ตอนเด็กๆ ผมชอบหาอะไรห่ามๆ ทำเพื่อฆ่าเวลาอันแสนน่าเบื่อที่โรงเรียนอยู่เป็นประจำ บางทีก็เล่นตามจินตนาการที่แสนจะกระโดดโลดโผนเกินไปจนหัวร้างค่างแตกไปบ้าง จำได้ว่าเคยถึงขั้นขึ้นไปหมุนตัวบนเครื่องหมุนที่เขาใช้ปั้นดินเผาเพราะคิดว่ามันคือของเล่นอย่างหนึ่ง เพราะจินตาการและการเล่นแผลงๆ แบบนี้ล่ะครับที่ฝากรอยแผลเป็นไว้บนหัวผมมาจนปัจจุบันนี้
พอได้กลับมาเล่น Bastion แล้วอดคิดไม่ได้จริงๆ ว่ามันช่างพาผมหวนคืนกลับไปยังสมัยที่จินตนาการวัยเยาว์เรายังสดใสอย่างในตอนนั้น เพราะในโลกของ Bastion นี่คือโลกแห่งจินตนาการอันแสนสวยงามที่เราวาดฝันไว้ไม่ต่างกัน นั่นทำให้ Bastion กลายมาเป็นเกมแอคชั่นผจญภัยผสม RPG ที่น่าประทับใจมากบน iPad เกมหนึ่งเลยทีเดียว
Bastion คือเกม Action RPG ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งในครั้งที่ออกมาเป็น Download Content ให้กับทาง Xbox 360 ก่อนที่จะมาดังเปรี้ยงปร้างอีกครั้งกับการรีเมคลง Mac และ PC และในครั้งนี้ ตัวเกมยังคงความสนุกท้าทายไว้ได้อย่างเต็มกระบวนท่ากับการพอร์ตลง iPad ที่ต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบังคับและการต่อสู้ภายในเกมครั้งสำคัญมาให้รองรับการบังคับผ่านการสัมผัสหน้าจอ
คุณจะไม่ได้ทำอะไรที่แปลกใหม่ไปสักเท่าไหร่หรอก คุณยังคงต้องออกเดินทางจากดินแดนเล็กๆ ไปยังเมืองใหญ่และบุกตะลุยสัตว์ประหลาดน้อยใหญ่เพื่อเก็บเอาสิ่งของต่างๆ แล้วค่อยย้อนกลับมายังฐานอีกครั้งเพื่อเพิ่มพลังเหมือนอย่างที่เป็นในฉบับอื่นๆ และทั้งหมดนี้มันก็ไม่ได้ต่างจากเกมแนวๆ เดียวกันนี้สักเท่าไหร่นักหรอกจริงไหมครับ แต่อย่าเพิ่งด่วนสรุปไปครับ เพราะนี่ไม่ใช่ทั้งหมดที่ตัวเกมนำเสนอ
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Bastion แตกต่างจากเกมอื่นๆ ในแนวเดียวกันอย่างเห็นได้ชัดเลยคือรูปแบบการเล่าเรื่องที่เล่าผ่านมุมมองของบุคคลที่สาม (แต่เราบังคับ Bastion นะครับ) หากนึกไม่ออกให้นึกถึงเวลาที่เรานั่งฟังการ์ตูนภาพที่มีเสียงประกอบไปเรื่อยๆ เพียงแค่ได้เห็นภาพสวยๆ ได้ยินเสียงอุ่นๆ ของผู้เล่าเรื่องที่เล่าไปเรื่อยๆ สอดคล้องกับเหตุการณ์ต่างๆ ภายในเกม แถมยังได้บังคับตัวละครของเราตะลุยกรุยทางเองอีกต่างหาก เพียงแค่นี้ อารมณ์ความสนุกมันก็เพิ่มทวีขึ้นแล้วล่ะ
“ผู้เล่าเรื่อง” ที่ว่านี้ ฉลาดถึงขั้นที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นสดๆ จากการกระทำของคุณได้แบบละเอียดอ่อนและเชื่อมโยงกับเนื้อเรื่องหลักได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่นคุณอาจเอาค้อนในมือของคุณไปตีหินสักก้อนที่ประกอบฉากอยู่ การตีนั้นส่งผลอย่างไร หรืออารมณ์ของอัศวินน้อยนิรนามนี้เป็นอย่างไรในตอนที่ตี “ผู้เล่าเรื่อง” จะสามารถเรียบเรียงทั้งหมดออกมาได้อย่างดีเป็นเสียงพากย์แบบไม่มีขาดตกบกพร่องเลยทีเดียว
คุณรับบทเป็น “เด็กหนุ่มนักรบนิรนาม” ที่ตื่นขึ้นมาพบว่าโลกที่เขารักและหวงแหนจู่ๆ ก็แหลกสลายลงไปในวัน Calamity หรือวันสิ้นโลกที่ดูดกลืนชีวิตแทบทุกอย่างในโลก Caelondia ไปอย่างไม่มีเยื่อใย
ตลอดทุกย่างก้าว รายละเอียดฉากจะค่อยๆ โผล่ขึ้นมาหรือหล่นหายไปราวการซากปรักหักพังที่พร้อมจะพาคุณล่วงหล่นไปด้วยหากไม่ระวัง ซึ่งสิ่งนี้ถือว่าเป็นไอเดียที่สร้างสรรค์มากๆ ในการสร้างโลกในเกม เพราะมันทำให้ผู้เล่นเกิดความรู้สึกราวกับว่าทุกๆ ย่างก้าวของเขาอาจจะกำลังฟื้นฟูรักษาโลกใบนี้ให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้งได้หรือไม่ก็พร้อมที่จะพังมันไปลงในพริบตาได้เช่นเดียวกัน ภาพกราฟิกที่ทำขึ้นโดยทีม Supergiant Games นั้นช่างสวยงามชวนฝันเสียเลยเกิน
Bastion พิสูจน์ให้เห็นสิ่งที่ iPad สามารถทำได้อย่างมากมาย สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่มันแสดงให้เห็นก็คือ iPad สามารถเป็นเครื่องเล่นเกมที่รองรับเกมระดับ Console ได้แม้ว่าหลายๆ คนอาจจะกังวลเรื่องการบังคับก็ตาม เพราะสำหรับ Bastion แล้ว Supergiant Games เลือกที่จะให้ทางเลือกกับผู้เล่นด้วยรูปแบบการบังคับสองแบบ ทั้งแบบถูดนิ้วไปมาบนจอและแบบกดด้วยปุ่มจำลองหน้าจอ ซึ่งทั้งสองแบบล้วนแล้วแต่ทำให้ตัวเกมกลายเป็นเกมที่บังคับได้อย่างลื่นไหลไม่มีที่ติ
หากคุณมี iPad ( iPad 2 ขึ้นไปในที่นี้) อยู่ในมือแล้วล่ะก็ APPDISQUS ขอแนะนำว่าอย่าพลาดที่จะลองหยิบเอา Bastion มาชื่นชมในความงามและความสนุก พยายามตะกุยทางตัวเองไปให้ถึงจุดหมาย พยายามกอบกูโลกของคุณนี้ให้สำเร็จ แล้วคุณจะค้นพบบทสรุปที่สวยงามน่าประทับใจมากของเกมที่จะติดตรึงใจคุณไปอีกนานแสนนาน
นี่คือเกมคุณภาพจากทีมนักพัฒนาคุณภาพที่ชาวเกมเมอร์คุณภาพบนอุปกรณ์คุณภาพอย่าง iPad ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
[gradeA]