ปัจจุบันทั่วโลกกำลังประสบปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ในระดับวิกฤตที่สุดครั้งหนึ่งของประวัติศาสตร์ ผลพวงมาจากทุกๆ อุตสาหกรรม ตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงตลาดรถยนต์และอุปกรณ์ทั่วไปรอบตัวมนุษย์ทุกๆ อย่าง ต้องการใส่ชิปเซ็ตเพื่อเพิ่มความฉลาดให้กับพวกมัน แทบไม่มีอีกแล้วกับการออกแบบอุปกรณ์สมัยใหม่ที่มันไม่มี “สมอง” ในการรับคำสั่งใดๆ ได้เลย
ผลกระทบกระจายเป็นวงกว้าง เพราะเซมิคอนดักเตอร์คือวัสดุพื้นฐานที่ต้องใช้ในทุกงานผลิตอีเล็คโทรนิค และตอนนี้เจ้าหน้าที่ระดับสูงฝายผลิตของสมาร์ทโฟนยอดนิยมทั้ง realme และ Xiaomi ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้และเน้นว่า “นี่เป็นเรื่องที่สำคัญ”
สำหรับผู้ที่ไม่ทราบว่าปัจจุบันโลกเรามีปัญหาการขาดแคลนชิปไปทั่วโลก โดยเฉพาะตั้งแต่เกิดปัญหา COVID ตลาดโลกถูกบังคับให้เข้าสู่ยุคดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น ผู้ผลิตต้องออกแบบสินค้าตนให้ทันยุคสมัย ความต้องการชิปเซ็ตมีเพิ่มขึ้นอย่างมากมายในทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะรถยนต์มีความต้องการในการใช้เซมิคอนดักเตอร์สูงมาก นำไปสู่ปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อนำมาผลิต ส่งผลให้ราคาสินค้าต่างๆ มีการต้นทุนที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน
และปัญหานี้ดูจะไม่จบง่ายๆ ด้วยครับ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอย่างน้อยปัญหาขาดแคลนจะลากยาวไปจนถึงสิ้นปีเป็นอย่างต่ำ เพราะแม้การผลิตจะขาดแคลน แต่ความต้องการใช้งานเซมิคอนดักเตอร์ยังคงโตขึ้นอย่างต่อเนื่องสวนทางกันอย่างชัดเจน
ตามรายงานจากสื่อในประเทศจีน Yicai รายงานว่า “ชิปของสมาร์ทโฟน Qualcomm หมดสต็อกเรียบร้อย” เมื่อผู้บริหาร Realme ออกมาระบุ ชิปของ Qualcomm หมดสต็อกเนื่องจากปัญหาการจัดหาวัตถุดิบ แหล่งจ่ายไฟและอุปกรณ์ภาครับสัญญาณความถี่ด้วยเช่นกัน
และเมื่อย้อนกลับไปในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Lu Weibing ประธานบริษัท Xiaomi ได้กล่าวไว้เพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาการขาดแคลนชิปในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แต่เป็นปัญหาขาดแคลนอย่างหนัก ซัพพลายเชนที่ต้องส่งมอบวัสดุสำหรับผลิตชิปของ Qualcomm จัดส่งสต็อกให้ล่าช้าไปแล้วกว่า 30 สัปดาห์ การส่งมอบชิป CSD Audio สำหรับบลูทูธ ก็ล่าช้าไปถึง 33 สัปดาห์แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปัญหานี้เกิดขึ้น ก็ส่งผลทำให้แบรนด์อื่น ๆ เช่น Huawei, Oppo, Vivo และ OnePlus สั่งเพิ่มสต็อกของส่วนประกอบทสมาร์ทโฟนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทำให้สถานการณ์ขาดแคลนยิ่งเลวร้ายลงไปอีก
ซ้ำเติมข่าวโดยนักวิเคราะห์ด้านอุตสาหกรรมจากไต้หวัน ออกมาระบุยืนยันว่า “ปัจจุบัน ชิปโปรเซสเซอร์สำหรับโทรศัพท์มือถือ ชิปจัดการพลังงาน PMIC และชิปไมโครโปรเซสเซอร์ MCU ที่มีในสต็อกของผู้ผลิตได้หมดลงเรียบร้อยแล้ว” ในทางด้านธุรกิจชิปหน่วยความจำของ Samsung รองประธานบริหาร Han Jinman ยังออกมาระบุด้วยว่า เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนโรงหล่อชิปทำตามงานสั่งผลิตไม่ทัน จากการจัดหาส่วนประกอบเซมิคอนดักเตอร์ ได้กลายเป็นปัญหาระดับโลกและอาจส่งผลต่อความต้องการในกลุ่มอุปกรณ์พกพา
ผลิตช้า สินค้าน้อย ผลิตไม่ทัน ต้นทุนต่อชิ้นก็จะสูง ราคาของแพงก็จะตามมาครับ หวังว่าปัญหานี้จะอยู่ไม่นาน จนส่งผลออกมาถึงผู้ใช้งานอย่างเราๆ อย่างชัดเจนนะครับ