วันนี้(21 สิงหาคม 2566) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) แถลงเกี่ยวกับการส่งศาลเพื่อขออำนาจศาลในการปิดเว็บไซต์ Facebook ในข้อหาให้การสนับสนุน ร่วมหลอกลวงประชาชน รับเงินค่าโฆษณาจากคนร้าย เพื่อส่งโฆษณาหลอกลวงและฉ้อโกงประชาชนผ่านบัญชีปลอมต่าง ๆ
สืบเนื่องจากปัญหาเพจปลอม ซื้อโฆษณา Facebook เพื่อหลอกลวงและฉ้อโกงประชาชนมีมากขึ้นโดยไร้การตรวจสอบ ดีอีเอส จึงมีความเห็นว่า Facebook ให้การสนับสนุนการหลอกลวงและฉ้อโกงประชาชนด้วย ซึ่งจากข้อมูลกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ พบว่า มูลค่าการฉ้อโกงออนไลน์สูงถึง 1 แสนล้านบาท โดย 70% ของการหลอกให้ลงทุนเกิดบนแพลตฟอร์ม Facebook และ 90% ของการหลอกขายของออนไลน์นั้นเกิดบนแพลตฟอร์ม Facebook เช่นเดียวกัน ดังนั้นปัญหาใหญ่ของการที่ประชาชนถูกหลอกลวงและฉ้อโกงนั้นเกิดมาจาก Facebook
ดีอีเอส ระบุว่า ระบบการตรวจสอบของ Facebook ต้องปรับปรุงโดยด่วน ขีดเส้นตาย 1 เดือน พร้อมขู่จะดำเนินคดีทางอาญาและทางแพ่งกับ Facebook ในข้อหาสนับสนุนการหลอกลวงและฉ้อโกงประชาชน แต่เดิมวิธีการแก้ปัญหานี้คือการแจ้งปิดเป็นรายบัญชี แต่สุดท้ายแก้ปัญหานี้ไม่ได้ เพราะ Facebook ไม่เอาจริงเอาจังในการตรวจสอบขั้นตอนการซื้อโฆษณา ซึ่ง Facebook ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ด้วย
“ที่ผ่านมาเฟซบุ๊กมีการรับเงินจากเพจเหล่านี้ ซึ่งถือเป็นรายได้เข้าบริษัท แต่กลับไม่มีการตรวจสอบ และสกรีน ว่าเป็นเพจที่หลอกลวงหรือไม่ แต่กลับปล่อยให้เพจเหล่านี้มาหลอกลวงคนไทยจำนวนมาก แม้ที่ผ่านมา ดีอีเอส จะรวบรวมเสนอศาลขอคำสั่งปิดแต่เพจเหล่านี้ก็จะไปเปิดใหม่ เหมือนแมวไล่จับหนู ไม่จบสิ้น” นายชัยวุฒิกล่าว
ที่มา:
1. https://www.facebook.com/watch/live/