เมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันเสาร์ที่ผ่านมา หลายๆ คนที่ใช้งาน iOS น่าจะได้มีโอกาสดาวน์โหลด BBM สำหรับ iOS มาทดลองใช้งานกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วก่อนที่อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา Blackberry Limited จะประกาศถอดแอพพลิเคชั่นทั้งหมดออกจาก AppStore ชั่วคราวเนื่องจากปัญหาแอพพลิเคชั่นเวอร์ชั่น Android หลุดเผบแพร่ไปก่อนเวลา (แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ iOS เนี่ย) โชคยังดีที่ผมเองมีโอกาสได้ดาวน์โหลดทันเวลา และหลังจากการทดลองใช้งานแล้วจึงอยากจะนำเอาประสบการณ์เหล่านั้นมาแบ่งปันกับเพื่อนๆ เป็นรีวิวฉบับนี้
เนื่องจาก BBM เวอร์ชั่นที่ผมใช้อยู่นี้ (1.0.0.67) เป็นเวอร์ชั่นที่คาดว่าน่าจะยังไม่สมบูรณ์ดีนัก เพราะอย่างนั้นอยากให้เพื่อนๆ อ่านรีวิวฉบับนี้ด้วยการบอกตัวเองไว้ก่อนว่า Blackberry เองยังมีข้อที่ต้องหยิบไปพัฒนาอีกมากโขอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง บั๊กส่งข้อความเสียงของ BBM เมื่อเลือกภาษาตัวเครื่องเป็นภาษาไทย ที่เราทดสอบเจอและรายงานกันไปก่อนหน้านี้
UI และอินเตอร์เฟซของ BBM
หากย้อนความกลับไป นานมากแล้วจริงๆ ที่ไม่ได้มีโอกาสแตะต้อง Blackberry เลย ผมเคยใช้ Blackberry และเคยเป็นติ่ง BBM แชตกระจายมาแล้วเมื่อประมาณสี่ปีก่อน (สมัยนั้นใช้ BB Storm 1 และต่อมาเปลี่ยนเป็น 2) และเมื่อตัวเองได้เข้าสู่อารยธรรมสมาร์ทโฟนตัวอื่นแล้วก็ไม่ได้กลับไปแตะต้อง BBM อีกเลย ดังนั้นการได้เห็นอินเตอร์เฟซใหม่ๆ บน BBM เวอร์ชั่นของ iOS (และ Android เพราะว่าเหมือนกันเลย) นั้นถือว่าสร้างความน่าตื่นเต้นให้กับผมได้มากมายทีเดียวครับ เพราะว่าเจ้า UI ของ BBM ในเวอร์ชั่นนี้สวยงามและน่าใช้เป็นที่สุด ดูแล้วเรียบง่าย และน่าหยิบจับมาลองเล่นดูแบบไม่เหนื่อยใจนัก ซึ่งถือว่าพัฒนาไปจากตอนสมัย BBM (รู้สึกจะเวอร์ชั่น 5 หรือ 6) ที่ผมเคยใช้อยู่มากโขเลยทีเดียว
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า UI ของ BBM ที่อยู่บนเครื่อง Blackberry ในยุคปัจจุบันนั้นจะเป็นอย่างที่เห็นบนแอพพลิเคชั่นของ iOS / Android หรือไม่ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรผมก็คงต้องขอชื่นชม Blackberry จริงๆ กับการรังสรรค์ UI ของแอพพลิเคชั่นส่งข้อความตัวนี้ให้ดูหรู เรียบง่าย น่าใช้ กินขาดคู่แข่งในตลาดไปเลยทีเดียว
การใช้งาน
แม้ว่า BBM จะเป็นแอพพลิเคชั่นที่มีหน้าตาสวยงามเพียงใด แต่การใช้งานของมันนั้นค่อนข้างน่าขัดใจมากมายทีเดียว (โดยเฉพาะกับเวอร์ชั่นที่ผมใช้อยู่ในตอนนี้ ซึ่งก็คือ 1.0.0.67) เรามาเริ่มกันตั้งแต่จุดแรกสุดเลยดีกว่า
– สมัครสมาชิก เข้าสู่ระบบเพื่อใช้งาน
ก่อนจะเริ่มต้นใช้งานได้นั้น ผู้ใช้จะต้องมีบัญชี BBM เสียก่อน ซึ่งถามว่าเป็นเรื่องแปลกหรือวุ่นวายไหมก็คงไม่ใช่ เพราะว่าบัญชีสมาชิกนั้นๆ มีขึ้นก็เพื่อแสดงตัวตนของเราต่อบริการที่เรากำลังสมัคร และเพื่อเป็นช่องทางในการเพิ่มการติดต่อระหว่างเราและเพื่อนของเรา แต่จุดที่มันยุ่งยากนั้นอยู่ตรงที่หากคุณเคยใช้งานบัญชี Blackberry อยู่แล้ว และคุณไม่ได้ใช้งานมันมานานมากจนลืมรหัสผ่านส่วนตัวไปเป็นที่เรียบร้อย (เอาจริงๆ ผมจำไม่ได้แล้วด้วยว่าเมื่อก่อนตอนใช้ BBM ใน Blackberry นั้นผมต้องกรอกรหัสผ่านอะไรก่อนใช้งานมันด้วยเหรอ?) ระบบจะไม่ยอมให้คุณสมัครสมาชิกใหม่เป็นอันขาดหากคุณยังคงใช้อีเมลเดิมกับตอนที่คุณเคยใช้กับเครื่อง Blackberry คุณครั้งกระโน้น
แน่นอนว่า Blackberry มีออฟชั่นให้คุณสามารถเลือกรีเซ็ตรหัสผ่านได้ แต่การจะรีเซ็ตรหัสผ่านนั้นคุณต้องจำคำตอบของคำถามเพื่อความปลอดภัยที่คุณเคยตั้งไว้ตอนใช้งานบัญชีเก่าของคุณให้ได้ด้วยนะครับ เพราะหากคุณจำรหัสตรงนี้ไม่ได้ คุณก็หมดสิทธิใช้อีเมลนั้นๆ ในการสมัครได้ในทันที ในกรณีของผม โชคดีที่คำถามที่ตั้งเป็นอะไรที่ไม่ยากเกินไปนัก เลยใช้เวลาในการเดาคำตอบ (และวิธีการสะกด) เสร็จได้ในเวลาไม่นาน
– เริ่มต้นใช้งาน
หนึ่งในสิ่งที่ผมไม่ค่อยจะเข้าใจเลยก็คือหากในเมื่อเราสามารถที่จะล็อกอินเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีเดิมของ BBM ที่เราเคยใช้ในสมัยครั้งกระโน้นได้แล้ว ตัวแอพพลิเคชั่น BBM เองควรที่จะดึงเอาข้อมูลผู้ติดต่อเดิมที่เราเคยมีบน BBM ที่เชื่อมโยงอยู่กับอีเมลของเราด้วยหรือไม่? ตามหลักแล้วผมคิดว่ามันควรเป็นเช่นนั้น เพราะถ้าไม่อย่างนั้นแล้วเราจะมีบัญชีไปเพื่ออะไรให้ต้องปวดหัวในขั้นตอนแรกของการล็อกอิน
แต่สำหรับ BBM เวอร์ชั่น iOS / Android นั้น หลังจากที่คุณได้ทำการเข้าระบบมาเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้รับ PIN ส่วนตัว (ที่ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเหมือน PIN เดิมที่เคยใช้งานไหม แต่คิดว่าไม่ เพราะสมัยนั้น PIN เปลี่ยนตามเครื่อง ไม่ใช่ผูกไว้กับบัญชี) และเมื่อคุณดำเนินการตั้งค่าข้อมูลส่วนตัวอะไรเรียบร้อยแล้ว BBM ก็จะพาคุณมายังหน้าหลักของแอพพลิเคชั่นที่ว่างเปล่า ไม่มีผู้ติดต่อเลยสักคน และคุณต้องเริ่มเพิ่มเพื่อนเข้าไปใหม่ตั้งแต่ต้นนั่นเอง (ซึ่งก็แน่นอนว่ามาจนถึงตอนนี้ไม่มีใครจำพินเพื่อนกันได้แล้ว)
ทั้งนี้ทั้งหมดนี้อาจจะยังพอเข้าใจได้ว่าคงเป็นเรื่องของความสามารถของทาง BBM เองที่ๆ ผ่านมาอาจไม่เคยซินซ์ข้อมูลของเพื่อนใน BBM ของเอาเอาไว้กับบัญชีเลย หากแต่กลับไปซินซ์เอาไว้กับ PIN ซึ่งทำให้เกิดปัญหาว่าเมื่อ PIN เปลี่ยน รายชื่อเพื่อนทั้งหมดก็หายไปด้วย ต่างกันกับ LINE ที่ใช้เป็นการซินซ์ข้อมูลไว้กับบัญชีสมาชิกโดยตรง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอย่างอื่น ทำให้ต่อให้เปลี่ยนเครื่องสักกี่ครั้ง เพื่อนเดิมๆ ของเราก็ยังอยู่และกลับมาอย่างครบครัน ซึ่งตรงนี้สำหรับผมแล้วถือเป็นความเสียเปรียบของ BBM เลยทีเดียว
– การเพิ่มเพื่อน / เพิ่มผู้ติดต่อ
BBM มอบทางเลือกให้เราค่อนข้างหลากหลายในการเพิ่มเพื่อนหรือผู้ติดต่อเข้าในรายการผู้ติดต่อของเราเพื่อทำการแชตกันต่อไปครับ โดยสองวิธีสุดคลาสสิกที่อาจเรียกได้ว่ากำเนิดมาจาก BBM เลยเหมือนกันอย่างการสแกนบาร์โค๊ดและการแลกพินกันก็ยังมีอยู่อย่างครบครัน นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถเลือกชวนเพื่อนเข้าร่วมคอนแท็คลิสได้ด้วยการส่งข้อความ SMS และอีเมลอีกด้วยครับ
วิธีการเพิ่มเพื่อนที่ค่อนข้างครีเอททีฟและใหม่ๆ อย่างเช่นการเขย่าเครื่องที่ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อกับเพื่อนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงและเขย่าเหมือนกันอย่างใน Line หรือระบบการระบุหาตำแหน่งเพื่อนอย่าง WeChat ยังไม่มีมาให้ใน BBM เวอร์ชั่นต้นนี้ แต่เชื่อว่าเราอาจจะได้เห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปจาก Blackberry Limited อย่างแน่นอน
– ระบบแชต
หากเรามองข้ามข้อผิดพลาดในส่วนต้นของการเริ่มต้นการใช้งาน BBM ไปได้และมาโฟกัสที่การใช้งานในส่วนของฟังก์ชั่นหลักของ BBM จริงๆ แล้วเราจะได้เจอกับแสงสว่างที่แท้จริงของแอพพลิเคชั่นตัวนี้ครับ เพราะเนื่องจาก UI ที่โดดเด่นด้านความเรียบง่ายแต่สวยงามของมัน ผนวกกับความสามารถในส่วนของการติดต่อสื่อสารผ่านการแชตที่น่าจดจำอยู่แล้วของ BBM ทำให้แอพพลิเคชั่นนี้เจิดจรัสขึ้นมาได้ในทันที แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะมากพอที่จะสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นกับวงการแชตได้สักเท่าไหร่นัก
ฟังก์ชั่นหลักๆ ที่เราเคยได้พบในสมัยที่ใช้ BBM บน Blackberry นั้นยังคงมีอยู่อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนสถานข้อความว่ามีการส่งไปแล้ว (D) และอ่านหรือยัง (R) ระบบการส่ง PING แจ้งเตือนที่พวกเราสมัยก่อนเคยชอบเรียกกันว่าระบบเรียกร้องความสนใจ ระบบการส่งข้อความออกไปยังหลายคอนแทคในลิสเช่นการทำ Broadcast ระบบการส่งข้อความเสียงที่ต้องถือว่า Blackberry นี่คือต้นฉบับเลยก็ว่าได้ และในส่วนของการส่งไฟล์ต่างๆ ที่ก็ต้องยกเครดิตให้กับ Blackberry อีกนั่นแหละ ทั้งหมดนี้มีมาอย่างครบถ้วน ครบครัน จนทำให้ผู้ใช้ไม่ได้รู้สึกขาดหายอะไรไปเลย (จะมีก็แต่หากคุณเลือกภาษาของเครื่องเป็นภาษาไทยในตอนนี้ BBM จะยังไม่สามารถส่งข้อความเสียงไปยังอีกฝั่งได้นะครับ ตามรายงานบั๊กที่เราได้มีการนำเสนอไปเมื่อวานนี้)
ฟังก์ชั่นบางอย่างของ BBM ในเวอร์ชั่นที่ผมทดสอบใช้งานอยู่นี้ยังมีง่อยๆ อยู่บ้าง โดยนอกจากเรื่องการส่งจ้อความเสียงที่มีปัญหาข้อความแปลงเป็นไฟล์ทั่วไปและเปิดฟังไม่ได้เฉยเลยหากเราเลือกภาษาของตัวเครื่องเป็นภาษาไทยแล้ว ผมก็ยังเจออีกหนึ่งสิ่งที่ไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าปัญหาได้หรือไม่ สิ่งๆ นั้นก็คือฟังก์ชั่นการทำ PING โดยการ PING นั้นเท่าที่ผมจำได้บน Blackberry Storm และ BBM เวอร์ชั่น 4 – 6 ของผมมันจะสั่นได้แม้ว่าหน้าแชตหน้านั้นจะเปิดอยู่ก็ตาม ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งสัญญาณแจ้งเตือนเพื่อนหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่กับเวอร์ชั่นนี้ หากเราเปิดหน้าแชตนั้นอยู่ การสั่ง PING จะเป็นเพียงการส่งตัวหนังสือสีแดงๆ ที่เขียนว่า PING ไปให้รกหน้าแชตเพื่อนเท่านั้นและจะไม่มีการสั่นแต่อย่างใด โดย PING จะใช้งานได้ผลก็ต่อเมื่อเพื่อนไม่ได้อยู่ในโปรแกรม BBM หรือไม่เปิดห้องแชตอยู่เท่านั้น ซึ่งหากเราไม่ได้เปิดโปรแกรมเอาไว้ ทุกๆ คำแจ้งเตือนจะถูกส่งมาไว้ในศูนย์การแจ้งเตือนและเด้งขึ้นบอกเราโดยอัตโนมัติ ดังรูปด้านล่างนี้ที่คุณ LoAxiom ส่ง PING มาหาผมตอนไม่ได้อยู่ในหน้าแชตครับ (จะขึ้นเป็น null)
เมื่อว่ากันถึงกระแสของแอพพลิเคชั่นที่ในตอนนี้เอง BBM ไม่ใช่เบอร์หนึ่งอีกต่อไปแล้วมันทำให้ผมอดเอาไปเปรียบเทียบกับแอพพลิเคชั่นด้านงานแชตเด่นๆ ตัวอื่นๆ เช่น Line และ WeChat ไม่ได้ เพราะในสิ่งที่ BBM ทำได้และเคยเป็นต้นฉบับนั้น ปัจจุบันนี้แอพพลิเคชั่นในลักษณะเดียวกันเจ้าอื่นก็ทำได้ และในบางฟังก์ชั่นก็นำห่างต้นฉบับมันไปแล้วเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นศึกนี้จึงต้องถือเป็นการบ้านชิ้นใหญ่หน่อยของ Blackberry ว่าควรจะเปิดลูกเล่นอะไรขึ้นมาเพิ่มเติมเพื่อสร้างความต่างให้เกิดขึ้น และสร้างฐานผู้ใช้งานเดิมของตัวเองให้กลับมามากที่สุง
– การแชตแบบกลุ่ม
หนึ่งในความพยายามในการสร้างความแตกต่างของ BBM ก็คือการพัฒนาฟังก์ชั่นการแชตแบบกลุ่มให้เหนือล้ำกว่าในคู่แข่งอย่าง Line ที่แบ่งเมนูย่อยของกลุ่มรวมออกเป็นแชตกลุ่มกับโน็ตกลุ่มเท่านั้น ซึ่งลักษณะและลูกเล่นของ BBM นั้นค่อนข้างหลากหลายกว่าเยอะ แต่ก็ทำให้ผมคิดไปถึง ROOM บน Windows Phone ที่มีการออกแบบการใช้งานและหน้าตา UI ที่คล้ายคลึงกันมากๆ รวมไปจนถึงมีการแบ่งซอยเมนูย่อยในกลุ่มออกลึกลงไปอีกเป็น แชต (Chats) รูปภาพ (Pictures) ลิสต์ (Lists) และ เหตุการณ์ (Events) แต่ตามที่ผมเข้าใจ BBM ไม่น่าจะมีกำหนดจำนวนคนร่วมกลุ่มสูงสุดเหมือนอย่าง Windows Phone ที่เป็นที่ขัดใจของผู้ใช้งานที่เน้นเมาท์ยกเซ็ตกันเหลือเกินมาแล้ว
UI ในหน้าหลักของกลุ่มย่อยแต่ละกลุ่มแบ่งแยกหมวดหมู่อย่างชัดเจน ทำให้การเลือกดูรูปภาพย้อนหลังเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องมานั่งไล่ตามประวัติการแชตเหมือนอย่างในไลน์ ทั้งนี้รวมไปจนถึงการทำโน็ตกลางไว้สำหรับเป็นการป้องกันการลืมของกลุ่ม หรือการเพิ่มนัดหมายต่างๆ เพื่อให้ทั้งกลุ่มรับทราบและมีข้อมูลอยู่โดยพร้อมเพียงกันก็ทำได้ง่ายๆ ผ่านทางการแชตแบบกลุ่มที่ BBM พัฒนามา ในส่วนนี้ต้องถือเป็นหนึ่งในลูกเล่นใหญ่ๆ ที่ Blackberry จัดเต็มใส่มาเพื่อผู้ใช้งานจริง และถือว่าทำได้เหนือชั้นกว่าคู่แข่งตัวฉกาจในบ้านเราอย่าง Line อีกด้วย
บทสรุป
โดยภาพรวมแล้ว BBM จาก Blackberry Limited ถือได้ว่าเป็นการเริ่มต้นออกสตาร์ทในระบบอื่นๆ ทั้ง iOS และ Android ได้สวยทีเดียวครับ หากแต่ยังคงต้องมีอะไรเก็บไปพัฒนาอีกมากหากจะมาตีเจ้าตลาดเดิมทางด้านนี้ลง (ซึ่งคำว่ามากในที่นี้คือมากจริงๆ) เว้นเสียแต่ว่า BBM เองจะสามารถหาอัตลักษณ์ให้กับตัวเองได้และเอาอัตลักษณ์นั้นมาใช้ประโยชน์ในการทำให้แอพพลิเคชั่นนี้แข็งแรงขึ้นต่อไปนั่นล่ะ เพราะว่าหากเทียบความน่าใช้ในส่วนของ UI แล้ว ในตลาดตอนนี้คงต้องบอกว่าต้องยอมให้ BBM ไปจริงๆ ครับ
ตลอดการทดสอบการใช้งาน เราเจอปัญหาโน่นนี่นั่นให้เห็นอยู่บ้างอย่างประปราย หากแต่เราเชื่อแน่ว่าอีกไม่นานทาง Blackberry น่าจะออกตัวแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้อย่างสำเร็จและพร้อมให้ผู้ใช้งานได้ดาวน์โหลดไปใช้กันอย่างสมบูรณ์ในวันเปิดดาวน์โหลดจริง (อีกครั้งหนึ่ง) ทั้งนี้ APPDISQUS เราเองไม่พลาดแน่ที่นะจำมารายงานอัพเดตกับเพื่อนๆ ทันทีที่เจ้า BBM เวอร์ชั่นสมบูรณ์เปิดให้ดาวน์โหลดทั้งบน iOS และ Android
[gradeC]