Death Dome คือเกมไตเติลล่าสุดจาก Griptonite Games ที่ตอนนี้ถูก Glu Mobile ซื้อรวบหัวรวบหางไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเกมใหม่จาก Griptonite นี้ใช้สไตล์การเล่นแบบเดียวกับเกมดังอย่าง Infinity Blade และ Blood and Glory รวมไปจนถึงยังมีการรวมเอาระบบเหรียญ Glu เพื่อใช้ซื้อของใน In-App Purchase เอาไว้ด้วย
ก่อนจะไกลกว่านี้ ขออนุญาตโน๊ตถึงเพื่อนๆ ที่ไม่ชอบเกมรุนแรงเลือดท่วมกันสักหน่อยว่าเกมนี้อาจจะไม่เหมาะกับคุณเลย เพราะว่ามันทั้งโหด เต็มไปด้วยเลือก และซาดิสดีจริงๆ
ถ้าคุณเคยเล่น Infinity Blade มาก่อน คุณจะสามารถบังคับ Death Dome ได้อย่างคล่องแคล่วแทบจะทันที ตัวเกมจะบังคับให้คุณต้องเข้าต่อสู้กับศัตรูต่างๆ ที่เรียงรายกันเข้ามาแบบตัวต่อตัวผ่านวิธีการบล็อกการโจมตี การกระโดดหลบหลีก ป้องกันตัวเองจาการโตมตีของศัตรูไปเรื่อยๆ จนกว่าคุณจะเห็นช่องทางในการสวนการโจมตีกลับ ทุกๆ การกระทำภายในเกมนั้นสามารถสั่งการได้จากการสัมผัสหน้าจอ iPad ของคุณและการวาดสัญลักษณ์ต่างๆ ลงไป ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการฟันศัตรูของคุณ สิ่งที่คุณต้องทำก็เพียงแค่การวาดนิ้วไปมาบนหน้าจอ การโจมตีของตัวละครคุณก็จะเป็นไปตามทิศทางที่คุณวาดนิ้วลงบนหน้าจอ และหากคุณต้องการบล็อกการโจมตีของศัตรู คุณสามารถทำได้โดยการกดปุ่มบล็อกการโจมตีค้างเอาไว้เพื่อให้ตัวละครเอาโล่ห์ออกมาบ้างป้องกันตัวเขาเองจากการโจมตี
แต่ละด้านของหน้าจอจะมีปุ่มสำหรับการกระโดดพุ่งหลบเพื่อให้คุณสามารถพุ่งตัวไปทางซ้ายและขวาเพื่อกระโดดหลบการโจมตีของศัตรู ทั้งหมดนี่คุ้นมากเลยใช่ไหมครับ…ใช่แล้วล่ะครับ มันคือ Infinity Blade เกมเชื่อดังเปรี้ยงปร้างจาก Chair Entertainment นั่นล่ะครับ ยิ่งหากมองจากมุมของเกมจากค่าย Glu นี้อย่าง Blood of Glory ที่เคยทำเอาไว้แบบนี้เปี๊ยบๆ เราคงต้องยอมรับจริงๆ ว่ามันน่าผิดหวังมากที่เห็น Glu คิดจะปลอกลอกคนเล่นอีกครั้งด้วยการเอาเหล้าเก่ามาใส่ขวดใหม่แล้วออกวางขายแบบนี้
ในเกมอาจจะสิ่งเล็กๆ ที่แตกต่างไปจากเกมสองไตเติลยักษ์ที่ว่ามาข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นงานด้าวกราฟิกที่ดูฉีกไปอีกแนวหนึ่งเลย หรืองานฉากที่มีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ซึ่งหากคุณไม่ชอบความซ้ำซากจำเจของฉากและอารมณ์ด้านกราฟิกแล้ว Death Dome อาจเป็นทางเลือกของคุณเหนือเกมอื่นในลักษณะเดียวกันนี้
เนื้อเรื่องภายในเกมเกี่ยวกับไวรัสตัวหนึ่งที่แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมือง ส่งผลให้ชีวิตคนในเมืองมากมายต้องจบลงภายในเวลาหนึ่งวัน แต่ในกลุ่มผู้โชคร้ายเหล่านั้นก็ยังมีผู้โชคดีที่สามารถรอดชีวิตจากเชื้อไวรัสนี้อยู่บ้าง ทุกคนที่ตายไปด้วยไวรัส M จะกลายสภาพตัวเองไปเป็นตัวประหลาด เพราะเหตุนี้รัฐบาลจึงต้องมีการประกาศเขตควบคุมโรคร้ายนี้เอาไว้ให้อยู่ภายในเมืองเท่านั้นเพื่อไม่ให้แพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ที่ยังปลอดภัยอยู่ เรื่องราวความโกลาหลทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นเมื่อตัวละครเอกไม่ทราบชื่อที่เราเล่นนี้พบว่าตัวเธอที่มีภูมิคุ้มกันไวรัสตัวดังกล่าวกำลังติดอยู่ในเขคกักกันโรคร้ายนี้พร้อมกับเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์จากไวรัสที่อยู่รายล้อมรอบตัวเธอ
แค่ดูจากเนื้อเรื่องย่อคุณก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่านอกจากเกมเพลย์ที่ลอกเอา Infinity Blade หรือ Blood Glory มาแล้ว Death Dome ยัง “ได้รับแรงบันดาลใจ” (พยายามหาคำที่ดูดีให้หน่อย) มาจากเกมอีกมากมายหลายเกมเพื่อเอามาดัดแปลงเป็นเกมของตนเองนี้ แต่ละฉากก่อนการตัดเช้าการต่อสู้จะมีคัตซีนโผล่มาให้เราได้เห็นอารมณ์ของตัวละครเองของเราและโลกที่เธอต้องอาศัยอยู่บ้าง แต่ถึงจะอย่างนั้น ตัวละครเอกที่เราเล่นนี้ก็ยังเป็นบุคคลปริศนาสำหรับทั้งผู้เล่นและตัวละครรอบข้างอยู่ดี ตรงจุดนี้ผมเห็นว่าบางทีค่ายผู้พัฒนาอาจทิ้งปมเอาไว้เพราะไม่รู้ว่าจะเขียนเรื่องยังไงต่อดี มากกว่าจะทิ้งไว้เพราะความตั้งใจอยากให้มันเป็นเสน่ห์ของเกม แต่ไม่ว่าจริงๆ แล้วจะเป็นอย่างไร Death Dome ก็มีช่องโหว่มากมายที่ทิ้งไว้ให้ผู้เล่นต้องใช้จินตนาการในการเติมเต็มเอาเองนั่นล่ะ
แต่ Griptonite ก็พยายามหาอะไรบางสิ่งบางอย่างมาสร้างความน่าสนใจให้กับตัวเกมที่ดูเหมือนจะ “ได้รับแรงบันดาลใจ” มาจากเกมอื่นอย่างเต็มที่นี้อยู่บ้าง ยกตัวอย่างเช่นงานด้านกราฟิกที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่าคุมโทนให้ออกมาดูทันสมัยและแตกต่างจากสองเกมยักษ์ที่มีวิธีการเล่นแบบเดียวกัน และที่ดีที่สุดในเกมคือศัตรูที่มีมากมายหลากหลายให้เราได้เห็นแบบแทบจะไม่ซ้ำหน้าเลยทีเดียว ศัตรูพวกนี้ยังมีการโจมตีที่แตกต่างกันไปเฉพาะตัวอีกด้วย
ทุกๆ ครั้งที่มีการตัดฉาก ตัวเกมจะตัดด้วยแผนที่ของเมืองที่ทำให้เราได้รู้ว่าตัวละครเอกของเรานั้นกำลังเดินทางไปยังจุดมุ่งหมายต่อไปอยู่ตลอด และในหลายๆ ฉากจะมีมินิเกมส์ให้เราได้เล่นแก้เซ็งสอดแทรกอยู่บ้างก่อนจะมุ่งหน้าตรงดิ่งเข้าไปฟาดฟันกับศัตรูประจำฉากนั้นๆ
Glu Mobile ทำเกมดีๆ ออกมากมายอยู่นะครับตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่ที่ผมไม่เคยจะชอบใจเลยสักครั้งในเกมฟรีเมี่ยมของ Glu ก็คือระบบเหรียญ Glu ที่บังคับให้เราต้องใช้เงินจริงๆ ในการซื้อของเพื่ออัพเกรดหรือเพื่อจุดประสงค์ต่างๆ ตามแต่ละเกม หรือหากไม่ใช้เงินจริงซื้อก็ต้องดาวน์โหลดพวกแอพพลิเคชั่น (ที่ส่วนใหญ่จะเป็นแอพขยะ) มาลงเครื่องแทน ใน Death Dome เองก็ไม่ต่างกันเลยสักนิด และที่น่ารังเกียจมากๆ (เหมือนอย่างใน Blood and Glory) ก็คือความไม่ค่อยจริงใจของ Glu ที่ปล่อยเกมมาเป็นเกมฟรีก็จริง แต่หากไม่มีการซื้อของโดยใช้เงินสดแล้ว คุณก็ไม่ต้องหวังจะผ่านด่านไปได้เลย เพราะความยากของตัวเกมเมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งนั้นมันเปรียบเสมือนกฏตายตัวของ Glu ที่ขีดไว้บังคับคุณแล้วว่าหากอยากเล่นต่อยังไงก็ต้องจ่ายเงินซื้อของ “ก(ลู)” เท่านั้น!
ผมเองเข้าใจว่า Glu จำเป็นต้องมีต้นทุนในการสร้างเกมแต่ละเกมออกมา แต่หาก Glu จะพยายามบัลลานซ์ระบบและเกมเพลย์ให้ไม่จำเป็นต้องเหมือนจงใจบังคับซื้อกันขนาดนี้คงจะดีกว่ากันเยอะ หรือหากคิดว่าตัวเกมของตนมีต้นทุนสูงจริง สู้ปล่อยมาแบบให้ต้องเสียเงินซื้อไปเลยยังดีกว่ามาหลอกให้เล่นไปสักพักด้วยการเปิดตัวเป็ยเกมฟรีแล้วค่อยมาบังคับกันทีหลังให้ต้องจ่ายเงินแบบนี้
เลิกบ่นเรื่องเงินๆ ทองๆ แล้วกลับมาโฟกัสในส่วนของงานดนตรีกันบ้างดีกว่าครับ นอกจากงานกราฟิกที่สวยงามมากแล้ว Glu ยังใส่งานเสียงพากย์ระดับมืออาชีพเข้ามาในคัตซีนได้อย่างน่าตื่นเต้นและน่าหลงไหลในเวลาเดียวในเกม Death Dome นี้ และเพราะคุณภาพของงานกราฟิกและงานดนตรีเสียงพากย์นี่เองที่ดึง Death Dome เอาไว้จากการเป็นเกมคะแนนต่ำต้อยในสายตาของผม
แต่ถึงอย่างนั้น ด้วยตัวเกมที่ขาดความสดใหม่ในการเล่าเรื่องราว รูปแบบเกมเพลย์ที่แสนจะขาดความสร้างสรรค์ หรือ “แรงบันดาลใจ” มากมายที่ Death Dome เอามาใช้ในการทำเกมนี้ที่แทบจะเรียกได้ว่าเหมือนการ “ลอก” มากกว่า “แรงบันดาลใจ” รวมไปจนถึงระบบบังคับจ่ายตังค์ทางอ้อมเมื่อผู้เล่นเคลียร์ทางไปได้เรื่อยๆ อย่างน่าเกลียดนี้ ทำให้ Death Dome ไม่คู่ควรแก่การดาวน์โหลดมาให้เปลืองเนื้อที่ (ขนาดยักษ์) ในเครื่องคุณเลยแม้แต่น้อย และหากเราจำเป็นต้องให้คำสามคำกับเกมนี้แล้วล่ะก็ สิ่งที่เราอยากบอกทุกคนคือ “สวย-แต่-โง่” จริงๆ
[gradeD]