เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา Elon Musk ผู้นำด้านเทคโนโลยีและผู้ก่อตั้ง xAI ได้ยื่นข้อเสนอร่วมกับกลุ่มนักลงทุนเพื่อซื้อกิจการของ OpenAI ด้วยมูลค่าสูงถึง 97.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 3,321,340,000,000 บาท (สามล้านล้านบาท)
แม้จะดูเป็นตัวเลขที่มาก แต่ทว่ามูลค่าของการระดมทุนรอบล่าสุดของ OpenAI ระบุว่ามูลค่าของบริษัทอยู่ที่ 157 พันล้านดอลลาร์ แต่ Musk คิดว่าเกือบ 100 พันล้านดอลลาร์น่าจะเพียงพอ แต่ Sam Altman ไม่เห็นด้วย
กลุ่มนักลงทุนที่สนับสนุนข้อเสนอนี้ประกอบด้วยบริษัท xAI ของ Musk เอง รวมถึงบริษัทการลงทุนชั้นนำอื่น ๆ เช่น Valor Equity Partners, Baron Capital, Atreides Management, Vy Capital และ 8VC ซึ่งนำโดย Joe Lonsdale ผู้ร่วมก่อตั้ง Palantir
อย่างไรก็ตาม, Sam Altman ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ OpenAI ได้ปฏิเสธข้อเสนอนี้อย่างรวดเร็ว โดยตอบกลับผ่านแพลตฟอร์ม X (เดิมคือ Twitter) ว่า “ไม่ล่ะ ขอบคุณ แต่เราจะซื้อ Twitter ในราคา 9.74 พันล้านดอลลาร์ถ้าคุณต้องการ” ซึ่งเป็นการเสียดสีถึงการซื้อกิจการ Twitter ของ Musk ในปี 2022
ความขัดแย้งระหว่าง Musk และ Altman ย้อนกลับไปถึงปี 2015 เมื่อทั้งสองร่วมก่อตั้ง OpenAI ในฐานะองค์กรไม่แสวงหากำไร แต่ Musk ได้แยกทางกับบริษัทก่อนที่ OpenAI จะเติบโตขึ้น ในปี 2023, Musk ได้ก่อตั้ง xAI เพื่อแข่งขันในด้านปัญญาประดิษฐ์ นอกจากนี้, Musk ยังได้ยื่นฟ้องร้องต่อ OpenAI และ Altman โดยอ้างว่าบริษัทได้เบี่ยงเบนจากภารกิจดั้งเดิมและมุ่งเน้นไปที่การแสวงหากำไร
การเสนอซื้อกิจการครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ OpenAI กำลังพยายามเปลี่ยนแปลงโครงสร้างจากองค์กรไม่แสวงหากำไรไปสู่บริษัทที่มุ่งเน้นการแสวงหากำไร เพื่อดึงดูดเงินทุนสำหรับการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ การเคลื่อนไหวของ Musk อาจส่งผลกระทบต่อแผนการระดมทุนของ OpenAI และเพิ่มความซับซ้อนในกระบวนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของบริษัท
นอกจากนี้, Musk ยังมีบทบาทสำคัญในรัฐบาลของประธานาธิบดี Donald Trump โดยเป็นผู้นำในการลดขนาดระบบราชการของรัฐบาลกลาง ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่าง Musk และ Trump ได้รับความสนใจจากสื่อและสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง
การเสนอซื้อกิจการของ Musk ในครั้งนี้เป็นการเพิ่มความตึงเครียดในวงการปัญญาประดิษฐ์ และเป็นที่น่าจับตามองว่าความขัดแย้งระหว่างสองผู้นำด้านเทคโนโลยีนี้จะพัฒนาไปในทิศทางใดในอนาคต
แหล่งที่มา: Reuters