เมื่อก่อนหน้านี้ประมาณเดือนก่อนได้มีนโยบายออกมาในหน้าร้านค้าเกมหลายร้านไม่ว่าจะ Xbox หรือ Steam ของ Valve ว่าการซื้อเกมนั้นไม่ใช่การเป็นเจ้าของเกม แต่เป็นการ ” ซื้อสิทธ์การเข้าถึงเกมเท่านั้น ” สร้างความไม่พอใจให้กับเหล่าแฟนเกมบางส่วน ทำให้ GOG ออกมาเพิ่มนโยบายว่าเกดมที่คุณซื้อนั้นคูณจะเป็นเจ้าของเต็มที่! แต่เหมือนจะมีคนไม่เห็นด้วยโดยเฉพาะ Blizzard ที่จะนำ Warcraft ทั้งภาค 1 และ 2 ออกจากหน้าร้านค้า GOG ในวันที่ 13 ธันวาคมนี้
แต่ GOG ก็สัญญาว่าจะคงการสนับสนุนเกม Warcraft 1 และ Warcraft 2 ต่อไปแม้ว่าจะถูกถอดออกจากร้านค้าในเดือนนี้ GOG ระบุว่า Blizzard ได้ร้องขอให้เกมคลาสสิกทั้งสองชุดถูกถอดออกจากการขายในวันที่ 13 ธันวาคม ซึ่งตรงกับหนึ่งเดือนหลังจากที่บริษัทประกาศและวางจำหน่ายเวอร์ชันรีมาสเตอร์อย่างเป็นทางการบนแพลตฟอร์ม Battle.net ของตนเอง
เกมทั้งสองชุดได้รับการบรรจุเข้าสู่โครงการอนุรักษ์ของ GOG ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างหลักประกันว่าเกมคลาสสิกจะยังคงสามารถเล่นได้บนระบบคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ตลอดไป แม้ว่าจะถูกถอดออกจากร้านค้า แต่ GOG ยังยืนยันว่าจะใช้ทรัพยากรของตนเองเพื่อรักษาความเข้ากันได้กับคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ต่อไป
GOG ได้ประกาศด้วยความภาคภูมิใจว่า “เราภูมิใจอย่างยิ่งกับงานที่ทำกับ Warcraft I และ Warcraft II ซึ่งได้ฟื้นชีพขึ้นมาอีกครั้งหลังจากหายไปเป็นสิบปี” พวกเขาได้เพิ่มคุณสมบัติใหม่หลายอย่าง อาทิ การสนับสนุนการเล่นผ่าน LAN และตัวเลือกกราฟิกที่ปรับปรุงใหม่
ในแง่ของแผนการถอดเกมออกจากร้านค้า GOG ได้เปิดเผยฟีเจอร์ใหม่ของโครง โดยประกาศว่าเมื่อเกมเข้าร่วมโครงการแล้ว พวกเขาจะยังคงดูแลความเข้ากันได้ของเกมแม้ว่าจะถูกถอดออกจากร้านค้า ซึ่งหมายความว่าผู้เล่นที่เป็นเจ้าของเกมเหล่านี้จะยังคงได้รับประสบการณ์การเล่นที่ราบรื่นและการสนับสนุนให้เข้ากับระบบปฏิบัติการของปัจจุบันต่อไป
สำหรับผู้ที่สนใจซื้อชุด Warcraft I & II Bundle จาก GOG ก่อนที่จะถูกถอดออก สามารถใช้โค้ดส่วนลด MakeWarcraftLiveForever เพื่อลดราคา 2 ดอลลาร์หรือ 1.50 ปอนด์จากราคาปกติ 14.99 ดอลลาร์หรือ 11.89 ปอนด์
Blizzard ได้วางจำหน่ายเวอร์ชันรีมาสเตอร์ของ Warcraft 1 และ 2 รวมถึง Warcraft 3 Reforged Patch 2.0 ในช่วงงานฉลอง Warcraft 30th Anniversary Direct เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังได้ประกาศว่าจะเพิ่มฟีเจอร์ Player Housing ใน World of Warcraft ในส่วนขยายครั้งต่อไปชื่อ Midnight ซึ่งจะเปิดเผยรายละเอียดในช่วงฤดูร้อนปีหน้า
ที่มา : videogameschronicle