ในที่สุด Nokia Lumia 1020 ที่หลายคนกำลังรอคอยอยู่ก็เปิดตัวพร้อมจองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในราคาที่ถือว่าแพง นั่นคือ 24,990 บาท และกำลังจะพร้อมขายในเร็วๆ นี้แล้ว จึงเกิดคำถามขึ้นกับคนที่กำลังเล็งสมาร์ทโฟนกล้องความละเอียด 41 ล้านพิกเซลตัวนี้ ว่า มันคุ้มค่าหรือไม่? กล้องความละเอียดสูงตัวนี้มันเป็นอย่างไร? วันนี้เรามาดูกันครับ
Nokia Lumia 1020 มีความโดดเด่นที่กล้องหลังเซ็นเซอร์ความละเอียด 41 ล้านพิกเซล มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 แรม 2GB หน่วยความจำภายใน 32GB ดังนั้นเราจึงขอพูดถึงจุดเด่อนและจุดด้อยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้มากที่สุด ดังหัวข้อต่างๆ ต่อไปนี้
- แกะกล่องและความประทับใจแรกสัมผัส
- สเปคและคุณสมบัติที่น่าสนใจ
- ตัวเครื่องและงานประกอบ
- ระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8
- ประสบการณ์การใช้งาน
- การถ่ายภาพและวีดีโอ
- สรุปการรีวิว Nokia Lumia 1020
[box_info]แกะกล่องและความประทับใจแรกสัมผัส[/box_info]
หลังจากที่ได้สัมผัสเจ้า Nokia Lumia 1020 สิ่งหนึ่งที่รู้สึกก็คือ ความตื่นเต้นหายไปเร็วพอสมควร อาจเป็นเพราะว่าผมใช้งาน Windows Phone 8 มาเสมอและหลายรุ่นแล้ว มันทำให้เมื่อเราได้ใช้งานจริง มันเกิดทั้งความรู้สึก “คุ้นเคย” และ “เหมือนเดิม” เพราะนอกจากสเปคเครื่อง กล้อง และงานประกอบ แล้วมันก็แทบจะไม่มีอะไรใหม่ที่โดดเด่นมากนัก
แต่ผมก็เชื่อว่าเพื่อนๆ ที่กำลังสนใจตัวนี้อยู่ก็พอรู้มาบ้างแล้วว่าสมาร์ทโฟนที่รันด้วย Windows Phone 8 นั้น หน้าตา วิธี และประสิทธิภาพการใช้งานแทบไม่ต่างกันเลย สิ่งที่ดึงดูดให้เราสนใจ ก็คือ กล้องความละเอียด 41 ล้านพิกเซลและฟีเจอร์ด้านการถ่ายภาพนั่นเอง แล้วมันเป็นอย่างไรบ้าง ดูได้จากคลิปการแกะกล่องและพรีวิวกล้องด้านล่างนี้นะครับ
[box_info]สเปคและคุณสมบัติที่น่าสนใจ[/box_info]
สำหรับสเปคของ Nokia Lumia 1020 เป็นสมาร์ทโฟนตัวสุดท้ายของโนเกียก่อนที่จะขายกิจกรรให้กับ Microsoft มันคือผลิตภัณฑ์ตัวสุดท้ายที่โนเกียพยายามผลักดันและทุ่มเทมากที่สุด จึงได้ใส่ทุกอย่างมาแบบจัดเต็มมาก ซึ่งความโดดเด่นของมันคงหนีไม่พ้นกล้องเซ็นเซอร์ความละเอียดสูงถึง 41 ล้านพิกเซล ถอดแบบมาจาก Nokia 808 PureView หนึ่งในความภาคภูมิใจมากที่สุดของโนเกีย นอกจากนี้ Nokia Lumia 1020 ยังรันด้วยระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 GDR2 เฟิร์มแวร์ล่าสุดจาก Microsoft เป็น Windows Phone เครื่องเดียวในตลาดตอนนี้ที่มีแรม 2GB จึงสามารถพูดได้เลยว่าสเปคแบบนี้ ใครซื้อไป ได้ใช้งานไปอีกนาน ไม่ตกรุ่นหรือโดนลอยแพง่ายๆ แน่นอนครับ ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
สเปคของ Nokia Lumia 1020
ระบบปฏิบัติการ
- Windows Phone 8 เวอร์ชั่น GDR2
หน่วยประมวลผล
- หน่วยประมวลผล: Qualcomm Snapdragon™ S4
- ชนิดหน่วยประมวลผล: Dual-core 1.5 GHz
หน่วยความจำ
- แรม 2GB
- หน่วยความจำภายใน 32GB
ขนาดและตัวเครื่อง
- ความยาว: 130.4 มม.
- ความกว้าง: 71.4 มม.
- ความหนา: 10.4 มม.
- น้ำหนัก: 158 กรัม
- ปริมาตร: 96.9 ลูกบาศก์เซนติเมตร
- สีตัวเครื่อง: สีดำ สีขาว และสีเหลือง (ผิวด้านทุกสี)
หน้าจอและรูปแบบการแสดงผล
- ขนาดหน้าจอ: 4.5 นิ้ว
- ความละเอียดจอแสดงผล: WXGA (1280 x 768) 334 ppi
- การแสดงผล: PureMotion HD+, การควบคุมความสว่าง, โหมดความสว่างสูง, อัตรารีเฟรช 60 Hz, กระจกแบบ Sculpted, ทำความสะอาดได้ง่าย, หน้าจอ Nokia Glance, โพรไฟล์สีของ Lumia, การมองแบบมุมกว้าง, Corning Gorilla Glass 3, การปรับปรุงความสามารถในการอ่านขณะมีแสงจ้า
- สีที่แสดง: TrueColor (24-bit/16M)
- อัตราส่วนความยาวต่อความกว้าง: 15:9
- เทคโนโลยีการแสดงผล: ClearBlack, AMOLED
- เทคโนโลยีหน้าจอสัมผัส: Super sensitive touch
- เซ็นเซอร์: เซ็นเซอร์วัดระดับแสงโดยรอบ, Accelerometer, บาโรมิเตอร์, Gyroscope, เซ็นเซอร์วัดระยะห่าง, มาตรวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
การเชื่อมต่อ
- ชนิดของซิมการ์ด: Micro SIM
- การเชื่อมต่อสำหรับชาร์จ: Charging Pad, Micro-USB
- หัวต่อ AV: ช่องต่อสัญญาณเสียงขนาด 3.5 มม.
- การเชื่อมต่อข้อมูล: Micro-USB-B
- USB: USB 2.0
- Bluetooth: Bluetooth 3.0
- คุณสมบัติ Bluetooth: Object Push profile (OPP) 1.1, Hands-free profile (HFP) 1.5, Advanced Audio Distribution Profile (A2DP) 1.2, Audio/Video Remote Control Profile (AVRCP) 1.4, Phone Book Access Profile (PBAP) 1.1
- Wi-Fi: WLAN IEEE 802.11 a/b/g/n
- การรักษาความปลอดภัย: WPA2 (AES/TKIP), WPA, WPA-Personal, WEP, WPA2-Personal, WPA-Enterprise, WPA2-Enterprise, PEAP-MSCHAPv2, EAP-SIM, EAP-AKA
- NFC: NFC แบบเข้ารหัสสำหรับการชำระเงิน, การแชร์, การจับคู่อุปกรณ์, การแท็ก
- การเชื่อมต่อไร้สายแบบอื่นๆ: การผนวกช่องสัญญาณ Wi-Fi
เครือข่ายข้อมูล
- ย่านความถี่ของโครงข่าย LTE: 1, 3, 7, 8, 20
- ความเร็วการดาวน์โหลดสูงสุด LTE: 100 Mbps
- ความเร็วการอัพโหลดสูงสุด LTE: 50 Mbps
- โครงข่าย WCDMA: 900 MHz, 2,100 MHz, 1,900 MHz, 850 MHz
- ความเร็วการดาวน์โหลดสูงสุด WCDMA: HSDPA – 42.2 Mbps
- ความเร็วการอัพโหลดสูงสุด WCDMA: HSUPA – 5.76 Mbps
- โครงข่าย GSM: 850 MHz, 900 MHz, 1,800 MHz, 1,900 MHz
- ความเร็วการดาวน์โหลดสูงสุด GSM: EGPRS 236.8 kbps
- ความเร็วการอัพโหลดสูงสุด GSM: EGPRS 236.8 kbps
เพลงและระบบเสียง
เพลง
- แอพเพลง: Nokia Music, Mix Radio
- สนับสนุน DRM: PlayReady
- คุณสมบัติด้านเสียง: แสดงภาพอัลบั้มในเครื่องเล่นเพลง, Audio Streaming, ชุดหูฟังดอลบี, เครื่องเล่นเพลง, เล่นเพลงออฟไลน์จากคลาวด์, เครื่องเล่นมีเดีย, ตัวปรับระดับสัญญาณแบบกราฟิก, พอดแคสท์, เล่นเพลงจากคลาวด์
รูปแบบเพลง
- รหัสสัญญาณ: MP3, AMR-NB, WMA 10 Pro, GSM FR, WMA 9, AAC-LC, AAC+/HEAAC, eAAC+/HEAACv2
- รูปแบบไฟล์เสียง: ASFH, MP4, AAC, AMR, MP3, M4A, WMA, 3GP, 3G2
วิทยุ
- คุณสมบัติวิทยุ: วิทยุทางอินเทอร์เน็ต, วิทยุ FM
- เสียงและการบันทึกเสียง
- การบันทึก: การบันทึกเสียงใน MMS, การบันทึกเสียงใน OneNote
- รูปแบบไฟล์บันทึกเสียง: AMR
- รหัสสัญญาณการบันทึกเสียง: AMR-NB, GSM FR, AAC-LC
- คุณสมบัติการบันทึกเสียง: Nokia Rich Recording
การถ่ายภาพ
กล้องหลัก
- ขนาดเซ็นเซอร์มาตรฐาน: 41 ล้านพิกเซล PureView
- ประเภทโฟกัสของกล้อง: ออโต้โฟกัส
- เลนส์ Carl Zeiss Tessar
- ขนาดเซ็นเซอร์: 1/1.5 นิ้ว
- ค่ารูรับแสง (F number/aperture): f/2.2
- ความยาวโฟกัสของกล้อง: 26 มม.
- ระยะโฟกัสต่ำสุดของกล้อง: 15 ซม.
- รูปแบบภาพ: JPEG
- ประเภทแฟลช: แฟลชซีนอน
- ช่วงปฏิบัติการแฟลช: 4.0 ม.
- โหมดแฟลช: ปิด, อัตโนมัติ, เปิด
- คุณสมบัติพิเศษของกล้องหลัก: ระบบลดการสั่นไหวของภาพ, PureView, เซ็นเซอร์แบบ BSI, เลนส์ 6 ชิ้น, ซูมแบบความละเอียดสูง 3 เท่า
กล้องวิดีโอหลัก
- ความละเอียดของกล้องวิดีโอ: 1080p (Full HD, 1920 x 1080)
- อัตราเฟรมกล้องวิดีโอ: 30 เฟรมต่อวินาที
- ซูมกล้องวิดีโอ: 6 x
- อัตราการแสดงภาพกล้องวิดีโอ: 30 เฟรมต่อวินาที
- รหัสสัญญาณเล่นวิดีโอ: VC-1, วิดีโอบน Windows, H.264/AVC, H.263, MPEG-4
- รูปแบบไฟล์เล่นวิดีโอ: MP4, WMV, AVI, 3GP, 3G2, M4V, MOV
- รูปแบบไฟล์การบันทึกวิดีโอ: MP4/H.264
- โหมดปรับสมดุลสีขาว: เมฆมาก, ฟลูออเรสเซนต์, อินแคนเดสเซนต์, อัตโนมัติ, เดย์ไลท์
คุณสมบัติกล้องวิดีโอหลักอื่นๆ
- ชมวิดีโอแบบสตรีมมิ่ง: การเลือกดูและชมวิดีโอสตรีมมิ่งจาก YouTube, ดาวน์โหลดวิดีโอแบบต่อเนื่อง, การสตรีมจากบริการวิดีโอและอินเทอร์เน็ต
- คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ: การบันทึกเสียงสเตอริโอ, ไฟวิดีโอ, ซูมวิดีโอ, ระบบลดการสั่นไหวของภาพ, โฟกัสอัตโนมัติต่อเนื่อง
กล้องหน้า
- ความละเอียดของกล้องหน้า: 1280 x 960 pixels
- ค่ารูรับแสงกล้องหน้า: f/2.4
- คุณสมบัติอื่นๆ ของกล้องหน้า: การบันทึกวิดีโอ, ถ่ายภาพนิ่ง, โทรศัพท์ด้วยวิดีโอ, HD 1.2 MP พร้อมเลนส์มุมกว้าง
กล้องวิดีโอด้านหน้า
- ความละเอียดกล้องวิดีโอด้านหน้า: 720p (HD, 1280 x 720)
- รูปแบบการบันทึกวิดีโอของกล้องด้านหน้า: MP4/H.264
การจัดการพลังงาน
- แบตเตอรี่: BV-5XW
- ความจุแบตเตอรี่: 2000 mAh
- แรงดันแบตเตอรี่: 3.8 โวลต์
- การชาร์จแบบไร้สาย: รองรับด้วยฝาครอบที่เป็นอุปกรณ์เสริม
[box_info]ตัวเครื่องและงานประกอบ[/box_info]
สรุปสเปคเกี่ยวกับตัวเครื่องอีกครั้งนะครับ นั่นคือ Nokia Lumia 1020 มีขนาด 130.4 x 71.4 x 10.4 มิลลิเมตร น้ำหนัก 158 กรัม ตัวเครื่องประกอบไปด้วย สีดำ สีขาว และสีเหลือง ซึ่งเป็นผิวด้านทุกสีครับ
ส่วนความรู้สึกที่ได้สัมผัสและใช้งานแล้วพบว่า ตัวเครื่อง วัสดุ และงานประกอบ ของ Nokia Lumia 1020 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งข้อดีของมันเลย นั่นคือมันมีวัสดุที่แข็งแรง สวย ทนทาน และงานประกอบก็ยอดเยี่ยมเหมือนกันกับ Nokia Lumia 920 เลยครับ แต่มีน้ำหนักที่เบากว่า(แม้จะหนักกว่า 925 เล็กน้อยก็ตาม)
การจับตัวเครื่อง Nokia Lumia 1020 ค่อนข้างกระชับมือครับ นิ้วของเราจะไปวางอยู่พอดีกับตัวกล้องและเลนส์ด้านหลัง เหมือนกับนิ้วเราไปล็อคตัวเครื่องเอาไว้ ทำให้กระชับไม่ลื่นหลุดง่าย
ลำโพงของ Nokia Lumia 1020 จะอยู่ด้านล่างเหมือนกับ Nokia Lumia 920 ทำให้เสียงไม่เพี้ยนเวลาเราวางเครื่องกับพื้นเรียบๆ ตรงกลางก็เป็นช่องสำหรับชาร์จแบตเตอรี่และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ด้วยสาย Micro-USB-B และ USB 2.0 ด้านขวามือสุด(ตามภาพ) ก็จะเป็นช่องสำหรับร้อยสายครับ
ถาดใส่ Micro SIM ไมโครโฟนตัวที่สองที่สามารถบันทึกเสียงสเตอริโอได้ และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร จะอยู่ด้านบนของตัวเครื่อง
หากมองจากด้านข้างของตัวเครื่องจะถูกหลอกตาเพราะเลนส์ที่นูนออกมา ทำให้ดูเหมือนเครื่องจะหนา แต่จริงๆ แล้วพอได้สัมผัสจะรู้สึกว่ามันบางกว่าที่คิดครับ
ด้านหลังก็จะมีจุด 2 จุด ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับฝาหลังที่ทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สายได้
อัลบั้มภาพตัวเครื่อง Nokia Lumia 1020
[box_info]ระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8[/box_info]
สำหรับเพื่อนๆ ที่เคยใช้ Windows Phone 8 อยู่แล้ว ก็คงพอทราบกันดีนะครับว่าสมาร์ทโฟนทุกเครื่องที่รันด้วย Windows Phone 8 นั้น การใช้งาน ความสามารถแทบไม่แตกต่างกันเลย นอกจากบางฟีเจอร์และบางแอพพลิเคชั่นที่จำกัดตามแรมของเครื่อง ด้วยเหตุนี้หละครับ Nokia Lumia 1020 ที่มาพร้อมแรม 2GB จึงน่าสนใจมาก เพราะมันมาช่วยรับประกันว่า เราจะได้ไปต่ออีกไกลแน่นอนครับ ทั้งการอัพเดทเฟิร์มแวร์ ฟีเจอร์และฟังก์ชันการใช้งาน รวมถึงแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่จะทยอยออกมาเรื่อยๆ
ความจริงแล้วหัวข้อนี้ อยากเขียนไว้สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่เคยใช้ Windows Phone 8 เพื่อให้ได้รู้จักแลเข้าใจก่อนจะตัดสินใจเริ่มต้นกับมัน ดังนั้นใครที่เคยใช้และรู้จักมันดีแล้ว สามารถข้ามไปอ่านหัวข้อต่อไปได้เลยครับผม ^ ^
โดยเริ่มต้นนั้น เราก็ไปดูว่าธรรมชาติ และการใช้งานของ Windows Phone 8 นั้นเป็นอย่างไรบ้าง โดยเราขอเขียนแยกเป็นอีกบทความนะครับ เนื่องจากเนื้อหาค่อนข้างเยอะพอสมควร
[Tips] เริ่มต้นรู้จัก Windows Phone 8 แบบเข้าใจ
รวมทิปและทริคสำหรับการใช้งาน Windows Phone 8 อย่างรู้จริง
สำหรับ Windows Phone 8 เวอร์ชั่นปัจจุบันนั้นคือ Amber หรืออีกชื่อนึงก็คือ GDR2 ที่อยู่ใน Nokia Lumia 1020 ตั้งแต่ในร้านเลยครับ ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาก จากเวอร์ชั่นแรกที่ออกมา โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่า Windows Phone 8 พัฒนาเร็วมาก หากนำไปเทียบกับการพัฒนาของ iOS และ Android ในช่วงปีแรกเหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตาม ถือว่า ยังไม่สมบูรณ์และเพียงพอต่อการใช้งาน ทั้งในแง่ฟังก์ชันที่จำเป็นสำหรับสมาร์ทโฟนปัจจุบัน แอพพลิเคชั่นที่ตอบสนองความต้องการในด้านต่างๆ หรือคุณภาพของแอพพลิเคชั่นดังๆ ที่ยังติดๆ ขัดๆ อยู่ ตัวอย่างเช่น Facebook, Youtube, Line เป็นต้น
แต่หลังจากที่ Microsoft ซื้อกิจการของโนเกียไปทำเอง ผมคิดว่าต่อจากนี้จะเป็นเวลาที่ Windows Phone 8 จะพัฒนาแบบเขย่ง ก้าว กระโดด เลยครับ เพราะการพัฒนาซอฟแวร์เพื่อตอบสนองการใช้งานของฮาร์ดแวร์ จะประสานและและผสานกันอย่างรวดเร็ว และถูกต้องมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังเป็นเพียงการคาดการณ์ล่วงหน้าครับ ต่อไปจะเป็นอย่างไรต้องรอดูตอนต่อไปเท่านั้น และเราจะเลือกใช้ตอนนี้ไปพร้อมกับ Nokia Lumia 1020 หรือจะรอเอาไว้ก่อน อันนี้เราเป็นคนเลือกเองครับ?
[box_info]ประสบการณ์การใช้งาน[/box_info]
เมื่อได้ใช้งานจริง Nokia Lumia 1020 มันทำให้เราเกิดคำถามขึ้นในใจว่าโนเกียมาถูกทางแล้วใช่ไหม ? ผลิตภัณฑ์แต่ละตัวที่ออกมาก็มีรูปแบบการใช้งาน สไตล์ ความรู้สึก ฟีเจอร์และฟังก์ชันเหมือนกันหมดทุกรุ่น ทำให้แต่ละรุ่นกลายเป็นคู่แข่งกันเองไปเลย อย่างตัว Nokia Lumia 1020 เราบอกได้เลยครับว่าการใช้งานทุกอย่างนั้น ไม่แตกต่างจาก Nokia Lumia 920 และ Nokia Lumia 925 เลยครับ แต่ประสบการณ์การใช้งานบางอย่างก็มีอะไรที่พิเศษๆ ไม่เหมือนใครอยู่บ้าง เราไปดูกันครับ
ระบบแผนที่เราจะได้รับก็คือ Here Drive + ซึ่งเราจะสามารถใช้งานแผนที่ Here Maps ได้ทั่วโลกแบบออฟไลน์ ไม่จำเป็นต้องต่อเน็ต เราสามารถดาวน์โหลดแผนที่ของประเทศต่างๆ มาเก็บไว้ก่อนไปเที่ยว เอาไว้ใช้งานแบบออฟไลน์จะได้ไม่เปลืองค่าเน็ตต่างแดนที่แสนแพงก็เลือกได้ทุกประเทศเลยครับ
ระบบแผนที่ Here Maps และ Here Drive +
หมายเหตุ: ระบบแผนที่นี้แต่ละรุ่นจะได้ไม่เหมือนกันครับ บางรุ่นจะได้ Here Drive ที่ดาวน์โหลดแผนที่ได้เฉพาะภูมิภาคตัวเองเท่านั้น
การฟังเพลง Nokia Lumia 1020 มาพร้อมกับ GDR2 ทำให้มีวิทยุออฟไลน์ในตัว ที่คลื่นและสัญญาณชัดเจนมากครับ แต่จะฟังได้เมื่อเสียบหูฟังเท่านั้น ส่วนเพลงในเครื่อง รูปแบบไฟล์เสียงที่เครื่องสามารถอ่านได้ ก็คือ ASFH, MP4, AAC, AMR, MP3, M4A, WMA, 3GP, 3G2
หากเราฟังจากลำโพงก็พอใช้ได้ครับไม่ได้ดีมากจนน่าตกใจ แต่ดีกว่า Nokia Lumia 925 ตรงที่ลำโพงมันอยู่ด้านล่างของตัวเครื่องเหมือนกัน Nokia Lumia 920 (925 ลำโพงอยู่ด้านหลัง) ทำให้เวลาเราวางเครื่องกับพื้นเสียงจะไม่เปลี่ยนไปเลย และหากฟังเพลงจากหูฟังคุณภาพเสียงดีมากครับ ทำให้อยากไปลองเล่นหูฟังแจ่มๆ กับเขาบ้าง และเราจะสามารถปรับตั้งค่า Equalizer เพื่อปรับคุณภาพและรูปแบบเสียงที่เราต้องการได้ แต่ฟีเจอร์นี้น่าจะทำได้กับการเปิดลำโพงด้วยนะ(สมาร์ทโฟนบางรุ่นทำได้) คงฟินน่าดู ^__^
การเล่นอินเทอร์เน็ต ถือว่าใช้งานได้ดีเยี่ยม ไม่มีติด ไม่มีกระตุก ตัวอย่างเช่น เปิดเข้าหน้าเว็บไซต์ AppdisQus.com ในโหมดเดสท็อปจะเห็นได้ชัดเลยว่าเร็วมาก เร็วกว่าเครื่องพีซีที่ผมใช้อยู่ตอนนี้ด้วยซ้ำ ซึ่งบราวเซอร์หลักที่ติดมากกับเครื่องคือ IE10 ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีที่สุดแล้ว แต่ถ้าใครเบื่อๆ ก็มีบราวเซอร์อื่นๆ ให้ลองเล่นในสโตร์อีกมาก แต่ทุกบราวเซอร์จะเล่น Flash ไม่ได้นะครับ และหลายๆ กรณีจะไม่สามารถดาวน์โหลดไฟล์จะอินเทอร์เน็ตได้ ต้องใช้แอพพลิเคชั่นเข้ามาช่วย
ส่วนการเล่นเกมนั้น เรายังไม่ได้ทดสอบกับเกมที่หลากหลายมากนัก แต่เท่าที่ลองเล่น Asphalt 7 Heat, Six-Guns และ Temple Run ก็พบว่าลื่นๆ เล่นได้สบายมากครับ
การเล่นวีดีโอ 1080p ทำได้สบายๆ ไม่กระตุกเลยครับ ทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์
สำหรับคนที่ไม่เคยใช้ Windows Phone 8 ขอบอกตรงนี้ให้ชัดเจนเลยว่า โซเชียลเน็ตเวิร์ค คือ จุดอ่อนอย่างหนึ่งของ Windows Phone 8 ไม่ใช่ว่ามีไม่ครบ แต่การใช้งานยังตามค่ายอื่นไม่ทันมากกว่า โดยเฉพาะ Line, Facebook และ Youtube ฟีเจอร์จะมีไม่ครบ การแจ้งเตือนมีปัญหา สำหรับ Line ก็ไม่สามารถซื้อสติ๊กเกอร์ได้ ส่วนโซเชียลชื่อดังอย่าง instagram เราสามารถเล่นผ่าน 6tag ได้ครับ ซึ่งส่วยและใช้งานได้ง่ายกว่าแอพ instagram ตัวจริงซะอีก
ผลเสียจากการที่ถ่ายรูปด้วยเซ็นเซอร์ 41 ล้านพิกเซล นั่นก็คือ หน่วยความจำภายในลดฮวบๆ เลยครับ ผมเพิ่งได้เครื่องมา 3 วัน หน่วยความจำเครื่องก็ถูกใช้ไป 11GB แล้ว แสดงว่าหากเราไม่จำเป็นก็เลือกโหมดในการถ่ายรูปเป็นความละเอียดปกติ 5 ล้านพิกเซลก็พอครับ
สำหรับเรื่องแบตเตอรี่ที่มีความจุ 2,000 mAh ถือว่าน่าเสียดายอยู่นะ แม้การใช้งานปกติจะได้ประมาณ 10-12 ชั่วโมงเหมือนกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ แต่ถ้ามีความจุได้มากกว่านี้ เราคงสนุกสนานกับการถ่ายรูปได้มากขึ้น สำหรับคนที่ซื้อหรือได้ของแถมเป็น Grip ที่มีแบตเตอรี่สำรองในตัวก็คงดีไม่น้อยเลยครับ
[box_info]การถ่ายภาพและวีดีโอ[/box_info]
เรื่องกล้องหลักที่เราเห็นโฆษณาบอว่ามีความละเอียด 41 ล้านพิกเซล เราขอบอกไว้ก่อนเลยว่า มันเป็นเพียงความละเอียดของเซ็นเซอร์ครับ ส่วนรูปที่เราถ่ายจะได้ความละเอียดสูงสุดเพียง 38 ล้านพิกเซล(อัตราส่วน 4:3) หรือ 34 ล้านพิกเซล(อัตราส่วน 16:9) เท่านั้น
สเปคกล้องหลักของ Nokia Lumia 1020 มีขนาดเซ็นเซอร์มาตรฐาน 41 ล้านพิกเซล ความละเอียด 7712 x 5360 พิกเซล มาพร้อมระบบลดการสั่นไหวของภาพ(OIS), เทคโนโลยีถ่ายภาพในพื้นที่แสงน้อย PureView, เซ็นเซอร์แบบ BSI, เลนส์ 6 ชิ้น และ ซูมแบบความละเอียดสูง 3 เท่า นอกจากนี้แล้วยังมี
- ขนาดเซ็นเซอร์: 1/1.5 นิ้ว
- ค่ารูรับแสง (F number/aperture): f/2.2
- ความยาวโฟกัสของกล้อง: 26 มม.
- ระยะโฟกัสต่ำสุดของกล้อง: 15 ซม.*
- ประเภทแฟลช: Xenon flash
- ช่วงปฏิบัติการแฟลช: 4.0 ม.
สำหรับเลนส์ Carl Zeiss Tessar ของ Nokia Lumia 1020 เป็นเลนส์ 6 ชิ้น ที่มีกระจกป้องกันอยู่ภายนอก ซึ่งตอนแรกก็แอบกังวลไม่น้อยว่ากระจกตัวนี้จะเป็นรอยง่ายหรือเปล่า เพราะเครื่องเรามันก็มหาแพงด้วยสิ แต่เมื่อเช็คดูดีๆ ก็พบกว่ากระจกตัวนี้เป็น Corning Gorilla Glass 3 ที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้สูงมาก ก็เบาใจไปเยอะเลยครับ
หากดูจากสเปคแล้ว เราก็จะเห็นว่า Nokia Lumia 1020 ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีกล้องถ่ายรูปที่ดีที่สุด แต่ก็มีจุดด้อยที่ไม่น่ามีเลย นั่นคือ ระยะโฟกัสต่ำสุดที่ 15 เซนติเมตร นั่นเอง ซึ่งสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 เครื่องอื่นๆ อย่างเช่น Nokia Lumia 925 มีระยะโฟกัสต่ำสุดเพียง 8 เซนติเมตร เท่านั้น ด้วยเหตุนี้ แสดงว่า Nokia Lumia 1020 จะถ่ายภาพได้ดีกว่าสมาร์ทโฟนเครื่องอื่น ก็ต่อเมื่อวัตถุอยู่ห่างจากตัวกล้องมากกว่า 15 เซนติเมตรขึ้นไป
แม้ว่า ฟีเจอร์ zoom later(ถ่ายห่างจากวัตถุในระยะที่เหมาะสมแล้วค่อยมาซูมเข้าและตัดภาพทีหลัง) จะทำงานได้ดี เพราะกล้องมีความละเอียดสูง แต่ก็ถือว่าข้อด้อยตัวนี้ก็ลดความเท่ของกล้อง 41 ล้านพิกเซลของ Nokia Lumia 1020 ลงไปเยอะพอสมควรเลยครับ
แอพ Camera(built-in app)
ด้านซอฟแวร์กล้องของ Nokia Lumia 1020 จะขอเริ่มตั้งแต่ซอฟแวร์หรือตัวแอพที่ติดการกับกล้องครับ ซึ่งสำหรับหน้าตาการใช้งานแล้วไม่ได้แตกต่างจาก Windows Phone เครื่องอื่นๆ เลย เมื่อเรากดเครื่องหมาย 3 จุด เพื่อเข้าเมนูตั้งค่า ก็จะเห็นเมนู Photo Setting และ Video Setting เช่นกัน และเมื่อเราเลือก Photo Setting เข้ามาหน้าตาก็เป็นดังรูปครับ จะมีข้อแตกต่างกับเครื่อง Windows Phone อื่นๆ ก็คงเป็นรายละเอียดของแต่ละเมนู ซึ่งมีดังต่อไปนี้ครับ
การตั้งค่าการถ่ายภาพ:
- Scenes: Close-up, Night, Night Portrait, Sports, Backlight และ Auto
- ISO: Auto และ 100-3200
- Exposure Value: +2 จนถึง -2 stop
- White Balance: Auto, Cloudy, Daylight, Fluorescent, Incandescent
- Aspect Ratio: 16:9 และ 4:3
- Focus Assist Light: On หรือ Off
สำหรับตัวแอพที่ติดมากับเครื่อง(built-in app) นั้น จำกัดการถ่ายภาพที่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซลเท่านั้น ไม่สามารถถ่ายภาพความละเอียดสูงเพื่อเอาไว้แต่งทีหลังได้ เดาว่าที่เป็นแบบนี้เพราะเป็นขนาดภาพปกติที่คนทั่วไปจะใช้กัน และหากใครต้องการภาพความละเอียด 34 หรือ 38 ล้านพิกเซล ก็ค่อยไปถ่ายด้วย Nokia Pro Cam เอาเอง
การตั้งค่าการถ่ายวีดีโอ:
- White Balance: Auto, Cloudy, Daylight, Fluorescent, Incandescent
- Continuous Focus: On หรือ Off
- Video Mode: 720p และ 1080p
แอพ Nokia Pro Cam
แม้จะไม่ใช่ built-in app แต่ก็ถือว่าเป็นแอพหลักของ Nokia Lumia 1020 ไปแล้วครับ เพราะเราจะถ่ายรูปความละเอียดเต็มได้ เราต้องถ่ายด้วย Nokia Pro Cam เท่านั้น รวมทั้งฟีเจอร์ต่างๆ ที่เป็นตัวชูโรงของ Nokia Lumia 1020 ด้วย ซึ่งแอพนี้เป็นแอพพลิเคฃั่นที่จะมาเสริมความสามารถของแอพพื้นฐานของ Nokia Lumia 1020 ให้สามารถตั้งค่ากล้องได้หลากหลายมากขึ้น ทั้ง ความเร็วชัตเตอร์, ISO, white balance, โฟกัส และฟีเจอร์ต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งเราสามารถเข้าสู่การตั้งค่าได้ทีละตัวจากแถบเมนูบริเวณขอบจอด้านบน หรือจะลากปุ่มชัตเตอร์ที่อยู่บริเวณขอบจอด้านขวามือเราออกมาตรงกลาง ก็จะทำให้เรามองเห็นเมนูพร้อมกันทั้งหมดได้
นอกจากการเข้าถึงการตั้งค่าจากแถบเมนูบริเวณขอบจอด้านบนแล้ว เราสามารถเข้าไปที่ ปุ่มสามจุด เพื่อเข้าสู่การตั้งค่าอื่นๆ ได้อีก ซึ่งประกอบด้วย
การตั้งค่าการถ่ายวีดีโอ:
- Framing Grids: Rule of thirds, Golden Ratio, Crosshairs, Square
- Resolution and Frame Rate: 1080p/30fps, 1080p/25fps, 1080p/24fps, 720p/30fps, 720p/25fps, 720p/24fps
- Audio Bass Filter: Off, Default (100Hz) และ Strong (200Hz)
การตั้งค่าการถ่ายภาพ:
- Framing Grids: Rule of thirds, Golden Ratio, Crosshairs, Square
- Aspect Ratio: 16:9 และ 4:3
- Capture Mode: 5MP, 5MP + 34MP, 5MP + 38MP
- Facial Detection: On และ Off
สำหรับความละเอียดภาพ 5MP + 3xMP หมายความว่ากล้องจะถ่ายออกมาและบันทึกไว้ 2 รูป ได้แก่ รูปที่ 1 ความละเอียด 5MP และรูปที่ 2 หากเราตั้งอัตราส่วนภาพเป็น 4:3 เราจะได้ ความละเอียด 38MP แต่หากเราตั้งอัตราส่วนภาพเป็น 16:9 แล้ว เราจะได้ ความละเอียด 34MP แทน แต่สำหรับรูปที่ 2 นี้ เราจะไม่สามารถมองเห็นได้จากในอัลบั้มของเราครับ เราจะเห็นก็ต่อเมื่อเข้า Edit รูปด้วย Nokia Pro Cam หรือ เปิดดูในคอมพิวเตอร์เท่านั้น
เนื่องจากการถ่ายภาพหลักๆ และฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ Nokia Lumia 1020 ต้องพึ่ง Nokia Pro Cam เท่านั้น เวลาใช้งานกล้องเราก็ควรไปตั้งค่าให้ปุ่มชัตเตอร์เป็น Nokia Pro Cam ด้วยนะครับ
ฟังก์ชันและฟีเจอร์ที่น่าใช้สอย & ความง่อยที่ไม่สมควรมี
ลำดับต่อไป เราจะขอกล่าวถึงข้อดีข้อเสียเกี่ยวกับการถ่ายภาพด้วย Nokia Lumia 1020 ที่ใช้งานแอพ Nokia Pro Cam เป็นหลักนะครับ อยากบอกว่ามีเรื่องขัดใจหลายอย่างทีเดียว
ฟังก์ชันและฟีเจอร์ที่น่าใช้สอย
เมื่อเราถ่ายภาพด้วย Nokia Pro Cam ปรับตั้ง ความเร็วชัตเตอร์, ISO, white balance, โฟกัส ได้ตามความเหมาะสมกับรูปที่เราจะถ่าย หรือจะใช้โหมดอัตโนมัติทั้งหมดก็ได้ครับ ซึ่งถือว่าฉลาดมาก ไม่มีปัญหา white balance เพี้ยนเหมือนแต่ก่อนแล้วครับ นอกจากนี้ยังสามา การถ่ายแล้วนำมาตัดต่อ และตกแต่งทีหลังได้ เมื่อบันทึกแล้วความละเอียดของภาพก็ยังเป็นภาพความละเอียดสูงอยู่(5 ล้านพิกเซล) เช่นเดิม สำหรับเรื่องนี้ถือว่าเห็นประโยชน์ชัดเจนเลยครับ
ความง่อยที่ไม่สมควรมี
เรื่องแรกก็คือ ความรวดเร็วในการเข้าถึงแอพพลิเคชั่นจากหน้าล็อคหน้าจอ ที่แม้ว่าจะสามารถตั้งค่าให้ปุ่มกดชัตเตอร์ข้างตัวเครื่องเป็นการกดเข้าสู่ Nokia Pro Cam ได้เลย และสามารถกดค้างเพื่อเข้าสู่แอพ Nokia Pro Cam พร้อมถ่ายได้แม้เราจะล็อคหน้าจออยู่ก็ตาม แต่หากเราใส่รหัส PIN เอาไว้แล้วหละก็ การกดค้างก็จะไปติดรหัส PIN อยู่เช่นเดิม จะไม่สามารถเข้าสู่แอพ Nokia Pro Cam ได้
เรื่องที่สอง Nokia Pro Cam ควรที่จะสามารถบันทึกการตั้งค่าเริ่มต้นได้ สำหรับเวอร์ชั่นนี้หากเราออกจากแอพพลิเคชั่นไปสักพักแล้ว มันจะปรับโหมดทั้งหมดเป็น Auto เลยครับ(ยกเว้นการตั้งค่า flash) ทั้งๆ ที่แอพพลิเคชั่นอื่น อย่าง Proshot บน Windows Phone ก็ยังทำได้ แต่ Nokia Pro Cam ทำไม่ได้ ? อันนี้ไม่สมกับคำว่า Pro ที่อยู่ในแอพเลย
เรื่องที่สาม หลังจากกดถ่ายไปแล้ว แอพพลิเคชั่นต้องใช้เวลา 2-3 วินาทีในการประมวลผล ซึ่งถือว่าน่าขัดใจเป็นอย่างมาก หากเรากำลังถ่ายรูปวัตถุที่เครื่องไหว หรือเหตุการณ์ที่ต้องใช้ความเร็วในการกดชัตเตอร์ เราก็เข้าใจว่าระบบต้องประมวลผลก่อนซึ่งไฟล์ภาพมีขนาดใหญ่มาก แต่หากโนเกียสามารถทำให้มันเร็วขึ้นอีกสักนิดได้ก็จะดีมากครับ
เรื่องที่สี่ เราจะไม่สามารถมองเห็นรูปความละเอียดสูง 34 หรือ 38 ล้านพิกเซลจากในอัลบั้มรูปของเราได้ จะเห็นก็แต่รูป 5 ล้านพิกเซลเท่านั้น ทำให้เราไม่สามารถนำรูปความละเอียดสูงไปใช้ประโยชน์ได้โดยตรง ซึ่งหากเราจะใช้จริงๆ ต้องเสียบเข้าคอมพิวเตอร์เท่านั้น ถึงจะมองเห็นได้
ในอัลบั้ม หากเรากดเปิดด้วย Nokia Pro Cam เราถึงจะมองเห็นรูปความละเอียดสูงครับ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้เราซูม Crop หมุน และตกแต่งได้ในรูปแบบที่หลากหลาย โดยเมื่อบันทึกแล้วความละเอียดรูปในอัลบั้มก็จะยังเป็น 5 ล้านพิกเซลเช่นเคย ความง่อยข้อที่ห้าจึงมาอยู่ตรงนี้ครับ รุปที่เราบันทึกไปนั้น มันจะไปบันทึกทับรูปเดิมในอัลบั้มครับ นั่นแสดงว่าฟีเจอร์ Crop รูปในหลายๆ มุมของภาพจะไม่มีประโยชน์เลย ทางที่เลี่ยงได้ก็คือ ก่อนการปรับแต่งหรือ Crop รูป เราต้องกดแชร์ไปเก็บไว้ที่ Skydrive เสียก่อนครับ
เห็นได้ชัดเลยครับว่า โนเกียต้องการให้ Nokia Pro Cam เป็นแอพชูโรงของ Nokia Lumia 1020 ดังนั้นจึงคาดว่าปัญหาเหล่านี้ย่อมได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วแน่นอน ไม่แน่เมื่อมันออกขายในประเทศไทย ปัญหาเหล่านี้อาจหมดไปแล้วก็ได้ครับ แต่อย่างไรก็ตามซอฟท์แวร์ที่ติดมากับกล้องก็ยังทำงานได้ดีและสมบูรณ์ เราก็สามารถใช้งานเป็นแอพหลักได้ ในกรณีพิเศษเราค่อยเลือก Nokia Pro Cam ในการถ่ายรูปเองได้ครับ
ตัวอย่างภาพถ่าย
ภาพตัวอย่างทั้งหมด ผมถ่ายด้วยอัตราส่วน 16:9 ทำให้ความละเอียดสูงสุดที่ได้เป็น 34 ล้านพิกเซลนะครับ ซึ่งเพื่อนๆ สามารถดาวน์โหลดไฟล์ตัวอย่างแบบเต็มความละเอียดได้ที่ Skydrive ส่วนรูปภาพดังต่อไปนี้เป็นตัวอย่างภาพที่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
ภาพแบบไม่ลดขนาดเลย
รูปนี้ตั้ง speed shutter เป็น 1/16000 อย่างอื่นเป้น auto หมดครับ
ภาพแบบลดขนาดก่อนอัพโหลด
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
ตัวอย่างคลิปวีดีโอ
การถ่ายคลิปวีดีโอ ผมตั้งค่าตามที่แอพเลือกไว้ให้ นั่นคือ 1080p/30fbs และ Audio bass filter เป็น 100Hz
ตัวอย่างคลิปวีดีโอในช่วงกลางวัน
ตัวอย่างคลิปวีดีโอในช่วงกลางคืน
[box_info]สรุปการรีวิว Nokia Lumia 1020 [/box_info]
Nokia Lumia 1020 เป็นสมาร์ทโฟนที่เซ็นเซอร์ความละเอียดสูงถึง 41 ล้านพิกเซล ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการตัดต่อและตกแต่งภาพภายหลังได้ตามที่เราต้องการ หรือจะใช้ภาพความละเอียดสูงนั้นไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้อีกหลากหลายครับ และด้วยกล้องหลักที่คุณสมบัติด้านต่างๆ ดีขึ้นกว่ารุ่นอื่นๆ มันทำให้ Nokia Lumia 1020 ถ่ายภาพออกมาได้ดีและสวยมาก แม้จะตั้งค่าที่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซลก็ตาม ในด้านตัวเครื่องถือว่าเป็นจุดเด่นที่สุดอีกอย่างของ Nokia Lumia 1020 เพราะงานประกอบดีมาก เหมือนกับ Nokia Lumia 920 ที่เป็น unibody ด้านหลังบริเวณรอยต่อของเลนส์และฝาหลังก็เนียบ แน่น ไม่มีที่ติครับ มีความบางและเบากว่า Lumia 920 จับถนัดมือมาก จุดเด่นสุดท้ายที่อยากกล่าวถึงก็คือ แรม 2GB ซึ่งผู้ใช้ Windows Phone 8 ช่วงหลังเราก็คงได้เห็นกันแล้วว่าขนาดของแรมเริ่มส่งผลต่อฟีเจอร์ต่างๆ ที่เราจะได้รับ รวมทั้งขีดจำกัดของแอพพลิเคชั่นบางตัวด้วย ดังนั้น แรม 2GB ของ Lumia 1020 จึงเป็นเครื่องการันตีว่า เรายังไปด้วยกันได้อีกไกลกับ Windows Phone 8 ครับ
ข้อเสียของ Nokia Lumia 1020 ก็คือระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 ที่ยังอยู่ในช่วงปีแรกของการเติมโต แม้จะพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอีกหลายๆ อย่าง ส่วนความสามารถของการถ่ายภาพที่เป็นตัวชูโรงของ Nokia Lumia 1020 ผมมองว่ามันน่าเสียดายที่แอพพลิเคชั่นหลักไม่สามารถดึงคุณสมบัติเซ็นเซอร์ความละเอียดสูงถึง 41 ล้านพิกเซลมาใช้ได้อย่างเต็มที่ ยังมีเรื่องที่น่าขัดใจหลายๆ อย่าง ยังไม่สามารถใช้ประโยชน์อะไรได้มากนักกับความละเอียดสูงตัวนี้
[gradeA]