Samsung Galaxy S4 เป็นมือถือที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันคือมือถือระดับเรือธงที่คนรอและคาดหวังมากที่สุดในวันนี้ครับ หลังจากความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของแบรนด์มือถือจากแดนโสม Samsung ที่ประสบความสำเร็จก้าวมาเป็นเบอร์ 1 ในตลาด Android กลายเป็นคู่แข่งที่สูสีที่สุดกับฝั่ง iOS โดยความสำเร็จอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ Samsung Galaxy S ที่เปลี่ยนแปลงความรู้สึกของผู้ใช้ระบบ Android จนเรียกได้ว่า Android เติบโตมาขนาดนี้ส่วนนึงก็มาจากการผลัดดันของ Samsung งานนี้เรียกได้ว่าพึ่งพากันและกันแบบชัดเจครับ เพราะถ้าไม่มี Android ก็คิดไม่ออกเลยว่า Samsung จะเอาระบบอะไรมาลุยกับฝั่ง iOS ได้ขนาดนี้ (ลืมๆ Bada ไปซะจริงๆระบบมันไม่เลวนะ แต่ขาดการเอาใจใส่อย่างจริงจัง) จนมาถึงวันนี้ Samsung ก็สามารถทำให้คนพูดถึงมือถือ Android ก็คิดถึงแบรนด์ Samsung เป็นอันดับแรกๆได้สำเร็จ มาวันนี้ไปไหนคนก็ถามว่าจะซื้อ iPhone หรือ Samsung ดีกันทั้งนั้น (ฟังแบบนี้ถ้าผมเป็นแบรนด์อื่นๆจะน้อยใจโคตรๆเลยครับ5555)
สามารถไปอ่าน รีวิว Samsung Galaxy S4 ตอนจบได้ที่นี่ครับ
และสำหรับ Samsung Galaxy S4 มือถือเรือธงรุ่นล่าสุดของ Samsung สัมผัสแรกเลยผมประทับใจหน้าจอ Super AMOLED ความละเอียด Full HD 1080 x 1920 pixels (441 ppi) ขนาด 5 นิ้วของมันมากๆครับสวยงามมากๆ สีสันสดจัดจ้าน แถมดูละเอียดเนียนตาจริงๆ และเป็นมือถือรุ่นแรกของโลกที่ใช้กระจกกันรอยขีดข่วน Gorilla Glass 3 อีกด้วย รวมทั้งตัวเครื่องที่บางลงและมีขนาดแทบจะไม่ต่างจาก Samsung Galaxy S3 แต่สามารถขยายหน้าจอได้ใหญ่กว่าเดิม ทำให้ขอบจอเหลือพื้นที่น้อยมากๆ ปุ่มควบคุมด้านล่างไม่มีส่วนเกินให้รู้สึกขัดใจเลย
ลวดลายที่ออกแบบใหม่เป็นลายจุดๆทั้งด้านหน้าและด้านหลังดูอวกาศมากครับ แถมผิวตัวเครื่องยังเงาวับแบบ Hyperglaze เหมือนรุ่นก่อนดูสวยงามและทันสมัยมากครับ วัสดุโดยรวมยังคงเป็นโพลีคาร์บอเนตเช่นเคยแต่เสริมความแข็งแรงและป้องกันเครื่องตกโดยกระจกหน้าจอจะไม่นูนขึ้นมาแล้ว แต่จะเรียบๆปกติและจะมีเฟรมโลหะครอบชั้นนึงเพื่อป้องกันการกระแทก ขอบเครื่องตรงกลางเหมือนจะเป็นโลหะแต่ไม่ใช่นะครับมันยังเป็นโพลีคาร์บอเนต แต่เล่นลายและเคลือบผิวเงาจนดูคล้ายโลหะ ซึ่งทำออกมาได้สวยหรูกว่าเดิม
ตัวเครื่องภายนอกรวมๆจะดูเนี๊ยบและแข็งแรงกว่าเดิมครับ แต่วัสดุก็ยังคงเป็นโพลีคาร์บอเนตซึ่งน่าจะมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบเช่นเคย ข้อดีก็คือมันมีน้ำหนักเบาและยืดหยุ่นสูง แต่ข้อเสียก็คือมันไม่ค่อยหรูนี่ละครับ ก็ต้องยอมรับนะครับว่าสัมผัสแรกนอกจากหน้าจอที่สวยงามน่าทึ่งแล้ว เรื่องการออกแบบและวัสดุผมไม่ค่อยว้าวเลยครับ ออกจะประทับใจอีกแบรนด์มากกว่าเยอะในเรื่องความหรูหราสวยงาม
สเปคตัวเครื่องของ Samsung Galaxy S4
รองรับ 3G ทุกเครือข่าย (ในไทยไม่รองรับ LTE)
ขนาดตัวเครื่อง 136.6 x 69.8 x 7.9 มม. น้ำหนัก 130 กรัม
หน้าจอขนาด 5 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด Full HD 1080 x 1920 pixels (441 ppi) กระจกกันรอยขีดข่วน Gorilla Glass 3
CPU Exynos 5 Octa 5410 Quad Core 1.6 GHz Cortex-A15 & Quad Core 1.2 GHz Cortex-A7, GPU PowerVR SGX 544MP3
RAM 2GB หน่วยความจำภายใน 16GB เพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุด 64GB
Android 4.2.2 Jelly Bean ครอบทับด้วย TouchWiz UX
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, DLNA, Wi-Fi Direct, Wi-Fi hotspot, Bluetooth 4.0, NFC, Infrared Port, microUSB v2.0 (MHL 2), USB On-the-go, USB Host, GPS+A-GPS รองรับ GLONASS
กล้องความละเอียด 13MP บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P กล้องหน้า 2MP บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P
แบตเตอรี่ความจุ 2600 mAh
Samsung Galaxy S4 จะมีให้เลือกด้วยกัน 2 สีครับได้แก่สีดำ Black Mist และสีขาว White Frost ซึ่งมีที่มาของสีเท่มากๆจินตนาการบรรเจิดสุดๆ5555 สีดำ Black Mist มีที่มาจากม้าป่าสีดำที่ดูลึกลับสง่างามและ White Frost ซึ่งมีที่มาจากเกล็ดหิมะยามเช้า เป็นไงครับอึ้งไปเลยละสิ อิอิ ส่วนตัวผมชอบสีดำมากกว่าสีขาวครับ ผมว่ามันดูเท่และแมนดีนะและเชื่อว่าต่อไป Samsung Galaxy S4 น่าจะมีให้เลือกซื้อกันหลากหลายสีเหมือนที่ Samsung นิยมผลิตออกมาในช่วงหลังๆแน่นอนครับ
สำหรับ Samsung Galaxy S4 ก็ยังมี Notification Light มาให้เช่นเคยหลังๆคนชอบกันมากนะครับ ผมก็ว่าสะดวกดีแหะดีใจที่มันกลับมาเป็นที่นิยมครับ ส่วนปุ่ม Home งวดนี้ถึงผมจะไม่ชอบเพราะชอบแบบสัมผัสเพรียวๆมากกว่าแต่คราวนี้ Samsung ทำมาดีครับแน่นและแข็งแรงดีมาก แถมดูสวยงามดีด้วย ส่วนลำโพงสนทนาคมชัดและเสียงดังดีครับ
ด้านหลังเรียบๆครับโชว์ลวดลายแบบใหม่เต็มที่ ตำแหน่งต่างๆก็คุ้นตามาแนว Samsung นิยมตัวกล้องใหญ่มากๆครับเพราะมีความละเอียดสูงถึง 13MP แถมมาคราวนี้กล้องดีซะด้วยนะครับ ผมค่อนข้างประทับใจกล้องของ Samsung Galaxy S4 มากครับจะติก็ตรงเวลาเคลื่อนไหวจะจับ Focus ช้าครับแต่เราแก้ไขได้โดยแตะหน้าจอเพื่อเลือกจุด Focus เองก่อนถ่ายก็จะไม่รู้สึกอะไร หรือถ้ายกมาถ่ายเลยโดยไม่เคลื่อนที่กล้องก็จะประมวลผลได้เร็วปกติ แม้ในสถานที่แสงน้อยกล้องก็ยังจับ Focus ได้เร็วและฉลาดมากครับ ลำโพงจะอยู่ด้านล่างและมีส่วนนูนขึ้นมาเพื่อให้เสียงลำโพงลอดออกมาได้ ลำโพงของ Samsung Galaxy S4 เสียงดังมากครับแถมคมชัดไม่แตกเลยสมกับเป็นรุ่นเรือธง
ฝาหลังของ Samsung Galaxy S4 บางมากๆครับบางกว่าฝาหลังของ Samsung Galaxy S3 อีกแถมยืดหยุ่นกว่ามาก ผมลองงอไปงอมาแล้วสารเคลือบ Hyperglaze ก็ไม่มีอาการแตกหรือล่อนอย่างที่เคยมีข่าวเมื่อตอน Samsung Galaxy S3 ออกมาแรกๆเลยครับสบายใจได้ ซึ่งฝาหลับแบบนี้มีข้อดีนะครับมันแข็งแรงครับเพราะมันเหนียวและยืดหยุ่น จะแกะฝาหลังบ่อยๆก็ไม่มีปัญหาแตกหักแน่นอน แต่เจอก็คือยังมีปัญหาเรื่องการผลิตนิดหน่อยครับ บวกรอยบุ๋มเล็กๆแบบที่เคยเจอใน Samsung Galaxy S3 ก็ยังมีนะครับใน Samsung Galaxy S4 แต่ตัวที่ผมได้ยืมมาทดสอบยังเป็นแค่เครื่องทดสอบไม่ใช่ตัวขายจริงครับ ตัวขายจริงอาจจะแก้ไขเรื่องงานผลิตแล้วก็ได้ (ที่เป็นรูบุ๋มข้างๆกล้องจะเป็นไมค์ตัวที่ 2 นะครับ)
ขอบตัวเครื่องให้ดูกันชัดๆครับว่ามันจะเป็น 2 ชั้นมีขอบโลหะอยู่รอบกระจกด้านหน้าเสริมความทนทาน (แหมถ้าโครงตรงกลางเป็นโลหะทั้งหมดผมว่าจะหรูขึ้นกว่านี้อีกจมเลยนะเนี่ย) ด้านบนจะมีตัวส่งสัญญาณอินฟราเรดเพื่อใช้งานเป็นรีโมทได้ผ่าน WatchON และไมค์ตัดเสียงรบกวน, ช่องหูฟังมาตราฐานขนาด 3.5 มม.
ด้านล่างจะมีไมค์สนทนาและ microUSB v2.0 (MHL 2) รองรับการใช้งาน USB On-the-go และ USB Host
ด้านซ้ายจะมีปุ่มปรับระดับเสียง และด้านขวาจะเป็นปุ่ม Power
แกะฝาหลัง Samsung Galaxy S4 โชว์ครับตัวเครื่องจะใช้ Micro Sim และสามารถถอด Micro SD ออกได้โดยไม่ต้องถอดแบตเตอรี่ออกก่อน และแบตเตอรี่จะมีความจุ 2600 mAh ในเครื่องที่ผมได้ยืมมาทดสอบทาง Samsung ได้แก้ไขเรื่อง FW เป็นตัวล่าสุดที่จะเตรียมวางจำหน่ายวันที่ 3 พฤษภาคมนี้แล้วครับโดยใน FW นี้เท่าที่เล่นมาก็ไม่เจออาการเอ๋อๆอย่างที่เจอในงาน Samsung Galaxy S4 Rally ที่ผ่านมาแล้ว FW ตัวนี้เสถียรดีครับและการใช้งานที่เคยแบตเตอรี่หมดเร็วอย่างที่เคยเจอก็หายไปแล้วใน FW ตัวขายจริงผมว่าแบตอึดใช้ได้ครับ อย่างเมื่อวานแบตเหลือแค่ประมาณ 30% แต่สามารถใช้งานต่อ 3G และใช้ทวีตรวมทั้งเล่น Instagram ยาวนานไม่หยุดตั้งแต่ 6 โมงครึ่งไปจนถึง 3 ทุ่มกว่าๆแบตก็ยังไม่หมดครับเหลืออยู่ 7% ตามที่เห็นในภาพครับ ผมว่าแจ่มนะเนี่ย เหอ เหอ
คะแนนทดสอบของ Samsung Galaxy S4
ทดสอบด้วย Quadrant Standard ได้คะแนน 12653 คะแนน
ทดสอบด้วย AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 28397 คะแนน
ทดสอบด้วย NenaMark2 ทำไปได้ 60.0fps
รองรับ Multi Touch 10 จุดสมบูรณ์
แหมคะแนนเทพครับ แรงสุดๆสมกับความเป็นเรือธง อิอิ สำหรับเรื่อง Hardware ของ Samsung Galaxy S4 ก็ขอจบเพียงเท่านี่ครับในเรื่องของการใช้งาน ลูกเล่นที่อัดมาเพียบในส่วนของ Software ผมจะมาเล่าให้อ่านกันในตอนจบของรีวิว Samsung Galaxy S4 นะครับรออ่านกันได้เลยฮะ
สรุปแล้วความน่าประทับใจในส่วนของภายนอกของ Samsung Galaxy S4 ผมว่ามันอยู่ที่หน้าจอที่สวยจนน่าทึ่งและสัดส่วนที่บางลงแถมมีขนาดแทบจะเท่าเดิมแต่สามารถขยายหน้าจอให้ใหญ่ขึ้นถึง 5 นิ้วขอบจอและพื้นที่ต่างๆเหลือน้อยมากๆอย่างลงตัว และวัสดุงานประกอบโดยรวมที่ดูแข็งแรงกว่าเดิม
แต่จุดที่ผมว่าน่าจะปรับปรุงก็อยู่ที่งานออกแบบที่ผมว่ามันเริ่มจะซ้ำซากรวมทั้งการที่ใช้โมเดลเรือธงไปใส่ให้กับรุ่นรองๆ ที่เตรียมตัวจะวางจำหน่ายในอนาคตผมว่ามันดูจะเป็นการลดคุณค่าของ Design นะครับจริงๆควรจะให้งานออกแบบของรุ่นเรือธงแตกต่างจากรุ่นระดับรองๆลงมาแบบชัดเจนจะเหมาะสมกว่า คนที่ใช้รุ่นระดับเรือธงผมว่าเขาต้องการความภูมิใจนะครับ และวัสดุโพลีคาร์บอเนตเคลือบผิว Hyperglaze อืมมันสวยนะแต่ผมว่าคนส่วนมากก็เรียกร้องอยากได้วัสดุที่หรูหรากว่านี้ครับ อันนี้ถ้าปรับปรุงได้ผมว่า Samsung จะผลิตโทรศัพท์มือถือที่ยอดเยี่ยมออกมาได้อย่างแน่นอน เพราะเรื่องฟังก์ชั่นและหน้าตา UI รวมทั้งความประทับใจเมื่อใช้งาน Samsung ทำได้ดีมากอยู่แล้วนะครับ^__^
[gradeA]