Huawei TalkBand B2 เป็นรุ่นต่อยอดจากรุ่นเดิม Huawei TalkBand B1 ซึ่งมาพร้อมความสามารถแบบ 2 in 1 เหมือนเดิมคือเป็นทั้งสายรัดข้อมือสุขภาพและหูฟัง Bluetooth ในเครื่องเดียว วัสดุจัดเต็มหรูหราด้วยวัสดุโลหะอะลูมิเนียมอัลลอย หีบห่อหรูหราสวยงามน่าจับจองมากครับ มีวางจำหน่ายทั้งรุ่นสายหนัง และสายยางราคาอยู่ที่ 6990 บาทและ 5990 บาทมีวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว สายหนังจะได้ตัวเรือนสีทอง ส่วนสายยางจะได้ตัวเรือนสีเงินหรือสีดำ รองรับการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน Android 4.0 และ iOS 7 ขึ้นไปครับ
และใครที่สนใจ Huawei P8 สมาร์ทโฟนสุดหรูที่ออกมาคู่กันสามารถไปอ่านรีวิวได้ที่ลิงค์นี้เลยครับ รีวิว Huawei P8
หีบห่อหรูหรามากให้ความรูเสึกหรูหราพรีเมี่ยมเกินราคาจริงๆครับ สำหรับรุ่นที่นำมารีวิวจะเป็นรุ่นสายหนัง ตัวเรือนของทั้ง 3 สีจะผลิตจากวัสดุโลหะอะลูมิเนียมอัลลอยทั้ง 3 สีเลยครับ หน้าจอ สัมผัส PMOLED ขนาด 0.73 นิ้วสามารถแยกตัวเครื่องออกมาจากสายได้อย่างง่ายๆเพื่อใช้เป็นหูฟัง Bluetooth เพียงแค่กดปุ่มปลดล้อคด้านล่างเท่านั้น เวลาใส่กลับเข้าไปก็เอาด้านหูฟังสอดเข้าไปก่อน แล้วกดเข้าล็อคเท่านี้ก็เรียบร้อยครับ ตัวล็อคแข็งแรงดีมาก ไม่หลุดออกมาง่ายๆแน่นอน
ในกล่องจะมีตัวเรือน Huawei TalkBand B2, สายหนัง, ยางหูฟังอีก 2 ขนาด, สาย Micro USB, คู่มือการใช้งาน, คู่มือความปลอดภัย
Huawei TalkBand B2 จะติดกันรอยมาให้แต่แรกนะครับ (แต่ผมแกะออกแล้ว เพราะไม่ติดผมว่าสวยกว่า แต่ถ้าใครกลัวหน้าจอเป็นรอยก็ติดใว้ดีกว่าครับ) สำหรับ Huawei TalkBand B2 จะมีขนาดเล็กและบางกว่ารุ่นก่อนอย่างชัดเจน และหรูหราขึ้นมากจนบอกได้ว่ามันคือสายรัดข้อมือสุขภาพที่ดูหรูหราที่สุดในตอนนี้เลยครับ ทั้งวัสดุและดีไซน์ทำออกมาได้ดีมากจริงๆ
แถมยังมาพร้อมเซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหว 6 แกน (เหนือกว่าคู่แข่งอย่าง Fitbit Flex และ Nike+ Fuelband) และรองรับมาตราฐาณ IP57 ป้องกันน้ำและฝุ่น สามารถอยู่ใต้น้ำลึก 1 เมตรได้นาน 30 นาที เวลาเปลื้อนเหงื่อก็สามารถถอดล้างน้ำได้เลยครับ
พอถอดออกมาเป็นหูฟัง Bluetooth จะมีน้ำหนักเบามากครับสวมใส่นานๆก็ไม่เมื่อยไม่ล้าใดๆเลย และไม่ต้องห่วงเรื่องความแน่นหนานะครับสามารถสวมใส่พูดคุยพร้อมวิ่งไปด้วยก็ยังแน่นหนาดี
Huawei TalkBand B2 มาพร้อมหน้าจอ PMOLED ขนาด 0.73 นิ้วความละเอียด 128 x 88 pixels มองเห็นชัดเจนไม่ว่าจะในความมือหรือกลางแดดจ้า ตัวเลือนเป็นพลาสติค จะมีด้านข้างที่เป็นวัสดุโลหะอะลูมิเนียม รองรับการสั่นเตือน และมีช่องไมโครโฟน พร้อมไมค์ตัดเสียงรบกวน มีปุ่มควบคุม และพอร์ท Micro USB สำหรับชาร์จไฟ
Huawei TalkBand B2 จะรองรับการนับก้าว และวัดการเผาผลาญแคลอรี่ ซึ่งด้วยความสามารถของ เซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหว 6 แกนทำให้ Huawei TalkBand B2 สามารถแยกแยะกิจกรรมต่างๆของเราได้ ไม่ว่าเดิน วิ่ง หรือขี่จักรยาน รวมทั้งตรวจับการนอน (ตรวจจับได้อัตโนมัติ) ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ว่าเราหลับลึกในช่วงเวลาไหนบ้าง
และนอกจากนี้ยังสามารถใช้ค้นหาสมาร์ทโฟนของเราในกรณีที่ทำหายได้ด้วยโดยสมาร์ทโฟนของเราหน้าจอจะสว่างขึ้น และส่งเสียงร้องขึ้นมา (ต้องอยู่ในระยะเชื่อมต่อของ Bluetooth) และสามารถควบคุมโหมดกล้องเพื่อใช้เป็นตัวลั่น Shutter เวลาถ่ายภาพผ่านทางสมาร์ทโฟนได้ด้วย ซึ่งฟังก์ชั่นเหล่านี้ต้องใช้กับสมาร์ทโฟนของ Huawei ที่มาพร้อม EMUI 2.3 นะครับ
Huawei Wear เป็นแอพพลิเคชั่นที่ใช้บนระบบ Android และ iOS ซึ่งเริ่มต้นเราก้ต้องลงข้อมุลส่วนตัวของเราซะก่อน โดยจะสามารถจับการนับก้าว และการนอนหลับของเราได้ สามารถตั้งมาตราบานความหนักของกิจกรรมได้ 3 ระดับ สามารถตรวจสอบได้ทั้งรายวันและรายเดือน พร้อมทั้งแชร์ผลงานไปยังบน Social ที่เราเล่นอยู่ได้
หน้าตาการใช้งาน Huawei Wear เมนูการวัดค่าค่อนข้างน้อยนะครับ ไม่มีเมนูตรวจเรื่องอาหาร และบางครั้งเรานั่งรถอยู่ ก็วัดค่าออกมาว่าเราปั่นจักรยานอยู่ซะงั้น ส่วนในเรื่องการนอนผมว่าโอเคเลยครับดูแม่นยำดี ซึ่งก็ต้องรอการอัพเดตแก้ไขต่อไป
Huawei Wear จะมีเมนูอัพเดต FW ให้ด้วยนะครับเราสามารถอัพเดต Huawei TalkBand B2 ผ่านแอพพลิเคชั่น Huawei Wear ได้
สำหรับแบตเตอรี่จากการทดสอบจะอยู่ได้ประมาณ 3-4 วันครับ ถือว่าโอเคเลยนะแถมชาร์จเต็มเร็วดีด้วย
ข้อดีของ Huawei TalkBand B2
1. ดีไซน์สวยงามและพรีเมี่ยมมากๆ วัสดุโลหะและสายหนังทำให้ดูหรูหรา ดูดีทั้งในโหมดสายรัดข้อมือ และในโหมดหูฟัง Bluetooth
2. การใช้งานแบบ 2 in 1 เป็นทั้งสายรัดข้อมือสุขภาพและหูฟัง Bluetooth ในเครื่องเดียว
3. เซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหว 6 แกน
4. รองรับมาตราฐาน IP57 ป้องกันน้ำและฝุ่น
5. ตรวจจับการนอนอัตโนมัติ
ุ6. สามารถอัพเดต FW ได้
ข้อด้อยของ Huawei TalkBand B2
1. ความสามารถของ Huawei Wear ธรรมดาไปหน่อย
2. ไม่ค่อยแม่นยำมีความเพี้ยนๆในการตรวจนับข้อมูล
Huawei TalkBand B2 เป็นอุปกรณ์ที่น่าสนใจครับ โดยเฉพาะในเรื่องของดีไซน์ดูพรีเมี่ยมมากๆ และแม้ว่าในส่วนของสายรัดข้อมือสุขภาพยังมีบักอยู่บ้าง ซึ่งน่าจะแก้ไขได้ในการอัพเดต FW ต่อๆไป แต่ว่ามันก็มาพร้อมหูฟัง Bluetooth ในเครื่องเดียวกันทำให้มันมีจุดขายที่โดดเด่น แถมราคายังถือว่าไม่ได้แพงจนเกินไป โดยรุ่นปกติราคาเปิดตัวมาที่ 5990 บาทส่วนรุ่นพรีเมี่ยมสายหนังก็เพิ่มอีกพันเดียวครับ 6990 บาทผมว่าเป็นราคาที่น่าเล่นนะครับ
แต่ที่อยากให้พัฒนาก็คือความละเอียดและการเพิ่มความสามารถในส่วนของความเป็นสายรัดข้อมือสุขภาพ ที่น่าจะจัดเต็มกว่านี้ให้เท่าเทียมกับคู่แข่ง เพราะเมื่อดูจากสเปคแล้ว Huawei TalkBand B2 ดูไม่ธรรมดาเลย แถมในงานเปิดตัว Huawei ประกาศจะขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในฝั่งอุปกรณ์ Wearable Device ซะด้วยน่าจับตามองครับ
[gradeB]