ข่าวนี้สะท้อนอนาคตของวงการ Voice Assistans หรือผู้ช่วยเสียงส่วนตัวในปัจจุบันได้ค่อนข้างดี จากมุมมองของคนวงในว่าบริการเหล่านี้จะเป็นอย่างไรเมื่อยุคของ AI ใหม่ เริ่มมาถึงผู้ใช้อย่างชัดเจน เริ่มจากคำสัมภาษณ์ของ Satya Nadella ซึ่งปัจจุบันเป็นซีอีโอของบริษัทไมโครซอฟท์ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Financial Times โดยให้คำนิยามของระบบผู้ช่วยเสียงส่วนตัวที่ผ่านมาว่า “ระบบพวกนั้นทึ่มเหมือนก้อนหิน” และใช่! เพราะดูเหมือนวงการผู้ช่วยเสียงนั้นกำลังหยุดนิ่ง และยังไม่มีอะไรใหม่เลยในปี 2023
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณปี 2014 ระบบผู้ช่วยเสียงเป็นอะไรที่นิยมกันอย่างมาก เมื่อ Cortana ของ Microsoft ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาแข่งขันกับ Siri เพื่อเป็นตัวเชื่อมโยงให้ผู้ใช้ได้คุยกับโทรศัพท์ส่วนตัวของตนเอง เพื่อให้โทรศัพท์ตอบคำถามและคอยทำงานให้ ทั้งในเรื่องเล็กน้อยไม่สำคัญเกี่ยวกับชีวิตในแต่ละวัน ไปจนกระทั่งข้อมูลเชิงลึกของโลกที่แสนวุ่นวาย มันเหมือนจะเป็นเทคโนโลยีอนาคตที่ดูดี จนกระทั่งเราทุกคนได้ตระหนักว่าการพูดคุยกับโทรศัพท์เหล่านี้ไม่ได้รับคำตอบตามที่เราคาดหวังกลับมากันสักเท่าไหร่
ในการให้สัมภาษณ์กับ Financial Times ของคุณ Satya Nadella CEO จากบริษัท Microsoft เกี่ยวกับ ‘ข้อคิดเห็นถึงบริการเสียงที่มีอยู่ในปัจจุบัน’ คุณ Satya ตอบโดยสรุปว่า
“พวกนั้นทั้งหมดทึ่มเหมือนก้อนหิน ไม่ว่าจะเป็น Cortana หรือ Alexa หรือแม้แต่ Google Assistant รวมถึง Siri ทั้งหมดนี้ถือว่าใช้งานไม่ได้ เรามีผลิตภัณฑ์ที่คิดว่าจะมาเป็นส่วนหน้าการใช้งานใหม่ที่เต็มไปด้วยข้อมูลจำนวนมาก แต่มันไม่ได้ผล”
ก็ต้องยอมรับว่าจากประสบการณ์ใช้งานผู้ช่วยเสียงส่วนใหญ่เน้นใช้งานในฟังก์ชั่นพื้นฐานเหมือนเป็นพนักงานที่คอยเปิดปิดอุปกรณ์ต่างๆ ที่เป็น IoT หรือช่วยบันทึกหรือตั้งปลุกนาฬิกาง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ได้อ้างอิงกับความสามารถและฐานข้อมูลมหาศาลที่มีอยู่อีกมากมาย เพราะผลลัพท์ที่ได้กลับมาในคำสั่งที่ซับซ้อนเหล่านั้น มักไม่ค่อยเป็นไปตามที่เราคาดหวังกันสักเท่าไหร่
ซึ่งในปัจจุบันอนาคตของผู้ช่วยเสียงส่วนตัวกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งในแง่ดีและแง่ร้ายครับ เช่นอนาคตของ Alexa จาก Amazon หนึ่งในผู้ช่วยด้านเสียงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็กำลังเผชิญความลำบาก การประกาศลดจำนวนพนักงานครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทด้วยการคัดคนออกไปมากถึง 18,000 คน ทำให้ทีมทำงานเกี่ยวกับระบบผู้ช่วยเสียงของยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก
และถ้าคุณจะจำได้ว่า Alexa แต่เดิมได้รับการออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการสั่งซื้อของบน Amazon เป็นหลัก คุณก็จะรู้ว่าในภาวะที่บริษัทขาดทุนอย่างหนักในตอนนี้ Alexa ไม่เพียงแต่จะไม่ทำเงินให้บริษัท แต่ยังทำให้ Amazon ต้องเสียเงินจำนวนมากในการบำรุงรักษาระบบในปัจจุบันด้วย และในอนาคตยังไม่รู้ว่าจะถูกพัฒนาไปต่อในด้านใด
ตัดกลับมาที่ Microsoft ก็มีข่าวปิดการใช้งาน Cortana โดยการลดบทบาทถูกใส่เข้าไปเป็นผู้ช่วยอยู่ใน Outlook เพราะหากไม่มีการทำตลาดกับอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่าง Windows Phone อย่างชัดเจน ตัวระบบ Cortana ก็ค่อนข้างจะไร้เป้าหมายในการใช้งาน โดยเฉพาะในขณะที่โลกกำลังมุ่งเน้นไปยังระบบ AI ที่มีความคิดถามตอบได้ในเชิงสร้างสรรค์ตัวใหม่ เช่นแชทบอท ChatGPT หรือ Bing ‘co-pilot’ โดยที่ทาง Google ก็กำลังเร่งพัฒนาระบบ AI แชทบอทใหม่ที่ชื่อว่า Bard ออกมาสู้ ChatGPT อยู่ด้วยเช่นกัน เรียกว่าทุกๆ อย่างกำลังจะหันไปทางระบบ AI ใหม่ที่กำลังเป็นกระแสนิยมอยู่ในขณะนี้
จึงมีคำถามอยู่สองข้อที่น่าสนใจเกี่ยวกับยุคสมัยของ AI ใหม่ และระบบผู้ช่วยเสียง นั้นคือ?
- มันเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ที่ AI กำลังได้รับความนิยมจนเป็นกระแส เหมือนระบบผู้ช่วยเสียงที่เปิดตัวแข่งกันในหลายปีก่อนหรือไม่?
- ข้อที่สองคือ บริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้จะสามารถรวม AI ใหม่ ให้เข้าไปสัมพันธ์กันกับระบบผู้ช่วยเสียง เพื่อเสริมให้ได้ผลลัพท์การใช้งานในระดับใกล้เคียงต่อการคาดหวังของผู้ใช้มากขึ้นกว่าเดิมได้หรือเปล่า?
แม้คำถามแรกอาจจะเร็วไปที่จะได้รับคำตอบ ถึงกระนั้นก็เชื่อว่าสิ่งนี้จะแตกต่างจากสมัยสร้างกระแสของระบบผู้ช่วยเสียงอย่างมาก เพราะ AI ใหม่ได้กำเนิดสิ่งที่เป็นเรียกว่าเป็นความก้าวหน้าสำคัญสำหรับด้านเทคโนโลยีที่ถูกหยิบไปใช้ได้อย่างเปิดกว้างมากกว่า โดยคุณ Adam Cheyer ผู้ที่มีส่วนในการร่วมสร้างระบบผู้ช่วยเสียง Siri ของ Apple ก็คิดในแนวทางนี้เช่นเดียวกัน โดยให้คำสัมภาษณ์เอาไว้ว่า “ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องของคุณภาพ … โดยพื้นฐานแล้วเทคโนโลยีนี้จะช่วยเปิดกว้าง แก้ปัญหาความยืดหยุ่นและซับซ้อนที่มีอยู่ในระบบสั่งงานด้วยเสียงรุ่นก่อนๆ และฉันคิดว่าเรากำลังจะเข้าสู่ยุคเรอแนซ็องส์ที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเรื่องนี้”
ส่วนคำถามที่สอง แม้อาจจะมีข้อสงสัยว่า Google, Amazon และ Apple สุดท้ายจะทำอย่างไรเกี่ยวกับการใช้ AI เข้ามาเป็นตัวเสริมให้เกิดประโยชน์กับระบบผู้ช่วยเสียง แต่สำหรับ Microsodft สิ่งนี้รับประกันได้เลยว่ามันคืออนาคตของพวกเขาอย่างแน่นอน เพราะ Microsoft กำลังดำเนินการอย่างหนักเพื่อจับมันรวมเข้ากับเบราว์เซอร์ Edge, ใส่ในหน้าแรกของระบบค้นหา Bing รวมถึงใส่เข้าไปในแอพมือถือทั้งหมดของ Microsoft และน่าจะมีความหวังได้เห็นอะไรใหม่ๆ สำหรับ Windows 12 ที่กำลังจะมา เรียกว่าถูกหยิบมาใช้ในทุกๆ อย่างของพวกเขาทั้งหมดเลย
โดยที่ Microsoft ก็เพิ่งประกาศการจัดงานใหม่ที่เน้น AI ในชื่องานว่า “The Future of Work: Reinventing Productivity with AI” ในวันที่ 16 มีนาคม ซึ่งเกี่ยวกับวิธีที่ AI จะขับเคลื่อนวิธีการทำงานแบบใหม่ทั้งหมดสำหรับทุกคนและทุกองค์กร อาจจะมีอะไรที่เกี่ยวกับระบบผู้ช่วยด้านเสียงในงานครั้งนี้แบบชัดเจนเกิดขึ้นก็ได้ เรียกว่าจัดเต็มแบบกอบโกยกระแส AI อยู่คนเดียวเต็มๆ
ถ้ามีอะไรน่าสนใจ Appdisqus จะหยิบมารายงานกันให้ทราบในข่าวต่อๆ ไปนะครับ