สำหรับ Nokia Lumia icon เครื่องที่ใช้ในการรีวิวนี้ ทีมงานมีความตั้งใจซื้อมาใช้เองโดยเฉพาะ เนื่องเป็น Nokia Windows Phone ที่ลงตัวและสมบูรณ์แบบมาก ในตอนแรกว่าจะไม่รีวิวแล้วครับ เพราะรุ่นนี้ไม่มีขายในประเทศไทย แต่หลังจากการเปิดตัวของ Nokia Lumia 930 เรือธงตัวใหม่ของ Nokia ก็พบว่า Nokia Lumia icon และ 930 นั่นเหมือนกันทุกอย่าง แทบหาข้อแตกต่างๆ ไม่ได้เลย ดังนั้นทีมงานจึงจับเจ้า Nokia Lumia icon มารีวิวให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันก่อนที่ Nokia Lumia 930 จะวางจำหน่ายในประเทศไทยนะครับ ซึ่งถือว่าเป็นรีวิวจากการใช้งานจริงเป็นระยะเวลาเกือบสองเดือน ไปดูกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง โดยเราจะแบ่งการรีวิวออกเป็นหัวข้อดังต่อไปนี้
- ตัวเครื่องและวัสดุ
- สเปค คุณสมบัติของ Nokia Lumia icon
- ระบบปฏิบัติการ Windows Phone
- ประสบการณ์การใช้งาน
- ตัวอย่างภาพถ่ายและวีดีโอ
- สรุปการรีวิว Nokia Lumia icon
ตัวเครื่องและวัสดุ
สำหรับ Nokia Lumia icon นี้วัสดุและงานประกอบจะคล้ายกับ Nokia Lumia 925 เลยครับ นั่นคือ ขอบเป็นอะลูมิเนียม แล้วมีฝาหลังผิวสากๆ แปะไว้อย่างแน่นหนา แต่ตัวเครื่องจะหนากว่า Nokia Lumia 925 และจะเป็นทรงเหลี่ยมมากกว่า การใช้งานในช่วงแรกๆ ก็กังวลอยู่ว่าขอบอะลูมิเนียมจะเป็นรอยง่าย แต่ใช้งานไปนานๆ โดยไม่ใส่เคสเลย ก็พบว่ายังไม่มีรอยให้เห็นเลยครับ
ส่วนปุ่มรอบตัวเครื่องจะเหมือนกับ Nokia Lumia เวอร์ชั่น Windows Phone 8 ทุกรุ่น ที่ปุ่มด้านข้างมี 3 ปุ่มหลักๆ ได้แก่ ปุ่มปรับระดับเสียง ปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง และปุ่มการถ่ายภาพ ความแข็งแรงของปุ่มกดไว้ใจได้เลยครับ ไม่มีการโยกคลอนได้ง่ายๆ แน่นหนามาก
ขอบล่างของตัวเครื่องก็จะเป็นช่อง microUSB สำหรับเชื่อมต่อข้อมูลและชาร์จแบตเตอรี่ ยังคงอยู่ในตำแหน่งเดียวกับทุกรุ่นครับ
ส่วนด้านบนจะแตกต่างออกไปสักหน่อย นอกจากจะมีช่องเสียบหูฟังแล้ว ยังมีถาดใส่ซิมที่ออกแบบมาพิเศษไม่เหมือนกับทุกรุ่นที่ผ่านมา นั่นคือ ไม่มีรูสำหรับเสียบเข็มจิ้มซิมอีกแล้วครับ แต่ถาดใส่ซิมเราสามารถเอาออกมาได้ง่ายๆ โดยใช้เล็บจิกแล้วแงะออกมาได้เลย ง่ายและสะดวกมา ส่วนความแข็งแรงไม่ต้องห่วงเลยครับ สำหรับซิมการ์ดก็เป็น nanoSim เหมือนกับ Nokia Lumia 1520 ที่คาดว่าจะเป็นมาตรฐานของ Nokia Lumia ในอนาคตเลยครับ
ส่วนหน้าจอมีขนาด 5 นิ้ว full HD 1080p OLED 440 ppi ClearBlack, Gorilla Glass 3 ซึ่งเป็นขนาดกลางระหว่างเรือธงรุ่นเก่าๆ ที่มีขนาด 4.5 นิ้วและ Nokia Lumia 1520 ที่มีหน้าจอใหญ่ถึง 6 นิ้ว ส่วนตัวแล้วชอบขนาดหน้าจอ 5 นิ้ว ของ Nokia Lumia icon มากกว่า เพราะกำลังพอดีครับ หน้าจอ 6 นิ้วใช้มือเดียวไม่ไหวจริงๆ ส่วนหน้าจอ 4.5 นิ้วก็รู้สึกว่ามันเล็กไปแล้ว ส่วนประเภทหน้าจอเป็น OLED เช่นเดียวกับ Nokia Lumia 925 ทำให้เป็นแสดงสีสันได้สดกว่าจอ IPS ของรุ่นอื่นๆ และหากเราเลือกพื้นหลังของ Theme เป็นสีดำ OLED ก็จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้มหาศาล เพราะบริเวณหน้าจอสีดำมันจะไม่ใช้พลังงานเลย ยิ่งหากเราเปิดใช้ฟีเจอร์ High Contrast(เปิดใช้งานโดยการเข้าไปที่ Settings >> ease of access >> High Contrast >> on) ด้วยแล้วหละก็ รับรองแบตเตอรี่อึดมหาศาลแน่ๆ ครับ ส่วนสีดำก็จะดำสนิทด้วยเทคโนโลยี ClearBlack ที่ติดมาด้วย
โหมด High Contrast
หลายคนอาจกังวลว่าขนาดหน้าจอ 5 นิ้วนี้เครื่องจะใหญ่เกินไปไหม เราขอบอกเลยว่าไม่ใหญ่อย่างที่คิดครับ เพราะ Nokia Lumia icon มีขอบจอที่บางมากทั้ง 4 ด้าน บางกว่าทุกรุ่นที่โนเกียเคยผลิตมาเลยครับ ถือว่าทำออกมาได้ดีมาก ส่งผลทำให้ขนาดตัวเครื่องโดยรวมไม่ใหญ่จนเกินไป
ด้านหลังตัวเครื่อง อย่างที่ว่าไปตั้งแต่ตอนแรกฝาหลังจะเหมือนกับ Nokia Lumia 925 เลยครับ ส่วนล่างก็จะเป็นลำโพง สำหรับเครื่องหิ้วแบบนี้ก็จะมีแบรนด์ของผู้ให้บริการติดมาด้วยครับ
ส่วนด้านบนก็เป็นเลนส์กล้องความละเอียด 20 ล้านพิกเซล PureView, ZEISS OIS, 2x lossless zoom, oversampling, dual LED flash ครบเซ็ตทุกเทคโนโลยีที่โนเกียมีอยู่เลยครับ
สเปค คุณสมบัติของ Nokia Lumia icon
สำหรับสเปคของ Nokia Lumia icon จะใกล้เคียงกันกลับ Nokia Lumia 1520 เลยครับ แต่มีความโดดเด่นที่หน้าจอขนาด 5 นิ้ว การออกแบบและวัสดุที่เหนือกว่า ส่วนสเปคอื่นๆ มีดังต่อไปนี้
- ระบบ Windows Phone 8 Lumia Black
- หน้าจอแสดงผล 5 นิ้ว full HD 1080p OLED 440 ppi ClearBlack, Gorilla Glass 3
- หน่วบประมวลผล Qualcomm Snapdragon 800 Quad-Core 2.2 GHz
- GPU Adreno 330
- กล้องหลัง : 20ล้านพิกเซล PureView, ZEISS OIS, 2x lossless zoom, oversampling, dual LED flash
- แรม 2 GB
- หน่วยความจำ 32 GB
- Bluetooth 4.0 LE
- แบตเตอรี่ 2420 mAh รองรับ Qi wireless charging (ชาร์จไร้สาย)
- มิติขนาดเครื่อง : 5.39 x 2.79 x 0.39 in
- น้ำหนัก: 166 กรัม
- ใช้นาโนซิม
- Networks: LTE: 700MHz; SVLTE Band 13; Band 4; CDMA: 3G EVDO 850/1900 Rev A with Rx Diversity; Global Ready: GSM (850MHz, 900MHz, 1800MHz, 1900MHz) UMTS (850MHz, 900MHz, 1900MHz, 2100MHz)
ระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8
ระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 เป็นระบบปฏิบัติการที่เกิดขึ้นมาได้แค่ปีกว่าๆ การออกแบบและใช้งานสไตล์เมโทร หน้าหลักในการใช้งานมี 2 หน้า ได้แก่ หน้า LiveTiles สำหรับปักหมุดแอพพลิเคชั่นหรือฟังก์ชันที่เราใช้บ่อยๆ มาไว้หน้านี้ และหน้ารวมแอพพลิเคชั่น ซึ่งหากเรามีแอพมากกว่า 45 แอพระบบมันจะจัดเรียงแอพตามตัวอักษรเพื่อให้เราค้นหาได้ง่ายขึ้น
การใช้งาน Windows Phone 8 จะเน้นการปัดหน้าจอไปด้านซ้ายหรือขวา ไม่ใช่บนและล่างเหมือนระบบอื่นๆ ดังนั้นหากเพื่อนๆ หันมาใช้ใหม่อาจรู้สึกไม่ถนัด แต่ใช้ไปสักพักก็จะรู้สึกเคยชินมากยิ่งขึ้น
แอพพลิเคชั่นบน Windows Phone 8 ถือว่ายังมีหลายแอพที่เรียกได้ว่า “ไร้ประสิทธิภาพ” ส่วนใหญ่จะอยู่ในขั้น “พอใช้” และ “ใกล้เคียง” กับระบบอื่น จะมีส่วนน้อยที่เรียกได้ว่ามีประสิทธิภาพเหนือกว่าระบบอื่นๆ แต่สิ่งที่โดดเด่นและเรียกได้ว่าไม่มีใครทาบติด ก็คือ ความสวยงามของแอพพลิเคชั่นและการแสดงผลที่ไม่เหมือนใคร
สำหรับแอพยอดนิยมต่างๆ เราพูดถึงบางแอพพลิเคชั่นนะครับ ตัวอย่างเช่น Facebook บน Windows Phone 8 ยังไม่มีแอพ Official หรือตัวที่บริษัท Facebook เป็นคนพัฒนาเอง แอพ Facebook ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดใน Store ตอนนี้เป็นฝีมือการพัฒนาของ Microsoft เอง ที่ถือว่ายัง “ด้อยประสิทธิภาพ” แต่พอถูๆ ไถๆ ใช้ไปได้ ลำดับต่อมา คือ JDB Facebook เป็นแอพพลิเคชั่นที่ถือว่าแจ่มที่สุดใน Store แล้วครับ หากใครจะเล่น Facebook ก็ขอแนะนำตัวนี้หละครับ
อย่างไรก็ตาม ก็มีแนวโน้มที่ดี เพราะในตอนนี้ Facebook ก็ทำ Facebook Messenger ที่มีประสิทธิภาพไม่แพ้ระบบอื่นด้วยตัวเองแล้ว ต่อไปอาจถึงคิวของแอพ Facebook ตัว Official ครับ
ลำดับต่อไป คือ Line เป็นเป็นแอพ “ด้อยประสิทธิภาพ” อีกตัว การแจ้งเตือนช้ามาก ฟีเจอร์ต่างๆ น้อย ไม่มีหน้า Timeline ไม่สามารถซื้อสติ๊กเกอร์ด้วยตัวเองได้ ต้องอาศัยเพื่อนที่ใช้ Android ส่งเป็นของขวัญมาให้ อย่างไรก็ตามสติ๊กเกอร์เก่าๆ ที่เราเคยมีหรือเคยซื้อก็ตามมาอยู่นะครับ สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่เมนู Stickers ได้เลยครับ และมี Stickers Shop เอาไว้ให้เราไปดาวน์โหลดสติ๊กเกอร์ฟรีที่จะออกมาเรื่อยๆ ได้
แอพพลิเคชั่นหลักๆ นอกจาก 2 ตัวนี้แล้วถือว่าโอเคหมดเลยครับ ทั้ง Twitter, Wechat, Instagram แอพอื่นๆ และเกมต่างๆ อีกมากมายให้เราเลือกสรรครับ หากทำใจเรื่องแอพพลิเคชั่น 2 ตัวข้างต้นได้แล้ว ไม่ผิดหวังกับ Windows Phone 8 แน่นอนครับ
ระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8.1 ในวันที่ 2 เมษยน 2557 ที่ผ่านมา Microsoft ได้เปิดตัวเฟิร์มแวร์ใหม่ นั่นคือ Windows Phone 8.1 ที่มาเพิ่มความสามารถของ Windows Phone 8 ให้มีมากขึ้นไปอีก ซึ่งคาดว่าจะได้รับการอัพเดตในช่วงกลางปีนี้ แต่สำหรับคนที่ซื้อเครื่องรุ่นใหม่หลังจากนี้ ก็จะได้รับเฟิร์มแวร์ใหม่ตัวนี้มาด้วยเลยครับ ทั้ง Nokia Lumia 930, Nokia Lumia 630 และรุ่นอื่น ยี่ห้ออื่นๆ ที่จะตามออกมาหลังจากนี้ครับ แล้ว Windows Phone 8.1 มีรายละเอียดเป็นอย่างไรบ้าง ไปติดตามกันได้ครับที่
ประสบการณ์การใช้งาน
การใช้งาน Nokia Lumia icon ตลอดระยะเวลาเกือบสองเดือนที่ผ่านมา ด้านความสามารถและสเปคของตัวเครื่องแทบไม่มีปัญหาในการใช้งานเลย ไม่มีอืดให้เห็น ไม่มีการกระตุกปรากฏออกมา ปัญหาเดียวที่พบ ก็คือ ความร้อนตรงบริเวณขอบอะลูมิเนียม ที่ใช้งานหนักๆ นิดหน่อยก็ร้อนจี๋ขึ้นมาเลยครับ
ด้วยสเปคที่เต็มเปี่ยมของ Nokia Lumia icon ที่ให้มาสูงมากเพื่อผลด้านการตลาด แต่จริงๆ ตัวระบบปฏิบัติการยังไม่จำเป็นต้องใช้สเปคสูงขนาดนั้น มันทำให้การใช้งานไหลลื่น ไม่มีปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ให้เราได้เห็นเลยครับ เห็นได้จากการเล่นเกมที่ไม่มีสะดุด
การท่องเว็บไซต์ต่างๆ ใช้งานแอพพลิเคชั่นไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ก็ไม่มีปัญหาในการใช้งานเลย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติของตัวเรือธงฝั่ง Windows Phone ครับ ราคาสูง สเปคเกินมาตรฐาน ระบบที่เสถียรมาก ปัญหาของตัวเครื่องอันเนื่องมาจากสเปคจึงพบน้อยมากครับ
แต่สำหรับข้อจำกัดของระบบปฏิบัติการก็มีให้เห็นและขัดใจอยู่เนืองๆ สำหรับทีมงานที่ใช้ Windows Phone 8 มานานแล้วอาจรู้สึกเคยชิน แต่สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่เคยใช้ก็จะอาจมีปัญหากับข้อจำกัดของระบบหลายๆ อย่าง ไม่สามารถบอกปริมาณแบตเตอรี่เป็นเปอร์เซ็นต์ได้ การปรับเสียงแยกกันระหว่างการฟังเพลง เสียงสนทนา และเสียงเรียกเข้าไม่ได้ ไม่สามารถจัดกรไฟล์ในเครื่องได้ ไม่มี notification center เป็นต้น ซึ่งหลากหลายปัญหาอาจถูกแก้ไขได้ใน Windows Phone 8.1 ที่กำลังจะมา แต่ปัญหาหลายๆ อย่างก็ยังคงต้องรอการแก้ไขต่อไปครับ
ซึ่งทีมพัฒนา Windows Phone ของ Microsoft ได้ออกมาระบุว่า เมื่อ Microsoft ควบกิจการของ Nokia ได้สำเร็จการพัฒนาระบบให้สอดคล้องกับอุปกรณ์สมาร์ทโฟนก็จะเร็วติดจรวดเลยครับ
การจัดการพลังงานหรือแบตเตอรี่ความจุ 2,420 mAh นั้น เพียงพอต่อการใช้งานมากครับ โดยเฉลี่ยแล้วชาร์จแต่ละครั้งอยู่ได้ประมาณ 9 ชั่วโมง 55 นาที ครับ
ผลการทดสอบ Benchmark ของ Nokia Lumia icon โดยแอพพลิเคชั่น Basemark OS II Free ได้ผลดังต่อไปนี้
ตัวอย่างภาพถ่ายและวีดีโอของ Nokia Lumia icon
กล้องของ Nokia Lumia icon เมื่อถ่ายด้วย Nokia Camera จะได้ออกมา 2 รูปเช่นเดียวกับ Nokia Lumia 1020 นะครับ คือรูปขนาด 5 ล้านพิกเซล+16 ล้านพิกเซล(อัตราส่วน 16:9) หรือ รูปขนาด 5 ล้านพิกเซล+19 ล้านพิกเซล(อัตราส่วน 4:3) และสำหรับรูปขนาดเต็มเราสามารถเลือกให้เก็บเป็นไฟล์ DNG ได้ด้วยนะครับ
สำหรับตัวอย่างภาพถ่ายจาก Nokia Lumia icon ชุดนี้ ได้ทำการย่อขนาดลงเพื่อให้สะดวกในการอ่านและเขียนบทความนี้นะครับ
แต่อย่างไรก็ตาม Nokia ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหา white balance ของโหมดอัตโนมัติเพี้ยนในบางสภาพแสงได้เหมือนเดิมครับ เจอได้ทุกรุ่นจริงๆ
ตัวอย่างการถ่ายวีดีโอด้วย Nokia Lumia icon
การถ่ายวีดีโอของ Nokia Lumia icon เราสามารถตั้งค่า Audio bass filter ได้สองแบบ นั่นคือ default(100 Hz) และ Strong(200 Hz) ซึ่ง Strong เหมาะสำหรับการถ่ายวีดีโอในที่ที่มีเสียงรบกวนสูงมาก เช่นในผับ หรือชายทะเล เป็นต้น แต่สำหรับการคลิปวีดีโอที่ทดสอบนี้ เราตั้งค่าเป็น default(100 Hz) นะครับ
.
.
สรุปการรีวิว Nokia Lumia icon
จากการใช้งานตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ เราบอกได้ว่า Nokia Lumia icon ตัวนี้ ขนาดหน้าจอ ขนาดตัวเครื่อง และน้ำหนักกำลังพอดีเลยครับ แบตเตอรี่ก็อึดมาก ส่วนการใช้งานด้านอื่นๆ ที่เห็นได้ชัดก็คือ การเล่นเกมที่สุดยอดมากครับ ทั้งขนาดหน้าจอ เต็มตา ความคมชัดและความไหลลื่นที่ Nokia Lumia รุ่นอื่นๆ ให้ผมไม่ได้
สเปคของเครื่องที่เกินมาตรฐานของระบบปฏิบัติการในปัจจุบัน ทำให้ Nokia Lumia icon สามารถอัพเกรดเฟิร์มแวร์และใช้งานได้ไปอีกยาวนานเลยครับ
ส่วนปัญหาของตัวเครื่องที่พบก็คือ เวลาใช้งานหนักๆ ขอบอะลูมิเนียมจะร้อนกว่า Nokia Lumia ทุกรุ่นที่เคยสัมผัสมา ปัญหาเดียวกับ Nokia Lumia 925 และยิ่งผิวสัมผัสมันกว้างเพราะความหนาของตัวเครื่องด้วยแล้วถือว่าใช้รุ่นนี้ต้องเผชิญกับความร้อนไปตลอดเลยหละครับ(ถ้าไม่ใส่เคส)
อีกอย่างที่ไม่ถือว่าเป็นปัญหา แต่เป็นข้อด้อยของ Nokia Lumia icon ตัวนี้ ก็คือ มันไม่รองรับฟีเจอร์ Glance Screen ครับ
สำหรับเพื่อนๆ ที่คุ้นเคยกับระบบปฏิบัติการ Windows Phone กันดีอยู่แล้วก็คงเข้าใจทั้งข้อเด่นและข้อด้อย แต่สำหรับคนที่ยังไม่เคยได้ใช้งาน Windows Phone เราขอแนะนำว่าให้ศึกษาให้มากขึ้นนะครับ เพราะ Windows Phone การใช้งานและความสามารถมันต่างจากระบบอื่นๆ ที่ท่านเคยใช้งานมามากพอสมควร ซึ่งข้อมูลในการศึกษานั้นมีอยู่มากมายในหมวดหมู่ Windows Phone ของเว็บไซต์ AppdisQus.com ของเราครับ
[gradeB]