Dragon Age: The Veilguard ผลงานล่าสุดจาก BioWare เตรียมปล่อยให้เล่นในวันที่ 31 ตุลาคม บน Xbox Series X/S, PS5 และ PC พร้อมกับเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสเปกเครื่องสำหรับเกมในเวอร์ชัน PC ซึ่งจากรายละเอียดพบว่าตัวเกมยังคงต้องการพื้นที่ว่างอย่างน้อย 100 GB และแนะนำให้ใช้ SSD จะดีที่สุด แต่ถ้าคุณต้องการเล่น Dragon Age: The Veilguard ในระดับ Ultra settings และเปิดใช้งาน Ray Tracing ล่ะจะต้องใช้สเปกโหดขนาดไหนเรามาดูกันเลย
จาก Blog Post ล่าสุด BioWare ทีมพัฒนาได้เปิดเผยว่าสำหรับการเล่นในความละเอียด 2160p/60 FPS บนการตั้งค่า Ultra Setting คุณจะต้องมี CPU ระดับ Intel Core i9-12900K หรือ AMD Ryzen 9 7950X, RAM 16 GB, และการ์ดจอ Nvidia GeForce RTX 4080 หรือ AMD Radeon RX 7900 XTX ที่มาพร้อม VRAM ขนาด 12 GB ในขณะที่การเปิดใช้งาน Ultra Ray Tracing บนความละเอียดเดียวกันจะยังคงได้ภาพคุณภาพสูง แต่เฟรมเรตจะลดลงเหลือ 30 FPS
สเปกขั้นต่ำ (1080p / 30 FPS, Low Setting)
- OS: Windows 10/11 64-bit (DX12)
- CPU: Intel Core i5-8400 / AMD Ryzen 3 3300X
- RAM: 16GB
- GPU: GTX 970 / GTX 1650 / R9 290X
- VRAM: 4GB
- Storage: พื้นที่ว่างอย่างน้อย 100GB (แนะนำให้ใช้ SSD)
สเปกขั้นแนะนำ (1080p / 60 FPS หรือ 1440p / 30 FPS, High Setting)
- OS: Windows 10/11 64-bit (DX12)
- CPU: Intel Core i9-9900K / AMD Ryzen 7 3700X
- RAM: 16GB
- GPU: RTX 2070 / RX 5700 XT
- VRAM: 8GB
- Storage: พื้นที่ว่างอย่างน้อย 100GB (แนะนำให้ใช้ SSD)
สเปกสำหรับปรับ Ultra (2160p / 60 FPS, Ultra Setting)
- OS: Windows 10/11 64-bit (DX12)
- CPU: Intel Core i9-12900K / AMD Ryzen 9 7950X
- RAM: 16GB
- GPU: RTX 4080 / RX 7900 XTX
- VRAM: 12GB
- Storage: พื้นที่ว่างอย่างน้อย 100GB (แนะนำให้ใช้ SSD)
อย่างไรก็ตามสเปกเครื่องสำหรับการเปิดใช้งาน Ray Tracing ไม่แตกต่างจากสเปกขั้นแนะนำมาก อย่างน้อยที่สุดคุณจะต้องใช้การ์ดจอ GeForce RTX 3080 หรือ Radeon RX 6800 XT ที่มี VRAM ขนาด 10 GB ขึ้นไปสำหรับการเล่น Dragon Age: The Veilguard แล้วเปิด Ray Tracing ไปด้วย อย่างไรก็ตามตัวเกมในเวอร์ชั่น PC จะรองรับ Uncapped Framerates (ไม่จำกัดเฟรมเรต),การแสดงผลแบบ 21:9 Ultrawide และอื่น ๆ อีกมากมาย