ในงานแถลงผลประกอบการของ Microsoft คุณ Steve Ballmer ซึ่งเป็น CEO ของ Microsoft ได้กล่าวยอมรับถึงสถานการณ์ของ Windows phone ในสงคราม smart device ว่า ตัวเค้าเองยอมรับว่า Windows phone แทบจะไม่มีส่วนแบ่งในตลาดนี้เลย (We have almost no share) แต่ก็ยังเสริมว่าตัวเค้าเองเป็นคนมองโลกในแง่ดี ซึ่งทุกครั้งที่ส่วนแบ่งการตลาดของ Microsoft ต่ำลง ตัวเค้ามองว่านั่นเป็นโอกาสในอีกรูปแบบหนึ่งมากกว่า และโอกาสนั้นนำไปสู่การเข้าซื้อกิจการฝ่ายผลิตมือถือของ Nokia นั่นเอง
การเข้าซื้อ Nokia มีความหมายหลายๆอย่าง ตัวอย่างหนึ่งคือ Microsoft มองว่าตัวเองควรที่จะได้รับกำไรกลับเข้ามาสู่บริษัทจากการที่ตลาดของ Windows phone โตขึ้น เพราะ Microsoft ก็ลงทุนไปกับระบบ Windows phone มาพอสมควรแล้ว การซื้อส่วนผลิตมือถือของ Nokia มาจะทำให้ Microsoft ได้รับผลกำไรส่วนนั้นแบบเต็มๆ
นอกจากนี้คุณ Ballmer ยังยอมรับอีกว่าในช่วงปี 2000 ต้นๆ Microsoft ทุ่มเทให้กับ Windows Vista มากเกินไป จนไม่ได้หันมาทุ่มเทให้กับตลาดที่เรียกว่า “มือถือ” เท่าที่ควร ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่คุณ Ballmer รู้สึกเสียใจที่สุด (คุณ Ballmer เคยยอมรับไปก่อนหน้านี้แล้วว่า เค้าเสียใจเรื่องระบบ Windows Vista ที่แป๊กอย่างแรงมากที่สุดตลอดระยะเวลาที่ทำงานที่ Microsoft)
สุดท้ายคุณ Ballmer ได้พูดถึงเรื่องของอุปกรณ์ต่างๆของ Microsoft ว่า หลังจากการปรับโครงสร้างองค์กรเมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ตัวเค้าเชื่อว่า Microsoft น่าจะทำได้ดีขึ้น ไม่ใช่แค่การทำระบบ Windows บน PC เท่านั้น แต่หมายรวมถึงแบรนด์ Windows ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Windows phone หรือ Windows RT
ชาว Windows phone ก็รอดูการเปลี่ยนแปลงนี้กันต่อไปครับ ส่วนตัวผมเชื่อว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ รอกันมาเกือบปีแล้ว รอกันอีกหน่อยนะครับ ^^
ที่มา: The Verge