Blue Parking สตาร์ทอัพ เจ้าของนวัตกรรมระบบบริหารที่จอดรถอัจฉริยะ บริษัทในกลุ่ม Bluebik Group (บลูบิค กรุ๊ป) เผยการจอดรถระบบเดิมๆ เสี่ยงสัมผัสเชื้อโควิด-19 สูง เหตุมีผู้คนหลากหลายสัมผัสทั้งตู้กดรับบัตร และพนักงานแจกบัตรจอดรถ ชี้ระบบบริหารลานจอดรถของ Blue Parking เป็น “100% contactless” ผู้ใช้งานสามารถขับ จอง จอด และจ่ายเงินทันทีผ่านแอปพลิเคชัน ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคโควิด-19 หรือเชื้อโรคใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต อีกทั้งยังช่วยให้ผู้บริการลานจอดรถสามารถประหยัดต้นทุน ได้ประโยชน์จากบริการ Open API service เชื่อมต่อกับโมบายแอปพลิเคชันของแบรนด์ สามารถเก็บข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์อินไซต์ต่อยอดธุรกิจและบริการได้
นายณัฐภัทร เตชะอธิก กรรมการผู้จัดการ บริษัท บลู พาร์คกิ้ง จำกัด (Blue Parking) สตาร์ทอัพ เจ้าของนวัตกรรมระบบบริหารที่จอดรถอัจฉริยะ โดยใช้เทคโนโลยี IoT (Internet of Things) ที่เปลี่ยนแปลงประสบการณ์การจอดรถ ให้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น เปิดเผยว่า ปัจจุบันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ยังคงทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งอีกหนึ่งสิ่งที่ประชาชนควรตระหนักถึงและให้ความสำคัญเพื่อให้ห่างไกลต่อความเสี่ยงในการรับเชื้อไวรัส นั่นคือเรื่องของ “การใช้บริการที่จอดรถ” เนื่องจากมีการวินิจฉัยว่าเชื้อไวรัสนั้นอาจแพร่กระจายจากคนสู่คนได้ ผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมูก หรือน้ำลาย ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสในจุดที่มีคนสัมผัสเป็นจำนวนมาก และควรรักษาระยะห่างกับผู้อื่นเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายไวรัส โควิด-19
ทั้งนี้การใช้บริการที่จอดรถในระบบการจอดรถแบบเดิมมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากทุกครั้งที่เข้าใช้บริการผู้ใช้บริการจำเป็นที่จะต้องมีการสัมผัสกับทั้งจุดสะสมเชื้อไวรัส อาทิ การถือบัตรจอดรถ E-stamp การกดตู้กดรับบัตร ซึ่งจุดที่ยกตัวอย่างมานั้นผู้ใช้บริการไม่สามารถมั่นใจได้เลยว่าจุดเหล่านี้มีการสะสมเชื้อ และผู้ให้บริการได้ทำความสะอาดอยู่ตลอดหรือไม่ ที่สำคัญในบางครั้งยังต้องมีปฏิสัมพันธ์กับตัวผู้ให้บริการโดยตรง เช่น พนักงานรับบัตรจอดรถ พนักงานกลุ่มดังกล่าว มีโอกาสได้พบปะกับคนไม่รู้จักวันละหลายร้อยหลายพันคน นับเป็นผู้ที่มีโอกาสพบปะผู้ติดเชื้อรวมอยู่ในกลุ่มนั้น
“Blue Gate เป็นนวัตกรรมระบบบริหารที่จอดรถอัจฉริยะด้วยระบบ IoT ที่สามารถเปลี่ยนแปลงประสบการณ์การใช้บริการที่จอดรถของลูกค้าอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะในสถานการณ์สุ่มเสี่ยง เนื่องจากเป็นการเข้าจอดรถแบบ contactless หรือ ไร้การสัมผัส ด้วยเทคโนโลยี ALPR หรือ Automatic License Plate Recognition ที่สามารถอ่านป้ายทะเบียนรถยนต์ได้อย่างแม่นยำ มีการเชื่อมต่อกับไม้กั้นแบบอัตโนมัติ ทำให้ไม่ต้องใช้บัตรจอดรถในการผ่านเข้าออก และไม่ต้องสัมผัสบัตรจอดรถซึ่งผ่านมือคนจำนวนมาก อีกทั้ง ตัวผู้ให้บริการลานจอดรถเองก็ยังสามารถบริหารระบบจอดรถ เช่น กำหนดเวลาเปิดปิด การจัดการสมาชิก ฯลฯ ผ่านระบบ cloud โดยเป็นการทำงานแบบ real-time
นอกจากนั้นระบบ Blue Parking ยังรองรับการชำระค่าบริการแบบไร้เงินสดผ่าน QR Code บัตรเครดิตหรือเดบิต ทำให้ไม่จำเป็นที่จะต้องมีพนักงานประจำอยู่ตามจุดแจกหรือรับบัตรจอดรถ และผู้ใช้บริการไม่จำเป็นที่จะต้องพบปะพูดคุยกับพนักงานตามจุดบริการลานจอดรถ อีกทั้ง ยังช่วยลดปัจจัยเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการ Social Distancing หรือการรักษาระยะห่างทางสังคมได้เป็นอย่างดีอีกด้วย และระบบดังกล่าวยังช่วยให้ผู้ใช้บริการห่างไกลความเสี่ยงจากการติดเชื้อโรคระบาดอื่น ๆ ในปัจจุบัน เช่น ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ต่าง ๆ รวมไปถึงโรคติดต่อและโรคระบาดใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต” นายณัฐภัทร กล่าวเพิ่มเติม
ระบบบริหารการจอดรถอัจฉริยะจาก Blue Parking เป็นการยกระดับประสบการณ์ “การจอดรถเป็นเรื่องง่าย” หรือ Effortless Parking Experience ที่ไร้ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคจากการสัมผัสอย่างแท้จริง โดยในแง่ของผู้ให้บริการลานจอดรถในห้างสรรพสินค้า หรือโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ นั้นนอกจากจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับความปลอดภัยในสุขภาพให้กับลูกค้าแล้ว ยังสามารถประหยัดต้นทุนในการบริหารหรือจ้างพนักงานในการดูแลลานจอดรถ อีกทั้ง ยังสามารถใช้ประโยชน์จากบริการ Open API service ในการเชื่อมต่อระบบการจองที่จอดรถเข้ากับ Mobile Application ของแบรนด์ ช่วยขยายฐานลูกค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งสามารถเก็บข้อมูลของลูกค้าเพื่อวิเคราะห์หา insight เพื่อนำไปใช้ต่อยอดธุรกิจและยกระดับประสบการณ์การใช้บริการของลูกค้าต่อไปได้อีกด้วย