เพื่อป้องกันการก่นดาและสาปแช่งคนเขียนจากผู้อ่านที่สนับสนุนและคัดค้านชุดกฎหมายดิจิทัลทั้ง 10 ฉบับนี้ ผมขอออกตัวก่อนจะเขียนบทความนี้นะครับว่า ผมต้องการเพียงนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องเท่านั้น ผมไม่ได้มีความสามารถเพียงพอที่จะวิเคราะห์หรือวิจารณ์ใดๆ ทั้งสิ้น แต่ผมนำเสนอบทความนี้เพื่อเป็นสื่อและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ให้เพื่อนๆ ที่ติดตามเราได้เข้าใจว่า ชุดกฎหมายดิจิทัลทั้ง 10 ฉบับที่สังคมออนไลน์กำลังพูดคุยกันอยู่ในขณะนี้มันคืออะไร? รายละเอียดเป็นอย่างไร? มีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง? ไม่ได้มีเจตนาเพื่อชี้นำเรื่องใดๆ ทั้งสิ้น แม้บางประโยคอาจจะเผลอไปบ้างก็ต้องขออภัยล่วงหน้านะครับ :D
ประเด็นปัญหาคือชุดกฎหมายดิจิทัลทั้ง 10 ฉบับนี้ มันคือ “กฎหมายเศรษฐกิจดิจิทัล” หรือ “กฎหมายความมั่นคงดิจิทัล” กันแน่ ??
เท้าความ เล่าเรื่อง:
ซีรี่ย์ยาวเรื่องนี้เริ่มขึ้นมาเมื่อคณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา อนุมัติหลักการร่างกฎหมายใหม่ที่เกี่ยวข้องต่ออุตสาหกรรมไอทีและอินเทอร์เน็ต จำนวน 10 ฉบับ ภายใต้แนวคิดการส่งเสริม Digital Economy ของประเทศไทย ได้แก่ [อ้างอิง 1]
- ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
- ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม เพื่อกำหนดให้มีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
- ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
- ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
- ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
- ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล
- ร่างพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
- ร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม
- ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
นอกจากนี้ ยังมีร่างกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและสิทธิเสรีภาพในข้อมูลข่าวสารอีกจำนวนหนึ่ง เช่น ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามสิ่งยั่วยุพฤติกรรมอันตราย ที่จะทำให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตมีความรับผิดเหมือนกับมาตรา 15 ของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ปัจจุบัน (เท่ากับว่าที่จะแก้ไขมาตรา 15 ในร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ ให้มีข้อยกเว้นความรับผิดให้กับผู้ให้บริการ ก็มารับผิดตาม พ.ร.บ.นี้แทน) หรือร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เกี่ยวกับเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของผู้ต้องสงสัย ที่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าถึงข้อมูลได้ตามที่ศาลอนุญาต (ซึ่งตามร่างแก้ไขวิอาญานี้ อย่างน้อยน่าจะดีกว่ามาตรา 34 ตามร่าง พ.ร.บ.ความมั่นคงไซเบอร์ ที่ไม่ระบุถึงการพิจารณาของหน่วยงานตุลาการที่เป็นอิสระเลย) [อ้างอิง 2]
ภายหลังอนุมัติได้มีหลายหน่วยงานออกมาคัดค้าน ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายพลเมืองเน็ต ที่มองว่ากฎหมายดังกล่าวเป็นกฎหมายเพื่อความมั่นคงมากกว่า ทั้งเรื่องการคืนคลื่นความถี่ให้รัฐบาล การเข้าถึงข้อมูลประชาชน การดักฟังข้อมูล โดยอ้างว่าทำเพื่อความมั่นคงของประเทศ สอดคล้องกับความกังวลของกลุ่มนักกฎหมายว่าร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมีเนื้อหาเกี่ยวกับความมั่นคงมากเกินไป อันจะเป็นผลเสียมากกว่าการพัฒนาเศรษฐกิจตามนโยบาย Digital Economy ขณะที่ยังได้ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ร่าง พ.ร.บ.ความมั่นคงทางไซเบอร์ฯ เขียนเพื่อจัดตั้งองค์กรทำหน้าที่ป้องกันอาชญากรรมทางไซเบอร์ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบในวงกว้าง และในเนื้อหาบางมาตราก็ยังมีการใช้คำว่า ไปรษณีย์ และ โทรเลข ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับโลกไซเบอร์ และเป็นการสื่อสารยุคเก่าที่ไม่มีแล้ว จึงตั้งข้อสังเกตว่าเกิดจากความเร่งรีบในการแก้กฎหมายจนเกินไปหรือไม่?
ส่วนความคืบหน้าในการผลักดันกฎหมายฉบับนี้ก็ยังดำเนินต่อไปตามขั้นตอน(ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ก่อนบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมของ สนช.) แม้จะมีเสียงคัดค้านจากหลายๆ ฝ่าย ทั้งที่ปรึกษารองนายกออกมาพูด, สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ออกมาเรียกร้อง, หรือเครือข่ายพลเมืองเน็ตเข้าชื่อหยุดกฎหมาย ตอนนี้ก็ยังไม่มีผลอะไรครับ ซึ่งนายพรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีไอซีที ยืนยันว่า พ.ร.บ.ความมั่นคงไซเบอร์ที่สร้างหน่วยงานใหม่ มีอำนาจดักฟังและสั่งการเอกชนว่าจะเดินหน้าต่อ หากจะแก้ไขก็ยังทำได้ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา และในการพิจารณาของ สนช. ส่วนพลเอกสรรเสริญ แก้วกำเนิด ก็ยืนยันแบบเดียวกันว่าขณะนี้ร่างอยู่ในชั้นกฤษฎีกา และหากมีข้อทักท้วง ผู้คัดค้านสามารถเสนอเข้าไปยังชั้น สนช. ได้เลย [อ้างอิง 3]
เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนอันจะเป็นประโยชน์ในการติดตามข่าวสารและการพิจารณาชุดกฎหมายฉบับนี้ร่วมกัน เรามาทำความเข้าใจกระบวนการร่างพระราชบัญญัติกันก่อนนะครับ
ขั้นตอนการร่างพระราชบัญญัติ
สำหรับขั้นตอนการร่างพระราชบัญญัติตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ ระบุเอาไว้มีขั้นตอนดังต่อไปนี้ (ขออนุญาตยกข้อความมาทั้งหมด โดยไม่ตัดทอนหรือใส่เนื้อหาเพิ่มเติมนะครับ) [อ้างอิง 4]
[quote]
มาตรา ๑๔ พระมหากษัตริย์ทรงตราพระราชบัญญัติโดคําแนะนําและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ร่างพระราชบัญญัติจะเสนอได้ก็แต่โดยสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติร่วมกันจํานวนไม่น้อยกว่ายี่สิบห้าคน หรือคณะรัฐมนตรี หรือสภาปฏิรูปแห่งชาติตามมาตรา ๓๑ วรรคสอง แต่ร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวด้วยการเงินจะเสนอได้ก็แต่โดยคณะรัฐมนตรี
ร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวด้วยการเงินตามวรรคสอง หมายความถึงร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวกับการตั้งขึ้น ยกเลิก ลด เปลี่ยนแปลง แก้ไข ผ่อน หรือวางระเบียบการบังคับอันเกี่ยวกับภาษีหรืออากร การจัดสรร รับ รักษา หรือจ่ายเงินแผ่นดิน หรือการโอนงบประมาณรายจ่ายของแผ่นดิน การกู้เงิน การค้ำประกัน หรือการใช้เงินกู้ หรือการดําเนินการที่ผูกพันทรัพย์สินของรัฐ หรือเงินตรา
ในกรณีเป็นที่สงสัยว่าร่างพระราชบัญญัติที่เสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวด้วยการเงินหรือไม่ ให้ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นผู้วินิจฉัย
ร่างพระราชบัญญัติที่เสนอโดยสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือสภาปฏิรูปแห่งชาตินั้นคณะรัฐมนตรีอาจขอรับไปพิจารณาก่อนสภานิติบัญญัติแห่งชาติจะรับหลักการก็ได้
การตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญให้กระทําได้โดยวิธีการที่บัญญัติไว้ในมาตรานี้ แต่การเสนอร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ให้กระทําโดยคณะรัฐมนตรีหรือผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนั้น
มาตรา ๑๕ ร่างพระราชบัญญัติหรือร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่ได้รับความเห็นชอบของสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว ให้นายกรัฐมนตรีนําขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายภายในยี่สิบวันนับแต่วันที่ได้รับร่างพระราชบัญญัติหรือร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนั้นจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย และเมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับเป็นกฎหมายได้
ร่างพระราชบัญญัติหรือร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญใด พระมหากษัตริย์ไม่ทรงเห็นชอบด้วย และพระราชทานคืนมายังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือเมื่อพ้นเก้าสิบวันแล้วมิได้พระราชทานคืนมา สภานิติบัญญัติแห่งชาติจะต้องปรึกษาร่างพระราชบัญญัติหรือร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนั้นใหม่ ถ้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติยืนยันตามเดิมด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่แล้ว ให้นายกรัฐมนตรีนําร่างพระราชบัญญัติหรือร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนั้นขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายอีกครั้งหนึ่ง เมื่อพระมหากษัตริย์มิได้ทรงลงพระปรมาภิไธยพระราชทานคืนมาภายในสามสิบวัน ให้นายกรัฐมนตรีนําพระราชบัญญัติหรือพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนั้นประกาศในราชกิจจานุเบกษาใช้บังคับเป็นกฎหมายได้เสมือนหนึ่งว่าพระมหากษัตริย์ได้ทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว
[/quote]
สำหรับพระราชบัญญัติชุดกฎหมายดิจิทัลทั้ง 10 ฉบับนี้ เป็นพระราชบัญญัติที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรีทั้งหมด ซึ่งกระบวนการยกร่างพระราชบัญญัติชุดนี้ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาและให้ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ก่อนที่จะบรรจุเข้าในระเบียบวาระการประชุมของ สนช. ต่อไป
รายละเอียดของชุดกฎหมายดิจิทัล
สำหรับชุดกฎหมายดิจิทัลทั้ง 10 ฉบับ เราจะขอสรุปสาระสำคัญ พร้อมลิงค์ดาวน์โหลดฉบับเต็มไว้ให้เพื่อนๆ ได้ศึกษา ดังต่อไปนี้ [อ้างอิง 5]
1. ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ [Download]
สาระสำคัญ: กำหนดให้มีคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลด้านเศรษฐกิจเป็นรองประธานกรรมการ กำหนดให้มีคณะกรรมการเฉพาะด้าน 5 ด้าน คือ ด้าน Hard Infrastructure ด้าน Soft Infrastructure ด้าน Service Infrastructure ด้าน Digital Economy Promotion และด้าน Digital Society and Knowledge
2. ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม เพื่อกำหนดให้มีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม [Download]
สาระสำคัญ: กำหนดให้มีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเปลี่ยนชื่อมาจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อให้ครอบคลุมการทำงานในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ที่มีมิติของภารกิจและความรับผิดชอบเพิ่มเติมขึ้นจากเดิม แบ่งส่วนราชการระดับกรมในกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมออกเป็น 5 ส่วนราชการ ประกอบด้วย สำนักงานรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวง สำนักงานเศรษฐกิจดิจิทัล กรมอุตุนิยมวิทยา และสำนักงานสถิติแห่งชาติ โดยเฉพาะในส่วนของสำนักงานเศรษฐกิจดิจิทัล จะทำหน้าที่เป็นหน่วยงานเลขานุการของคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการเฉพาะด้านจำนวน 5 ด้าน
3. ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ [Download]
สาระสำคัญ: แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ จัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ เป็นหน่วยงานของรัฐมีฐานะเป็นนิติบุคคล ไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ (เป็นการโอนสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2545)
4. ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ [Download]
สาระสำคัญ: แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะการทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ หลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนพิเศษแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ การให้สำนักงานคณะกรรมการรักษาความมันคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติเป็นหน่วยงานกลาง ตลอดจนการให้สำนักงบประมาณ (สงป.) และกระทรวงการคลัง (กค.) สนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการ
5. ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ [Download]
สาระสำคัญ: กำหนดหลักเกณฑ์การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ การให้มีคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ การจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ เป็นหน่วยงานของรัฐมีฐานะเป็นนิติบุคคล ไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ (เป็นการโอนบรรดากิจการ อำนาจหน้าที่ ทุนและทรัพย์สิน ของสำนักความมั่นคงปลอดภัย สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ไปเป็นของสำนักงานตามพระราชบัญญัตินี้)
6. ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล [Download]
สาระสำคัญ: กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้หรือเปิดเผย และข้อปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งสามารถทำให้ระบุตัวบุคคลนั้นได้ สิทธิของเจ้าของข้อมูล หลักเกณฑ์การร้องเรียน และการให้มีคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
7. ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล [Download]
สาระสำคัญ: กำหนดให้มีคณะกรรมการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลแห่งชาติ และการจัดตั้งสำนักงานเศรษฐกิจดิจิทัลแห่งชาติ เป็นหน่วยงานของรัฐมีฐานะเป็นนิติบุคคล และไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ
8. ร่างพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม [Download]
สาระสำคัญ: จัดตั้งกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และให้มีคณะกรรมการกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
9. ร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม [Download]
สาระสำคัญ: ปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของ กสทช. ให้ยกเลิกคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์และคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม และแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่
10. ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) [Download]
สาระสำคัญ: แก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอกนิกส์ (องค์การมหาชน)
ความกังวลและเหตุผลในการร่างชุดกฎหมาย
สำหรับความกังวลที่มีต่อชุดกฎหมายดิจิทัลทั้ง 10 ฉบับนี้ ผมขออ้างอิงข้อสรุปการประชุมของสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ซึ่งได้ยื่นให้คณะรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีใจความว่า สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ในฐานะองค์กรของผู้ประกอบวิชาชีพการผลิตข่าวออนไลน์ ซึ่งจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากร่างกฎหมายดังกล่าว ได้ประชุมหารือกันเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว มีความเห็นเบื้องต้นเสนอไปยังนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้ [อ้างอิง 6]
[quote]
1.สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์สนับสนุนหลักการส่งเสริมการนำเทคโนโลยีสารสนเทศหรือ “ดิจิทัล” มาใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ แต่ไม่เห็นด้วยหากจะมีการผลักดันดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคมด้วยการเร่งรัดออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยปราศจากการมีส่วนร่วมของประชาชน และผู้มีส่วนได้เสียอย่างรอบด้าน
2.เนื้อหาของร่างกฎหมายหลายฉบับมีลักษณะเข้าข่ายการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของประชาชน ซึ่งจะมีผลในการจำกัดเสรีภาพในการแสดงความเห็นผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต อันเป็นการออกกฎหมายที่ไม่ส่งเสริมหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้ ยังมีเนื้อหาบางส่วนที่จำกัดการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนด้วย
3.พนักงานเจ้าหน้าที่ในร่างกฎหมายหลายฉบับถูกกำหนดให้มีอำนาจอย่างไร้ขอบเขตและปราศจากการกลั่นกรอง หรือมีการรับรองการใช้อำนาจเข้าตรวจค้นจับกุม ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิของเอกชน เช่น การให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นจับกุมโดยไม่ต้องมีคำสั่งศาล เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการขยายขอบเขตการให้อำนาจแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายอื่นๆ ที่ไม่เข้าใจเทคโนโลยีสารสนเทศ จึงง่ายต่อการใช้อำนาจไปในทางที่ผิดจนเป็นการรบกวนสิทธิของประชาชน
4.ลักษณะของเนื้อหาตามร่างกฎหมายบางฉบับ มีการหมกเม็ดให้อำนาจแก่หน่วยงานรัฐโดยปราศจากการตรวจสอบจากกฎหมาย หรือหน่วยงานใดๆ ซึ่งถือเป็นการผิดวิสัยของการร่างกฎหมายที่ไม่เป็นตามมาตรฐานของการบัญญัติกฎหมาย หรือเข้าข่ายการร่างกฎหมายตามอำเภอใจ ซึ่งหากไม่มีการพิจารณาโดยรอบคอบแล้ว กฎหมายที่ออกมาก็จะเป็นกฎหมายที่ขัดต่อหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี (Good Governance)
5.เนื้อหาของร่างกฎหมายหลายฉบับมีลักษณะของการ “ควบคุม” มากกว่า “ส่งเสริม” การพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมโดยดิจิทัล ตามเจตนารมณ์ที่รัฐบาลประกาศต่อสาธารณชน ซึ่งอาจจะมีผลให้ภาคธุรกิจต่างประเทศถอน หรือยกเลิกการลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทยทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
[/quote]
ด้วยเหตุผลข้างต้น สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ จึงขอเรียกร้องมายังนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ให้ชะลอการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวทั้ง 10 ฉบับ และเปิดการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างกว้างขวาง เพื่อให้การพิจารณาผลักดันนโยบายสำคัญของรัฐบาลเป็นไปด้วยความรอบคอบ และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง อันจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติในระยะยาวต่อไป
อย่างไรก็ตาม ก็มีคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในวันที่ 21 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา ถึงความจำเป็นทีต้องมีชุดกฎหมายดิจิทัล เป็นคำพูดง่ายๆ แต่ได้ใจความชัดเจนตามสไตล์ของท่านว่า
[quote]
ร่าง พ.ร.บ.ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ยังต้องผ่านการกลั่นกรองจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อย่างรอบคอบอีกชั้นหนึ่ง รัฐบาลไม่คิดล้วงตับหรือละเมิดสิทธิ์ประชาชน เป็นเรื่องของกฎหมาย
“ส่วนที่ดีไม่มีใครพูด อะไรที่ไม่ดีอย่างกรณีจะถูกปิดกั้น ไม่ได้ปิดกั้น เปิดดูในโทรศัพท์สิ มีไหม ที่เขียนอะไรไม่ดีที่มาจากต่างประเทศเรื่องสถาบัน แล้วมาด่าว่าทำไมผมไม่ดูแล แต่เวลาผมจะดูแล ก็ไม่ให้ดู ผมไม่ได้จะไปล้วงตับท่าน ไม่ได้ไปดูส่วนตัวท่าน”
[/quote]
สรุปว่าสำหรับประเด็นเรื่องการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลนั้นทุกฝ่ายเห็นความจำเป็นร่วมกัน แต่มีความเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องการอนุญาตให้หน่วยงานตามพระราชบัญญัติสามารถ ดักฟัง หรือเข้าถึงข้อมูลของประชาชนโดยไม่ต้องมีหมายศาล ที่ฝ่ายต่อต้านก็อ้างเรื่องการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและการให้อำนาจเจ้าหน้าที่มากเกินไป และขาดการตรวจสอบอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนรัฐบาลก็อ้างเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการตรวจสอบผู้กระทำผิดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง งานนี้ผลสรุปจะลงเอยอย่างไร เรา … แม้ว่าจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ก็สมควรอย่างยิ่งที่ต้องติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดนะครับ
เพื่อนๆ มีความคิดเห็นกันอย่างไรกับร่างกฎหมายทั้ง 10 ฉบับนี้ ?
แหล่างข้อมูลอ้างอิง:
[อ้างอิง 1] http://www.biothai.net/news/25781
[อ้างอิง 2] https://thainetizen.org/2015/01/digital-economy-cyber-security-bills-comments/
[อ้างอิง 3] https://www.blognone.com/node/65104
[อ้างอิง 4] http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/A/055/1.PDF
[อ้างอิง 5] https://thainetizen.org/2015/01/new-thailand-digital-economy-organizations-structure-2015/
[อ้างอิง 6] http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000008587