาที่ไม่สูงนักอีกด้วย ซึ่งแตกต่างจากในยุคที่นาย Steve Ballmer เป็นคนกุมบังเหียนของ Microsoft นั่นเองครับ และอย่างที่เราทราบกันดีว่าตอนนี้เป้าหมายของ Microsoft คือการทำ universal app หรือแอพที่สามารถใช้งานได้ในทุกๆอุปกรณ์ ตรงกันข้ามกับ Apple ที่ยังคงเน้นไปในส่วนที่แคบกว่า อย่างล่าสุดที่มีการพัฒนาให้ Mac สามารถรับสายโทรศัพท์และรับ SMS ได้ แต่สามารถทำได้เฉพาะ iPhone กับ Mac เท่านั้น และหากว่าเราใช้ iPhone อยู่การที่จะทำงานร่วมกันระหว่าง สมาร์ทโฟนจาก Android หรือ Windows แท็บเล็ตนั้นกลับเป็นไปไม่ได้เลยครับ
Apple ยังคงทำในสิ่งที่ทำสำเร็จอยู่ตลอด ขณะที่ Microsoft เลือกที่จะพัฒนาในสิ่งที่แตกต่าง
จะเห็นได้ว่าทุกๆครั้งเมื่อ Apple เปิดตัวซอฟท์แวร์ตัวใหม่หรือการบริการใหม่ๆสู่อุปกรณ์ของทางบริษัท เหมือนว่าทางบริษัทจะมีเจตนาให้อุปกรณ์ที่ออกมาใหม่นั้นไม่เป็นส่วนหนึ่งหรือพูดง่ายๆว่าต้องการให้แยกออกจากอุปกรณ์ตัวเก่าๆ ซึ่งแตกต่างจาก Microsoft ที่ทำในสิ่งที่สวนทางกับ Apple โดยสิ้นเชิง ถึงแม้ว่าบริษัท Apple นั้นเป็นบริษัทที่ดูจะชอบการผสมผสานทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์และบริการต่างๆเข้าด้วยกัน แต่รายได้ของบริษัทที่แสดงให้เห็นทุกๆปีนั้นเป็นสิ่งที่ยืนยันไดว่าบริษัทเน้นไปในเรื่องของฮาร์ดแวร์เป็นหลักแน่นอน และนอกจากนี้ทุกๆอุปกรณ์ที่ Apple ออกแบบมานั้น เหมือนจะมีเจตนในการขายอุปกรณ์อื่นๆพ่วงเข้ามาด้วย อย่าง iPhone iPad หรือจะเป็น Mac ก็ตาม อย่างที่เราเห็นว่า Apple Watch นั้นก็เหมือนเป็นเครื่องประดับที่หรูหราที่สุดสำหรับ iPhone นั่นเองครับ
ขณะที่ Apple ยังคงตั้งหน้าตั้งตาขายฮาร์ดแวร์ต่างๆของบริษัท Microsoft กลับให้ความสนใจในเรื่องของจำนวนผู้ใช้ เพราะในการเลือกที่จะปล่อยให้ Office สามารถใช้งานได้ฟรีบน Android และ iOS นั้นดูเหมือนจะเป็นการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ของ Microsoft เลยทีเดียว เพราะมันไม่ต่างอะไรกับการให้อาวุธไปกับคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดอย่าง Android และ iOS เลยล่ะครับ แต่เหมือนว่าทาง Microsoft จะคิดถึงแผนในระยะยาวมากกว่าที่จะมากังวลถึงผลเสียที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เพราะจากการคาดการณ์ทาง Microsoft น่าจะต้องการดันให้ Office กลายเป็นแอพที่ได้รับความนิยมและมีผู้ใช้จำนวนมากขึ้นนั่นเองครับ
ซึ่งมันก็เป็นสิ่งเดียวกันกับที่ทาง Facebook พยายามที่จะดันให้ Messenger เป็นแพลตฟอร์มตัวหนึ่ง เพราะจะมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆเข้าไปให้กับ Messenger ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์และการบริการที่เป็นเอกลักษณ์มากขึ้น เช่นเดียวกันกับ Line จากกญี่ปุ้นและ WeChat ในจีน ที่มีการใส่ฟีเจอร์ต่างๆเข้าไปในแอพไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความหาผู้ใช้ด้วยกันเอง การเล่นเกมส์ในแอพ และการชำระเงินผ่านมือถือ นอกจากนั้นยังมีการใส่บริการรถ Taxi เข้าไปด้วย ซึ่งนั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าแอพต่างๆสามารถได้รับความนิยมได้ด้วยวิธีการเหล่านี้ ซึ่งแน่นอนว่าทาง Apple เองก็จะทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มของทาง Apple เองเช่นกัน
อุปกรณ์ต่างๆเหมือนจะไม่มีความหมายกับ Microsoft มากนักแต่กลับสำคัญมากสำหรับ Apple
สิ่งที่เรียกว่า “แพลตฟอร์ม” ได้ถูกนำไปใส่ในหลายๆสิ่งที่แตกต่างกัน ซึ่งนั่นทำให้เรารู้สึกว่ามันไม่มีความหมายอะไรอีกแล้วในตอนนี้ แต่อย่างไรก็ตามมันก็มีความหมายที่ค่อนข้างตรงไปตรงมาที่สุดในโลกของเทคโนโลยีเลยล่ะครับ เพราะว่าแพลตฟอร์มก็เป็นเหมือนช่องว่างที่คุณเป็นเจ้าของ มีอำนาจและสามารถที่จะทำให้มันดูน่าดึงดูดสำหรับคนอื่นๆเพื่อที่จะยอมให้เค้าเหล่านั้นยอมจ่ายเงินเพื่อให้ได้ครอบครองนั่นเอง
เหมือนกับ App Store และ iPhone ที่เป็นแพลตฟอร์มของทาง Apple และมันยังเป็นเหมือนคฑาสายฟ้าที่นำทุกๆคนเข้ามาใช้ในแพลตฟอร์มของ Apple นั่นเองครับ และเหมือนว่าตอนนี้ทาง Microsoft กำลังพยายามที่จะสร้างระบบปฏิบัติการของตัวเองให้ดูเหนือกว่าสิ่งนั้น และรูปแบบหลักที่ Microsoft กำลังทำนั้นก็คือการปล่อยให้ดาวน์โหลดซอฟท์แวร์ไปใช้ในแบบที่ฟรี ซึ่งดูเหมือนจะโน้มเอียงไปทางธุรกิจของ Apple แต่ไม่ได้เกิดในช่วงของนาย Steve Ballmer ผู้เป็น CEO คนก่อนของ Microsoft นอกจากนั้น Microsoft ตอนนี้เองก็เหมือนจะมีการทำงานร่วมกันกับ Google ด้วย ในการทำพิมพ์เขียวเพื่อความสำเร็จของชุดบริการฟรีบนแพลตฟอร์มภายนอก
แน่นอนว่าอนาคตของเทคโนโลยีเพื่อความเป็นส่วนตัวนั้นก็คือสมาร์ทโฟน ซึ่งก็ดูจะไม่ได้มีปัญหาอะไรมากนัก เพราะว่าสำหรับ Apple โทรศัพท์มือถือก็คือ อุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ ในทางตรงกันข้ามสำหรับ Microsoft นั้นโทรศัพท์มือถือก็คือ ประสบการณ์ที่เป็นมากกว่าอุปกรณ์ แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะเป็น Android ,iPhone หรือ Windows พื้นฐานของระบบปฏิบัติการทั้งหมดก็คือ การสร้างและออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้
จริงๆแล้วฮาร์ดแวร์เหมือนว่าจะไม่สำคัญกับ Microsoft เท่าไรนัก แต่ในขณะเดียวกันมันกลับเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งต่อ Apple เพราะนั้่นจะเป็นเหมือนการแสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมที่แต่ละบริษัทกำลังมุ่งเน้นและก้าวเดินไป และสำหรับ Apple นั้นมุ่งเน้นไปในเรื่องของการทำใหอุปกรณ์ต่างๆบางขึ้น เบาขึ้น ดีขึ้นและสามารถทำงานได้เร็วขึ้น แต่สำหรับทาง Microsoft นั้นดูเหมือนว่าจะยังคงไล่ล่าความทะเยอทะยานของตัวเองอยู่ เพื่อที่จะสร้างมิติใหม่ในการใช้งานให้กับผู้ใช้ อย่างที่เห็นว่าตอนนี้ทาง Microsoft ก็กำลังพัฒนาเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้แสดงโลกเสมือนอย่าง HoloLens นั่นเองครับ
ที่มา : Theverge
[divider]
ทัศนคติผู้เขียน
สำหรับบางคนที่อ่านแล้วยังงงๆ ผมขอสรุปให้เข้าใจสั้นๆแบบนี้ว่าถึงแม้ทั้ง 2 บริษัทจะมีความคล้ายคลึงกัน แต่วิสัยทัศน์ของทั้งคู่นั้นกลับแตกต่างกัน
โดยที่วิสัยทัศน์ของ Apple นั้นถึงแม้จะมุ่งเน้นไปที่ความเป็น Personal หรือปัจเจก เอกลักษณ์ แต่ทาง Apple จะมุ่งเน้นไปในทาง Hardware เสียมากกว่าพูดง่ายๆคือการผลิตฮาร์ดแวร์ให้ผู้ใช้รู้สึกถึงความเป็น Personal Device และเน้นในเรื่องของการใช้งานร่วมกันของอุปกรณ์ที่บริษัทผลิตขึ้นเท่านั้น
ซึ่งแตกต่างจาก Microsoft ที่ยังคงไล่ตามฝันของตัวเองแบบไม่หยุดหย่อน ที่ยังพยายามหาคำว่า More Personal Experiences หรือประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ เป็น Personal มากกว่า ซึ่งจะไม่ได้เน้นไปที่ Hardwere เหมือนกับทาง Apple นอกจากนั้น Microsoft ยังคงเน้นเรื่องของจำนวนผู้ใช้ด้วยการทำให้อุปกรณ์ต่างๆที่วางจำหน่ายลงมาในตลาดมีราคาที่ทุกคนเอื้อมถึงง่ายขึ้น และนอกจากนี้ยังยอมเข้าไปในแพลตฟอร์มอื่นๆอย่าง iOS และ Android เพื่อให้ผู้ใช้ได้เข้าถึงง่ายขึ้นนั่นเองครับ
Apple is Personal Device/Machine
Microsoft is More Personal Experience