OPPO R7 Lite เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่สาวก OPPO รอกันมานานเปิดตัวในบ้านเราเคียงคู่มากับ OPPO R7 Plus ซึ่งทั้งคู่มีราคาที่ค่อนข้างห่างกันมากครับโดย OPPO R7 Lite วางจำหน่ายที่ 10990 บาทส่วน OPPO R7 Plus ราคาจะสูงกว่าเยอะเลยอยู่ที่ 16990 บาทซึ่งในวันนี้ AppDisqus จะมารีวิวเจ้า OPPO R7 Lite ให้อ่านกันก่อนนะครับ
สำหรับจุดเด่นของรุ่นนี้ก็ต้องบอกว่าอยู่ที่ความบางเบา วัสดุสุดพรีเมี่ยม เป็นโลหะแบบ Unibody และสเปคที่น่าสนใจ หน้าจอ AMOLED สีสันสดใส กล้องคุณภาพสูง รองรับ 3G ทุกเครือข่ายและ 4G LTE รวมทั้งยังเป็นสมาร์ทโฟน 2 ซิมอีกด้วยและรองรับมาตราฐาน Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac แถมยังเปิดตัวมาพร้อม Android 5.1.1 Lollipop ด้วยนะ
สรุปคือความพรีเมี่ยมที่เอื้อมถึงได้ง่ายๆในราคาเบาๆ (แต่ว่าในขณะที่เขียนรีวิวอยู่นี้ทาง OPPO ก็ได้นำเจ้า OPPO Find 7a และ OPPO R5 ลดราคามาซะถูกเลยครับ 8490 บาทเท่านั้นน่าจัดสุดๆ แนะนำว่าห้ามพลาด)
สเปคของ OPPO R7 Lite
3G HSDPA 850 / 900 / 1900 / 2100
4G LTE band 1(2100), 3(1800), 5(850), 7(2600), 8(900), 40(2300)
Dual SIM (Nano-SIM/ Micro-SIM, dual stand-by)
ขนาดตัวเครื่อง 143 x 71 x 6.3 มม. น้ำหนัก 147 กรัม
หน้าจอ AMOLED ขนาด 5 นิ้วความละเอียด HD 720P 720 x 1280 pixels (294ppi) กระจก Corning Gorilla Glass 3 2.5D
Android 5.1.1 Lollipop ครอบทับด้วย Color OS 2.1
ชิบเซ็ต Qualcomm MSM8939 Snapdragon 615 Quad-core 1.5 GHz Cortex-A53 & quad-core 1.0 GHz Cortex-A53
GPU Adreno 405
RAM 2GB
หน่วยความจำภายใน 16GB และสามารถเพิ่มได้สูงสุด 128GB
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, WiFi Direct, hotspot
Bluetooth 4.0, LE
GPS รองรับ GLONASS
microUSB v2.0, USB Host
เซนเซอร์ Accelerometer, proximity, compass
กล้องความละเอียด 13MP, 4128 x 3096 pixels, LED flash, Geo-tagging, touch focus, face detection, panorama, HDR
บันทึกวีดีโอความละเอียด 1080p@60fps, 720p@120fps
กล้องหน้าความละเอียด 8MP
แบตเตอรี่ความจุ 2320 mAh
ราคาเปิดตัว 10990 บาท
OPPO R7 Lite ตัวเครื่องสวยมากๆครับหน้าจอ AMOLED ขนาด 5 นิ้วความละเอียด หน้าจอ AMOLED ขนาด 5 นิ้วความละเอียด HD 720P 720 x 1280 pixels (294ppi) กระจก Corning Gorilla Glass 3 2.5D สีสันสดสวยและมีมุมมองที่กว้าง แถมใครที่กลัวว่าหน้าจอสีสดๆมองนานๆจะปวดดวงตาหรือเปล่า? OPPO ก็จัดโหมดถนอมสายตามาให้ด้วย โดยเราสามารถปรับได้ถึง 3 ระดับด้วยกัน
รองรับ 3G ทุกเครื่อข่ายและ 4G LTE รวมทั้งเป็นสมาร์ทโฟน 2 ซิมสำหรับความบางก็เพียง 6.3 มม. เท่านั้นและมีน้ำหนักที่ 147 กรัม ซึ่งทำให้ OPPO R7 Lite เป็นสมาร์ทโฟนวัสดุโลหะอีกรุ่นที่บางและเบามากครับ
วัสดุจะเป็นโลหะ และงานประกอบไร้อยต่อ Unibody กระจก 2.5D ช่วยให้ตัวเครื่องดูพรีเมี่ยมมากๆ แต่พอจับถือจะรู้สึกว่าตัวเครื่องคมไปหน่อยไม่ค่อยสบายมือ แต่สวยครับแน่นหนาดีมาก มาตราฐานเครื่องจาก OPPO ใว้ใจได้เสมอเรื่องความเนี๊ยบ
ด้านบนจะมีกล้องหน้าความละเอียด 8MP และลำโพงสนทนาเสียงดังชัดเจนดี และเซนเซอร์ และรุ่นนี้จะมีไฟแจ้งเตือน Notification Light มาให้ด้วยครับซ่อนอยู่ที่มุมเครื่อง ส่วนด้านล่างจะประกอบด้วยปุ่มสัมผัส ประกอบด้วย Menu, Home, Back
สำหรับรุ่นที่นำมารีวิวจะเป็นสีทองสวยหรูทีเดียว ชุดกล้องจะนูนขึ้นมานิดหน่อยความละเอียด 13MP และ LED flash ถัดมาจะเป็นไมค์ตัดเสียงรบกวน และโลโก้ OPPO ส่วนด้านล่างจะเป็นลำโพงตัวเครื่อง และมีปุ่มนูนขึ้นมาเล็กน้อยช่วยให้เสียงลอดออกมาได้ เพราะรุ่นนี้ลำโพงจะอยู่ด้านหลัง เสียงลำโพงดังดีครับ และไม่แตก
ด้านบนและด้านล่างจะมีเสาอากาศซ่อนอยู่ ด้านบนมีช่องหูฟังขนาดมาตราฐาน 3.5 มม. ส่วนด้านล่างจะมีช่องไมโครโฟนและพอร์ท Micro USB
ด้านขวาจะมีปุ่มปรับระดับเสียง และช่องใส่ซิม (ซิมที่ 2 สามารถเลือกได้ว่าจะใส่ซิมหรือ Micro SD Card) ส่วนด้านซ้ายจะมีปุ่ม Power งานดีมากครับเป็นโลหะทั้งหมดแม้แต่ถาดใส่ซิม ซึ่งแตกต่างจากบางแบรนด์ที่ขนาดรุ่นระดับสูงยังใช้ถาดใส่ซิมเป็นพลาสติค…. อันนี้ต้องขอชม OPPO และแบรนด์อื่นๆที่ไม่มองข้ามรายละเอียด
OPPO R7 Lite เป็นสมาร์ทโฟนที่ถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่เองไม่ได้นะครับ เพราะงานประกอบไร้รอยต่อ Unibody เวลาต้องการเปลี่ยนต้องไปที่ศูนย์ OPPO เท่านั้น OPPO R7 Lite มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 2320 mAh ซึ่งไม่ได้สูงมาก การใช้งานือว่าแบตกลางๆครับ ถ้าใช้งานหนักๆหัวค่ำก็ต้องหาที่ชาร์จแล้ว แต่ถือว่าไม่ได้หมดเร็วจนดูปกติครับ ก็ถือว่าเรื่องแบตเตอรี่ใช้ได้นะครับ กลางๆ ไม่อึดและไม่ได้หมดเร็วอะไร
ทดสอบด้วย Quadrant Standard ได้คะแนน 21370 คะแนน
ทดสอบด้วย AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 33040 คะแนน
ทดสอบด้วย NenaMark2 ได้ผลทดสอบ 59.9fps
รองรับ Multi Touch 4 จุด
GPS จับสัญญาณได้รวดเร็วมาก
OPPO R7 Lite มาพร้อม Android 5.1.1 Lollipop ครอบทับด้วย Color OS 2.1 ใหม่ล่าสุดเลยครับ การใช้งานลื่นไหลดีมาก โดยรวมอาจจะดูไม่ต่างจากก่อนหน้านี้มากนักแต่ลายละเอียดต่างกันขัดเกลามาดีทีเดียว บัคเล็กๆน้อยๆถูกแก้ไขหมดแล้ว จากการทดสอบความเสถียรทำได้ดีมากครับสำหรับรุ่นนี้
มาพร้อมลูกเล่นใหม่ๆอย่างการจัดการหน้า Homescreen รูปแบบใหม่ที่ช่วยให้เราสามารถเลือกแอพพลิเคชั่นพร้อมๆกันหลายๆแอพเพื่อสลับที่ไปมา หรือลากมารวมเป็น Folder รวมทั้งระบบ Folder แบบใหม่ที่จะมีตัวเลือกในการตั้งชื่อเตรียมเอาใว้ให้แบบสำเร็จรูป มีฟังก์ชั่นเขย่าตัวเครื่องเพื่อให้แอพพลิเคชั่นที่จัดวางอย่างไม่เป็นระเบียบ เรียงแถวกันอย่างเรียบร้อยสวยงาม และรายละเอียดอื่นๆที่ปรับปรุงให้ช้งานได้ดียิ่งขึ้น และ Exclusive Space ที่ปรับปรุงใหม่ เหลือเพียงเครื่องเล่นเพลงแต่สวยงามและลงตัวยิ่งกว่าเดิม
บริการดาวน์โหลด Wallpaper, Theme, Lockscreen ฟรีของ OPPO ยังมีมาให้ใช้กันอย่างจุใจเช่นเคย ไม่ต้องไปหาดาวน์โหลดที่อื่นเลยครับ
แอพพลิเคชั่นติดเครื่องของ OPPO มีแต่แอพพลิเคชั่นน่าสนใจครับทั้ง Backup & Restore, NearMe Cloud, File, App Center, Security Center ซึ่งมีประโยชน์และใช้งานได้จริง อย่าง Security Center จะรวมเอาฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกในเรื่องความปลอดภัยและการจัดการเครื่องเอาใว้ครบถ้วนทั้งการเคลียส์ RAM ซึ่งพิเศษตรงสามารถตั้งค่าให้เคลียส์ RAM เป็นระยะๆ สามารถตั้งได้ว่าจะให้เคลียส์ทุกครั้งที่เปิดหน้าจอ หรือรายชั่วโมง หรือว่ารายวันก็สามารถทำได้
นอกจากนี้ยังช่วยในการบริหารจำนวน Data ที่เราใช้ในแต่ละวัน ให้สอดคล้องกับแพ็กเกจรายเดือนที่เราเลือกใช้งาน หรือการป้องกันไม่ให้คนนอกเข้าถึงแอพพลิเคชั่นรวมทั้งข้อมูลส่วนตัวที่เราไม่พึงประสงค์ได้ และสามารถตั้งค่าบล็อคเบอร์ หรือข้อความได้อย่างละเอียด
มีบริการ O-Cloud เป็นแอพพลิเคชั่นสำรองข้อมูลซึ่งสามารถสำรองรายชื่อติดต่อและ SMS ของเราเอาใว้ได้ เวลาใช้งานต้องมีการลงทะเบียน และ OPPO ยังมี Market เอาใว้ให้บริการโดยไม่ต้องผ่าน Google Play อีกด้วย และเช่นเคยมีโหมดประหยัดพลังงานมาให้ 2 ระดับคือประหยัดพลังงานธรรมดา และแบบขั้นสูง ซึ่งแบบขั้นสูงนั้นะตัดการทำงานของสมาร์ทโฟนเหลือเพียงฟังก์ชั่นการโทร, สมุดโทรศัพท์, ข้อความ, นาฬิกา ส่วนฟังก์ชั่นอื่นๆจะใช้งานไม่ได้
Gesture & Motion มีมาให้เพียบเช่นเคยครับ สมกับเป็นแบรนด์แรกๆที่มาพร้อมจุดขายฟังก์ชั่นเหล่านี้ แม้กระแสการใช้งาน Gesture จะดูแผ่วลงไปแล้วก็ตาม แต่จริงๆมันเป็นฟังก์ชั่นที่มีประโยชน์ และช่วยให้เราเข้าถึงฟังก์ชั่นหรือแอพพลิเคชั่นได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น และสามารถเลือกเปิด-ปิด OTG ได้เองอีกด้วย (USB On-The-Go)
ไม่ต้องพึ่งฟิล์มกันรอย Blue Light Cut กันแล้วครับเพราะใน ColorOS 2.1 ทาง OPPO ใส่โหมดถนอมสายตามาให้โดยจะเป็นการกรองแสงสีฟ้าคลื่นสั้นที่ส่งผลเสียต่อสายตาของเรา สามารถเลือกปิดใว้หรือเปิดใช้งานก็ได้ โดยสามารถปรับแต่งได้ 3 ระดับแต่ก็เป็นตัวช่วยในการถนอมสายตานะครับ ดีที่สุดคือควรจะพักสายตาเป็นระยะ ไม่ควรใช้สามาร์ทโฟนติดต่อกันเป็นเวลานาน
แอดมินก็ต้องจ้องหน้าคอมทั้งวันก็ว่าจะไปหาฟิล์มกันรอย Blue Light Cut มาใช้กับ Notebook บ้างแล้วละครับ อายุมากขึ้นสายตาก็แย่ลงๆ เป็นนักเขียนนี่เลี่ยงยากจังเลยนะเนี่ย แต่เพื่อเพื่อนๆแฟนๆ AppDisqus แอดมินจะสู้สุดใจกล้าครัชชชช อิอิ
ทดสอบเล่นวีดีโอความละเอียด Full HD 1080P ลื่นไหลดีมากครับ และมีลูกเล่น Popup Play มาให้ใช้งานกันเช่นเคย (เป็นลูกเล่นย่อหน้าจอวีดีโอให้มีขนาดเล็ก โดยเราสามารถใช้งานฟังก์ชั่นอื่นๆบนสมาร์ทโฟนไปด้วยได้)
รองรับระบบเสียง Dirac HD Sound และแสดงเนื้อร้องได้ด้วยในกรณีที่ File เพลงมีแนบเนื้อร้องมาให้ คุณภาพเสียงรุ่นนี้กลางๆครับ เบสบวมๆหน่อย ส่วนตัวยังไม่โดนใจครับ แต่เรื่องเสียงมันก็อยู่ที่รสนิยมใครรสนิยมมันนะครับ
ทดสอบด้วยเกมภาพสวยๆอย่าง UFC ทำได้ดีมากครับลื่นไหลดี อย่างว่าครับสปคระดับ Snapdragon 615 มันเหลือกินเหลือใช้อยู่แล้ว
OPPO R7 Lite จัดเต็มเรื่องกล้องครับมาพร้อมความละเอียด 13MP บันทึกวีดีโอความละเอียด 1080p@60fps, 720p@120fps และกล้องหน้าความละเอียด 8MP แถมฟังก์ชั่นกล้องจัดเต็มเทียบเท่ารุ่นใหญ่ สามารถดาวน์โหลดฟังก์ชั่นเพิ่มได้อย่างจุใจเลยทีเดียว คุณภาพกล้องทำได้ดีมากครับสวยงามดี และกล้องหน้าก็คมชัดและถ่ายออกมาสวย เรามาดูตัวอย่างภาพถ่ายจาก OPPO R7 Lite กันครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก OPPO R7 Lite
ข้อดีของ OPPO R7 Lite
1. ตัวเครื่องวัสดุโลหะ สวยหรูและงานประกอบเนี๊ยบมาก
2. บางและเบา
3. สเปคดีการใช้งานลื่นไหล รวดเร็ว
4. กล้องคุณภาพดีทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง และมีฟังก์ชั่นการถ่ายภาพจัดเต็ม
5. มาพร้อม Android 5.1.1 Lollipop ครอบทับด้วย ColorOS 2.1 ตั้งแต่แกะกล่อง
ข้อด้อยของ OPPO R7 Lite
1. กล้องอมเหลืองมากไปหน่อย
สำหรับ OPPO R7 Lite หรูหราวัสดุโลหะ งานประกอบเนี๊ยบมากๆมาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 5 นิ้วความละเอียด HD 720P กระจก 2.5D เช่นกันและเลือกใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 615 เช่นกัน RAM 2GB, หน่วยความจำภายใน 16GB และสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ กล้องหลังความละเอียด 13MP และกล้องหน้าความละเอียด 8MP เหมือนรุ่นใหญ่ แบตเตอรี่ความจุ 2320mAh มีให้เลือกทั้งสีเงินและสีทองเน้นความหรูหรากันสุดๆ แถมราคาเปิดตัวไม่สูงมาก 10990 บาทผมว่าเป็นราคาที่คุ้มค่าดีนะครับ น่าใช้ครับรุ่นนี้
[gradeA]