Ubisoft ประกาศแผนคอนเทนต์หลังการวางจำหน่ายของ Assassin’s Creed® Valhalla ที่รวมซีซัน พาส พร้อมส่วนเสริมหลักสองตัวที่เกมเพลย์เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่อง พร้อมเควสต์พิเศษ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เล่น Assassin’s Creed Valhalla ทุกคนจะมีสิทธิ์เล่นคอนเทนต์ประจำซีซันฟรี ซึ่งมีอีเวนต์ในเกมและเทศกาลต่าง ๆ , สิ่งปลูกสร้างชุมชน, บริการ และโหมดเกมใหม่ด้วย โดย Ubisoft ยังประกาศว่า Discovery Tour ซึ่งเป็นเครื่องมือเพื่อการศึกษาที่ช่วยให้ผู้เล่นได้สำรวจโลกในเกมได้ในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากศัตรู ก็จะปล่อยให้ผู้เล่นได้สัมผัสในปี 2564 เช่นกัน
ASSASSIN’S CREED VALHALLA – ตัวอย่าง เนื้อหาหลังการเปิดตัว & ซีซันพาส
สำหรับตัวซีซัน พาส ผู้เล่นจะได้พบกับพื้นที่ใหม่และเรื่องราวใหม่ผ่านสองส่วนเสริมหลัก และเควสต์พิเศษ โดยเมื่อเกมวางจำหน่ายแล้ว ผู้เล่นจะสามารถเข้าเล่นส่วนเสริมได้ล่วงหน้าจากโครงสร้างภายในของตัวเกมหลัก สัมผัสเรื่องราวที่เปี่ยมความหมายซึ่งจะช่วยเพิ่มความรุ่มรวยในโลกโอเพนเวิลด์ของ
Valhalla นอกจากนี้ ผู้เล่นทั้งหมดจะได้เพลิดเพลินไปกับคอนเทนต์ฟรีตลอดซีซัน โดยแต่ละซีซันจะมีระยะเวลายาวนานสามเดือน – ซีซัน 1 จะเปิดตัวในเดือนธันวาคม 2563 ซึ่งช่วยขยายประสบการณ์ของ Assassin’s Creed Valhalla หลังวางจำหน่าย
ซีซันพาส ของ Assassin’s Creed Valhalla จะรวมอยู่ใน Assassin’s Creed Valhalla ฉบับโกลด์, อัลติเมท, และคอลเล็กเตอร์ อีกทั้งยังพร้อมให้ซื้อแยกต่างหากในราคา 39,99€ โดยคอนเทนต์ซีซันพาส จะประกอบด้วย:
- เควสต์ Legend of Beowulf: ในเควสต์พิเศษนี้ ผู้เล่นจะได้เผยความจริงอันโหดร้ายเบื้องหลังตำนานของ Beowulf ซึ่งจะพร้อมให้เล่นทันทีในวันที่เกม Assassin’s Creed Valhalla วางจำหน่าย
- ส่วนเสริมตัวที่ 1 – Wrath of the Druids (ฤดูใบไม้ผลิ 2564): ในการผจญภัยครั้งใหม่นี้ ผู้เล่นจะได้ท่องไปในไอร์แลนด์ และไขปริศนาของลัทธิดรูอิดโบราณที่ลึกลับ โดยต้องคอยตามรอยและค้นหาสมาชิกลัทธิให้พบ ดำดิ่งสู่ตำนานและนิทานพื้นบ้านของเกลิก อีกทั้งผู้เล่นจะต้องต่อสู้ฝ่าฟันผ่านป่าอันน่าสะพรึง และภูมิทัศน์อันน่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมไปกับสร้างอิทธิพลต่อบรรดาราชาของเกลิกด้วย
- ส่วนเสริมตัวที่ 2 – The Siege of Paris (ฤดูร้อน 2564): ใน The Siege of Paris ผู้เล่นจะมีโอกาสได้เข้าร่วมศึกอันทะเยอทะยานที่สุดในประวัติศาสตร์ไวกิ้ง พร้อมตัวละครสำคัญในมหาสงครามคือ Frankia ในช่วงเวลาสำคัญของประวัติศาสตร์นี้ ผู้เล่นจะต้องแทรกซึมเข้าไปในเมืองปารีสที่มีการป้องกันแน่นหนา และแม่น้ำ Seine ในช่วงที่การบุกยึดอันกินเวลายาวนานนี้ คุณจะต้องเผยความลับศัตรู และสร้างพันธมิตรที่มีชั้นเชิงกลยุทธ์ เพื่อปกป้องอนาคตเผ่าของพวกเขา
นอกจากนี้ ผู้เล่นทั้งหมดจะได้สัมผัสกับคอนเทนต์ประจำซีซันที่เรียงแถวกันมาให้เล่น ทั้งคอนเทนต์แบบเนื้อเรื่อง และอีเวนต์ในเกมที่พร้อมให้เล่นหลังวางจำหน่าย โดยแต่ละซีซันจะกินเวลายาวนานสามเดือน และจะมาพร้อมคอนเทนต์สุดตื่นเต้นที่ให้ผู้เล่นทุกคนได้สัมผัสไม่ว่าจะอยู่ในเลเวลใดของความก้าวหน้า เป็นการเน้นพัฒนาการของเกมเพลย์และโลกในเกม
ซีซัน 1 จะปล่อยให้เล่นในเดือนธันวาคม 2563 ตามแผนคอนเทนต์ที่วางไว้ ดังนี้
- พื้นที่ชุมชนใหม่ ช่วยผู้เล่นให้สร้างชุมชนจนเติบโตและพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง
- เทศกาลดั้งเดิมของไวกิ้ง หรือเทศกาล Yule ให้ผู้เล่นได้ลองสัมผัสกันในชุมชนตัวเอง
- โหมดเกมใหม่: River Raids ซึ่งสร้างจากกลไกการบุกปล้นของ Valhalla โดยโหมดนี้จะมอบประสบการณ์ที่มีชีวิตชีวา, ท้าทาย และกระตุ้นให้อยากเล่นซ้ำอีก
- การเพิ่มยศของ Jomsviking: ผู้เล่น Assassin’s Creed Valhalla ไม่เพียงสร้างนายกองให้เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยรบเท่านั้น แต่ยังสามารถชักชวนนายกองบางคนจากเพื่อนและชุมชนได้ด้วย ในซีซัน 1 ผู้เล่นจะได้เห็นการอัปเดตฟีเจอร์ Jomsviking ที่ช่วยให้พวกเขาเพิ่มค่า XP กับยศให้ Jomsviking – ยิ่งนายกองคนนั้นมียศสูงเท่าไร คุณก็จะได้รับ Silver มากขึ้นเท่านั้น เมื่อมีผู้เล่นอื่นมาชวนนายกองคนนั้นไป
- สุดท้าย ในแต่ละซีซันของ ซีซัน 1 จะมาพร้อมกับทักษะและความสามารถ, อาวุธและอุปกรณ์ใหม่ให้ผู้เล่นได้ใช้ รวมถึงไอเทมตกแต่งชุมชน, เรือยาว, ม้า และอีกาด้วย
ซีซัน 2 จะปล่อยให้เล่นในเดือนมีนาคม 2564 พร้อมโหมดเกมใหม่ที่สร้างจากแกนกลางของระบบต่อสู้ของ Valhalla, อัปเดต Jomsviking ครั้งใหม่, เทศกาลต่าง ๆ ในชุมชน, อุปกรณ์, ไอเทมตกแต่งแบบใหม่ และอีกมากมาย โดยข้อมูลเพิ่มเติมของซีซัน 3 และ 4 จะตามมาในภายหลัง
ยังมีคอนเทนต์อีกมากมายที่จะตามมาออกมา ตามที่ทีมพัฒนาของ Assassin’s Creed Valhalla ได้ให้คำมั่นสัญญาในการสนับสนุนเกม และการพัฒนาประสบการณ์ของผู้เล่นอย่างต่อเนื่องด้วยคอนเทนต์เพิ่มเติมซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยในเวลานี้