หลังจาก Huawei แบรนด์ฝั่งพี่จีนปล่อยแท็ปเล็ต Huawei MediaPad M5 และ M5 Pro ออกมาตีตลาดพร้อมตัวปากกา M-pen หลายคนยังไม่มั่นใจว่าถ้าเอามาใช้งานวาดรูป จะดีสูสีกับแบรนด์โอปป้าเกาหลีหรือไม่ เพราะตัว MediaPad เปิดราคาออกมาได้น่าสนใจมาก
มาดูกันว่า.. ถ้าคุณเป็นคนชอบวาดรูป หรือต้องการใช้งานด้านขีดๆ เขียน อยากได้แท็ปเล็ตสักเครื่อง Huawei MediaPad M5 Pro ดีมั้ย?? ซึ่งเจ้าตัว MediaPad M5 Pro ก็ออกมาได้สักระยะนึงแล้ว วางขายพร้อม MediaPad M5 ที่มีขนาดหน้าจอ 8.4 นิ้ว ส่วนตัว Pro ที่เราเอามารีวิวขนาดอยู่ที่ 10.8 นิ้ว ความละเอียด 2K ความจุ 64GB รองรับ MicroSD Card 256GB ตัวนี้ไม่มีรูหูฟังนะคะ เสียงสเตอริโอแบบ 3D ที่ปรับแต่งโดย Harman Kardon เสียงดี มิติมา กระหึ่มห้องเลยทีเดียว แบตเตอรี่ที่ให้มา 7500 mAh เรียกว่าชาร์จครั้งเดียวโดยใช้เวลา 2.9 ชั่วโมง ใช้งานได้ยาวๆ ทั้งวันเลยค่ะ
มาดูที่ตัวเครื่องกันบ้างค่ะ ต้องบอกว่าเป็นแท็ปเล็ตที่หน้าตาดีเลยทีเดียว ตัวเครื่องทำจากโลหะสีเงินชิ้นเดียว สกรีนโลโก้ Huawei ตรงกลาง ส่วนด้านบนและล่างเป็นลำโพง ที่มองผ่านๆ จะเหมือนเป็นลายเครื่องไปในตัวสวยดีค่ะ
มาทดสอบวาดกันดีกว่า ด้วยแอพฯ เดิมๆ ที่เราใช้ทดสอบกันประจำอย่า Autodesk Sketchbook ก่อนจะวาดเนี่ยเรามาพูดถึงตัว M-Pen กันก่อนนะคะ
ขนาดของตัวปากกาที่ทำมาขนาดเท่าปากกาจริงและทรงมันก็ใช่เลย ตัวปากการองรับแรงกด 4,096 ระดับ นั่นทำให้ตัวปากกา M-Pen จับรายละเอียดของน้ำหนักได้อย่างแม่นยำ ซึ่งสำคัญมากในการใช้งานวาดรูปและการขีดๆ เขียนๆ ค่ะ มีช่องเสียบสายชาร์จ USB – C ตัว ชาร์จแค่แป๊ปเดียวไม่กี่นาทีใช้งานได้ยาวๆ ทั้งวัน มีคลิปเหน็บกระเป๋าเสื้อหรือเหน็บกับตัวเคสได้ ชอบการดีไซน์ของตัว M-Pen ตรงที่เวลาหมุนตูดปากกาเพื่อชาร์จ ชาร์จเสร็จหมุนกลับตัวคลิปก็จะบังช่องชาร์จพอดี บนตัวปากกาจะมีมุ่มมาให้ 2 ปุ่ม ซึ่งเวลาเราวาดหัวปากกาคว่ำลงตำแหน่งปุ่มบนกดค้างจะเป็นยางลบ ส่วนปุ่มล่างจะเป็นการเปลี่ยนสี หรือตั้งค่าเป็นอย่างอื่นได้ โดยการเข้าไปตั้งค่าตัวปากกา ซึ่งใช้จริงเราก็แทบไม่ได้สนใจมันเลยค่ะ
ตัวหัวปากกาเป็นพลาสติกไม่แน่ใจว่าจะหุ้มส่วนปลายด้วยยางหรือเปล่า ลองสัมผัสแล้วมันไม่แข็งมากซึ่งเป็นเรื่องดีค่ะ เพราะเวลาเราใช้วาดรูปหรือจดงาน การที่ปลายปากกาแข็งๆ กระทบกับหน้าจอ มันจะให้ความรู้สึกที่ลื่นเกินไป และทำให้หน้าจอเราเป็นรอยง่ายอีกด้วย
ทีนี้เรามาลองเทียบตัวปากกาสไตลัสเฮียกับแบรนด์โอปป้า เอาแบบเป็นกลางสุดๆ จะเห็นได้ว่าของโอปป้าหัวจะเรียวเล็กกว่า และที่สำคัญปลายหัวเป็นยางด้วยค่ะ ความน่าใช้ตัวปากกาต้องยกให้ทางฝั่งแบรนด์ของโอปป้าน่าใช้กว่าของเฮีย ที่สำคัญไม่ต้องชาร์จแบตด้วยค่ะ
มาเทียบตัวปากกาของฝั่งตัวเองกันบ้าง กับตัวปากกาของ Huawei Mate 20X กับ Huawei MediaPad M5 Pro บอกไว้ตรงนี้นะคะว่า 2 ตัวนี้ใช้ M-Pen ของใครของมัน เอามาใช้ด้วยกันไม่ได้ค่ะ ซึ่งถ้าอยากได้ตัวแท็ปเล็ตแต่จะไปซื้อ M-Pen ของ Mate 20X มาใช้แทน เพราะเห็นว่าขนาดมันเล็กกว่าอันนี้ห้ามเลยนะคะ เสียเงินฟรีแน่ๆ ตัว M-Pen ของ Mediapad น่าใช้กว่าของ Mate 20X อันนี้ฟันธงค่ะ
ขวาเป็น M-Pen ของ MediaPad M5 Pro
การแบ่ง 2 หน้าจอในการวาด อันนี้ขอหักคะแนนค่ะ การแบ่งหน้าจอของตัว MediaPad M5 Pro แต่ได้ 2 ระดับเท่านั้น เลื่อนขึ้นลงปรับกว่านี้นางงอแงค่ะ ไม่ดีดกลับก็ปิดอีกหน้าจอไปเลย ซึ่งทางแบรนด์คู่แข่งทำได้ดีกว่าสมูทกว่า แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่อะไรในการใช้งาน 2 หน้าจอ
การแบ่งหน้าจอในแนวตั้ง โดยปกติเวลาเราใช้งานแท็ปเล็ตในแนวตั้งก็จะหันหัวให้ปุ่มโฮมมันอยู่ด้านล่าง ซึ่งคนถนัดขวาที่มีอยู่มากมายบนโลกใบนี้ ก็จะรู้สึกรำคาญตรงที่เวลาพอวาดๆ ไป มืออวบๆ เราจะไปบังโดนเซ็นเซอร์ทำให้หน้าจอค่อยๆ มืดลง
อันนี้น่าจะเป็นเพราะ Huawei MediaPad M5 Pro มีโหมด Eye Comfort ที่ช่วยลดแสงสีน้ำเงินและสภาพแสงบนจอแบบอัตโนมัติ การที่มือเราไปบังเซ็นเซอร์อาจจะคิดว่าเรากำลังอยู่ในห้องมืดก็ได้ เลยทำการเบาแสงลง ตรงนี้เวลาใช้งานแนวตั้งต้องระวังนิดนึงค่ะ
การให้งานด้านวาดรูปผ่านฉลุยมั้ย หลายๆ คนมองว่าเทคโนโลยีของเจ้าตัว Mediapad ยังดูจะเป็นรองแบรนด์ออปป้าคู่แข่ง แบบนี้จะเอามาใช้งานวาดรูปหนักๆ ลงรายละเอียดเยอะๆ จะงอแงคามือมั้ย ขอบอกว่าไม่มีปัญหาค่ะ ทดสอบลงรายละเอียดลงเทคเจอร์หนักๆ หลายๆ เลเยอร์กันไปเลย
การตอบสนองของตัว M-Pen กับตัวเครื่องทำได้ดี โฟกัสได้ตรงจุด การปรับขนาดเส้นและการลงน้ำหนัก หนัก-เบา ให้ผ่านเลยค่ะ
ความคุ้มค่าด้านราคา เปิดตัวราคาของ Huawei MediaPad M5 Pro ราคาอยู่ที่ 18,990 บาท แถมตัวปากกา M-Pen ให้ด้วย ถือว่าราคาถ้าเทียบกับคู่แข่งแล้วถือว่าถูกกว่ามากค่ะ
