กราบสวัสดีเพื่อนๆพี่ๆทุกคนครับ กลับมาตามสัญญาหลังจากที่ผมเคยให้สัญญาไปครั้งที่แล้วว่าครั้งนี้จะมาพูดถึงเรื่องเมนูต่างๆของกาแฟ สำหรับเมนูกาแฟในปัจจุบันนั้นจะพบได้ว่ามีมากมายหลากหลายเลยจริงไหมครับ แล้วแต่ละเมนูนั้นถึงแม้จะเป็นที่คุ้นหูกันดี แต่เชื่อว่ามีหลายๆคนที่ยังไม่ทราบถึงความหมายของเมนูนั้นเป็นแน่ เอาเป็นว่าเพื่อไม่ให้เปนการเสียเวลา เรามาดูกันดีกว่าครับว่าแต่ละเมนูนั้นประกอบไปด้วยอะไรกันบ้าง และแตกต่างกันอย่างไรครับ
Espresso กาแฟเอสเพรสโซ่
ผมขอเริ่มที่ Espresso ก่อนเลยนะครับ เพราะตัวนี้ถือเป็นทีเด็ดเลยครับ คนไทยหลายคนชอบสั่งมากครับ Espresso เย็น หวานหอมมันอร่อย ฮ่าๆๆ แต่จริงๆแล้วรู้หรือไม่ครับว่า Espresso เนี่ยจริงๆแล้ว คือ 1 Shot เล็กๆเท่านั้นนะครับ เป็น 1 Shot ที่ทำออกมาจากเครื่อง Espresso Coffee Machine เราเลยเรียกมันว่า กาแฟ Espresso
Espresso นั้นเป็นกาแฟที่มีความสำคัญอย่างมากนะครับ เพราะเจ้าตัวนี้ถือเป็นกาแฟที่เป็นพื้นฐานของทุกเมนูเลย หากว่าร้านไหนทำ Espresso ออกมาไม่อร่อยแล้ว เมนูอื่นๆก็จะไม่อร่อยตามไปด้วย เพราะฉะนั้น Barista (คนทำกาแฟ) ควรจะใส่ใจส่วนนี้ให้มากๆนะครับ ส่วนใหญ่คนที่จะนิยมดื่มเมนูนี้จะเป็นชาวอิตาลีครับ เพราะว่ามันดื่มง่าย ดื่มไว กระปรี้กระเปร่า (คล้ายๆการดื่มสุราแบบเพียว)
ขอเล่านิดนึง…ปกติแล้ว Espresso เย็นเนี่ย ต่างประเทศเค้าไม่มีหรอกนะครับ ผมคาดว่าเป็นเพราะ บ้านเค้าอากาศค่อนข้างเย็นอยู่แล้ว จึงนิยมดื่มกาแฟแบบร้อนกันมากกว่า แต่เอาเป็นว่าเมื่อในประเทศไทยมี (อาจจะเป็นที่เดียวที่มี) ก็สั่งดื่มได้ครับ แต่ต้องพยายามปรับความเข้าใจกับบาริสต้า และ คนดื่มให้เข้าใจตรงกันนะครับ เพราะหากว่าบาริสต้าร้านไหนเค้าอิงแบบเมืองนอก จับช็อต Espresso ใส่น้ำแข็งมาให้ดื่มแล้วจะสะดุ้งเอาครับ
Americano กาแฟอเมริกาโน่
มาต่อกันด้วย Americano เลยครับ สำหรับใครที่ชอบดื่มกาแฟขมๆเข้มๆแนะนำเลยครับเมนูนี้ สำหรับกาแฟอเมริกาโน่นั้นหากเรียกตามความเข้าใจสั้นๆง่ายๆของคนไทยก็คือกาแฟดำนั่นเอง โดยเมนูนี้จะเป็นการนำเอาช็อตเอสเพรซโซ่มาใส่น้ำเข้าไปเพิ่มทั้งเมนูร้อนและเย็น ทำให้ได้รสชาติที่ยังคงเอกลักษณ์ของเอสเพรซโซ่อยู่ แต่ว่าจะเจือจางลงทำให้สามารถดื่มได้ง่ายขึ้น หากใครจะใส่น้ำตาลหรือเติมนมเพิ่มเข้าไปก็ได้นะครับ แต่ถ้าไม่เติมนมหรือน้ำตาลเลย อเมริกาโน่แก้วนีจะเหมาะมากๆกับสาวๆหรือหนุ่มที่กำลังลดความอ้วนอยู่ครับ
เกือบลืมไปว่าผมมีเรื่องเล่าของเจ้าเมนูนี้มาฝากด้วยครับ เชื่อกันว่าเมนูอเมริกาโน่นั้นจริงๆแล้วมีต้นกำเนิดมาจากทหารอมริกันครับ หลายปีก่อนในช่วงที่ทางอิตาลีได้ผลิตเครื่อง Espresso Coffee Machine (เครื่องชงกาแฟ) ขึ้นมาครั้งแรก มีทหารอเมริกันกลุ่มหนึ่งได้ทดลองดื่มกาแฟที่ออกมาจากเจ้าเครื่องนี้ครับ ซึ่งมันก็คือ ช็อตเอสเพรซโซ่เพียวๆนั่นเอง งานนี้เล่นเอาทหารอเมริกันไปไม่เป็นเลยครับกับรสชาติของกาแฟแบบเอสเพรซโซ่ ทางทหารอเมริกันไม่รู้จะทำอย่างไร จึงขอให้บาริสต้าชาวอิตาลีได้เติมน้ำร้อนลงไปเพิ่มครับ เพื่อให้สามารถดื่มได้ง่ายขึ้น เพราะว่ารสชาติเจือจางลงนั่นเอง และนั่นก็เลยเป็นสาเหตุให้เจ้าเมนูนี้ชื่อว่า กาแฟอเมริกาโน่ครับ (คล้ายๆว่าชาวอิตาลีจะแอบหยิกชาวอเมริกันเบาๆโดยตั้งเมนูนี้มาให้เฉพาะสำหรับคนที่กินเอสเพรซโซ่เพียวๆไม่ได้นั่นเอง)
Latte กาแฟลาเต้
ชื่อนี้น่าจะเป็นเมนูโปรดของใครหลายๆคนครับ ด้วยความที่เป็นเมนูที่ชื่อจำง่ายและที่สำคัญมันอร่อยด้วย จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าเมนูนี้จะเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆจากผู้ดื่มกาแฟทั่วโลก ส่วนประกอบของกาแฟลาเต้นั้นจริงๆแล้วไม่ได้มีอะไรมากครับ หากเป็นลาเต้ร้อนจะเป็นการนำเอาช็อตเอสเพรซโซ่มาผสมกับนมร้อนเท่านี้ก็จะได้เป็นกาแฟลาเต้หนึ่งแก้วแล้วครับ จำง่ายๆว่ามันเป็นกาแฟผสมนม
แล้วทำไมถึงชื่อว่า Latte (ลาเต้)? ชื่อนี้เป็นภาษาอิตาลีครับ โดยคำว่า Latte นั้นความหมายของมันก็คือนมนั่นเอง ชื่อเต็มๆของมันคือ Caffè latte หรือ Coffee Latte ซึ่งนั่นก็หมายถึงกาแฟ+นม นั่นเองครับ
เมนูนี้จะเหมาะมากๆสำหรับใครที่ไม่ชอบทานกาแฟเข้มๆครับ เพราะการเติมนมเพิ่มเข้าไปนั้นทำให้ได้รสชาติที่หวานผสมกับความขม จึงออกมาลงตัวอย่างที่สุดครับ แต่อาจต้องระวังเรื่องน้ำหนักนิดนึงนะครับ ใครที่กำลังลดความอ้วนอยู่อาจเลี่ยงไปผสมเป็นนม Low Fat หรือเลี่ยงเมนูนี้ไปเลยดีกว่าครับ
Cappuccino กาแฟคาปูชิโน่
สำหรับคาปูชิโน่นั้นถือเป็นอีกเมนูที่ได้รับความนิยมไม่ต่างจากลาเต้เลยครับ ด้วยความที่มันเป็นกาแฟที่ผสมนมเช่นกัน ฉะนั้นมันอร่อยแน่นอนครับ แล้วมันแตกต่างอย่างไรกับกาแฟลาเต้ล่ะถ้าหากว่ามันเป็นการนำเอาเอสเพรซโซ่มาผสมกับนมเหมือนกัน?
ความแตกต่างระหว่าง กาแฟลาเต้กับกาแฟคาปูชิโน่ จริงๆแล้วเป็นเรื่องของอัตราส่วนครับ ในแง่ของกาแฟร้อน 1 แก้ว ลาเต้จะมีนมผสมอยู่มากกว่าและฟองนมที่อยู่ด้านบนจะบางกว่าครับ ในส่วนของคาปูชิโน่จะมีฟองนมที่หนากว่าซึ่งทำให้ปริมาณของนมในแก้วนั้นลดน้อยลงไป ดังนั้นกาแฟคาปูชิโน่จะมีรสชาติที่เข้มข้นกว่าลาเต้ขึ้นมานิดนึงครับ ที่สำคัญจะรู้สึก Foamy กว่าด้วย เพราะฟองนมที่หนากว่าทำให้เราได้รสสัมผัสคนละแบบกับการดื่มลาเต้ครับ (แนะนำให้งับฟองนมเข้าไปเยอะๆครับเวลาดื่ม รับประกันว่าฟินแน่นอน)
ปล.หากเป็นเมนูเย็น ฟองนมที่หลายๆร้านโปะมาให้ด้านบนนั้นอาจจะไม่ได้ทำให้เรารู้สึก Foamy กับฟองนมอันหนานุ่มด้านบนครับ เพราะว่าเราดื่มจากหลอด T-T แต่อย่างไรซะมันก็ดูน่ากินขึ้นครับ
Mocha กาแฟมอคค่า
เชื่อว่าเมนูนี้เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆคนอีกเช่นเคยครับ ถ้าถามผมว่าทำไมก็คงเป็นเพราะ รสชาติของกาแฟและช็อกโกแลตหรือโกโก้ที่เข้ากันได้พอดิบพอดี นอกจากนี้ยังได้ความหวานจากนมที่ผ่านการสตรีมมาร้อนๆอีกด้วยครับ เรียกได้ว่าทำออกมาเอาใจคนชอบความหวานเลยครับ สำหรับใครที่ไม่รู้ว่ากาแฟมอคค่าคืออะไร บอกได้เลยว่ามันก็คือการผสมผสานกันระหว่าง เอสเพรซโซ่+นม+โกโก้/ช็อคโกแลต รสชาติที่ได้ก็จะคล้ายการนำกาแฟมาใส่กับนมช็อคโกแลตประมาณนั้นเลยครับ
แต่ทว่านอกจากความอร่อยของเมนูนี้แล้วจริงๆมันมีที่มาที่ไปด้วยนะครับ จริงๆแล้วคำว่า Mocha/Mokha เป็นชื่อของท่าเรือหนึ่งในเยเมนครับ โดยกาแฟที่ปลูกและขายที่นั่นเนี่ย มีกลิ่นและรสชาติเหมือนโกโก้หรือช็อคโกแล็ต ก็เลยเป็นที่โจษจันมาถึงหมู่บ้านบางระจันของเรา (มั่วและ) คราวนี้คนก็เลยติดใจชอบไปกินกาแฟที่นั่นกันไงครับ แต่การที่จะเดินทางไปกินที่ท่าเรือดังกล่าวทุกวันนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มันก็เลยมีคนปิ๊งไอเดียโดยการนำเอาโกโก้หรือช็อคโกแลตใส่เข้าไปในกาแฟแล้วก็บู้ม!!! กลายมาเป็นกาแฟมอคค่าในทุกวันนี้นี่เองครับ