กรมอนามัย ยูนิเซฟ และดีแทค ร่วมผลักดัน SMS *1515 ส่งเสริมสุขภาพและพัฒนาการเด็ก
กรมอนามัย ยูนิเซฟ และดีแทคร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการ “*1515 SMS ครอบครัวผูกพัน” เป็นระยะเวลา 2 ปี เพื่อส่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการดูแลเด็กให้แก่พ่อแม่ผู้ปกครอง
การลงนามดังกล่าวจัดขึ้นภายในงานสัมมนาวิชาการอนามัยแม่และเด็ก ในวันที่ 25-27 กุมภาพันธ์ 2557 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น ทั้งสามองค์กรได้เปิดตัวโครงการ SMS *1515 ซึ่งเป็นบริการส่งข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนถึงอายุ 2 ปี ให้พ่อแม่ผู้ปกครองผ่านข้อความ SMS ทุกวันโดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยข้อมูลเหล่านี้ ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอนามัยแม่และเด็กได้คัดเลือกให้เหมาะสมกับการพัฒนาในแต่ละช่วงอายุ และครอบคลุมหัวข้อที่หลากหลาย เช่น สุขภาพเด็ก โภชนาการ อาการเจ็บป่วยที่พบบ่อย การป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก และการส่งเสริมพัฒนาเด็กตั้งแต่ 0-2 ปี
นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ปัจจุบัน พัฒนาการและการเจริญเติบโตที่ล่าช้าของเด็กปฐมวัยยังเป็นปัญหาที่สำคัญในประเทศไทย โดยกรมอนามัยได้สำรวจพัฒนาการเด็กปฐมวัย (อายุ 0-5 ปี) เมื่อปี 2553 พบว่า เด็กปฐมวัยมีพัฒนาการสงสัยล่าช้าถึงร้อยละ 30 สูงกว่าค่าเฉลี่ยขององค์การอนามัยโลกซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 15-20 นอกจากนี้ ยังพบว่าเด็กปฐมวัยมีพัฒนาการล่าช้าในด้านภาษาและด้านกล้ามเนื้อมัดเล็กร้อยละ 19 และร้อยละ 8 ตามลำดับ ซึ่งพัฒนาการทั้งสองด้านถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาสติปัญญาของเด็ก
“น่าชื่นชมที่กรมอนามัย ดีแทค และยูนิเซฟ ได้ร่วมดำเนินงานโครงการ SMS ครอบครัวผูกพัน ซึ่งเป็นโครงการที่สามารถช่วยสนับสนุนการทำงานของภาครัฐในการพัฒนาสุขภาพแม่และเด็กได้เป็นอย่างดี และสามารถบูรณาการไปกับโครงการฝากท้องทุกที่ ฟรีทุกสิทธิ์ โดยการสื่อสารให้หญิงตั้งครรภ์มาฝากครรภ์เร็ว ได้รับความรู้เพื่อการดูแลสุขภาพของตนเองและบุตร ดังนั้นการมีช่องทางสื่อสารโดยตรงกับกลุ่มเป้าหมายจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง และเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเด็กในประเทศไทย” นายแพทย์พรเทพกล่าว
ปัจจุบันกรมอนามัยได้ออกนโยบายและโครงการต่างๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเด็กและสตรี และส่งเสริมการเข้าถึงบริการอย่างเท่าเทียม ตัวอย่างเช่น นโยบายฝากท้องทุกที่ ฟรีทุกสิทธิ์ การสร้างพ่อแม่คุณภาพผ่านโรงเรียนพ่อแม่ การใช้กระบวนการกิน กอด เล่น เล่า ให้เด็กได้กินนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดและได้กินอาหารตามวัย ซึ่งนโยบายเหล่านี้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษของสหประชาชาติ
นายพิชัย ราชภัณฑารี ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “การทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ เอกชน และองค์กรนานาชาติจะสามารถดึงความเชี่ยวชาญของแต่ละหน่วยงานมาเพื่อสร้างการบริการที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเด็กที่ประเทศไทยยังเผชิญอยู่ได้”
นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “ดีแทคมีความยินดีที่ได้นำเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญทางธุรกิจของดีแทคเข้ามาใช้ในการให้บริการด้านสุขภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์ด้านพัฒนาการของเด็ก เพราะโทรศัพท์มือถือเป็นช่องทางที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีและทั่วถึงที่สุด”
ดีแทคและเทเลนอร์ ได้ร่วมกันให้การสนับสนุนยูนิเซฟทั้งด้านการเงิน และโซลูชั่นด้านเทคโนโลยีเพื่อยกระดับการอยู่รอด และการพัฒนาเด็กอย่างรอบด้าน โดยในปี 2556 ได้มอบเงินจำนวน 1.3 ล้านบาทเพื่อสนับสนุนการทำวิจัยเรื่องการจดทะเบียนเกิด นอกจากนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เทเลนอร์กรุ๊ป และยูนิเซฟ ยังได้มีการลงนามเป็นพันธมิตรระดับโลกเพื่อส่งเสริมและสร้างความตระหนักในเรื่องสิทธิเด็ก เป็นจำนวนเงินประมาณ 18.56 ล้านบาท (580,000 ดอลล่าร์สหรัฐ) ตลอดระยะเวลาห้าปีต่อจากนี้
“หลังจากนี้ ดีแทคจะร่วมกับกรมอนามัย และยูนิเซฟ ในการประชาสัมพันธ์ *1515 SMS ครอบครัวผูกพัน เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนมาสมัครรับบริการผ่านการประชุม การอบรม และกิจกรรมอื่นๆ ที่จะจัดขึ้นโดยกรมอนามัย และภาคีอื่นๆ ในอนาคต” นายจอนกล่าวเพิ่มเติม
หญิงตั้งครรรภ์และพ่อแม่ผู้ปกครองสามารถสมัครใช้บริการนี้ได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการรับข้อความสำหรับทุกเครือข่ายตลอดโครงการ ผู้ใช้เครือข่ายดีแทคกด *1515 แล้วโทรออก ส่วนผู้ที่ใช้เครือข่ายอื่น โทร. 02-202-8900 (มีค่าใช้จ่ายตามโปรโมชั่นเฉพาะตอนสมัคร)
ในภาพ จากซ้าย นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด หรือดีแทค นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย และนายพิชัย ราชภัณฑารี ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ร่วมลงนามในบันทีกข้อตกลงความร่วมมือโครงการ *1515 SMS ครอบครัวผูกพัน