เพิ่งจะเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้เองที่ทางไมโครซอฟท์ประกาศอย่างเป็นทางการว่าซีอีโอคนล่าสุดอย่างนาย Steve Ballmer จะก้าวออกจากบริษัท (ไม่ใช่ตำแหน่งนะ แต่เป็นออกจากบริษัทเลย) ภายในอีกสิบสองเดือนข้างหน้านี้ หลังจากนั้นพวกสื่อน้อยใหญ่ต่างก็พากันมุ่งเจาะข่าวว่าใครกันที่จะก้าวขึ้นมาเป็นซีอีโอคนต่อไปต่อจากนาย Ballmer และล่าสุดนี้สำนักข่าว The Sunday Times ของกรุงลอนดอนได้รายงานว่า Stephen Elop ซีอีโอคนปัจจุบันของ #hashtag Nokia ที่เคยทำงานเป็นพนักงานระดับสูงให้กับ Ballmer มาก่อนและเป็นคนที่ Nokia เคยหมายหัวไว้ว่าเป็นภัยคุกครามของค่ายมือถือแดนฟินแลนด์อย่าง Nokia มาก่อนหน้านี้คือตัวเต็งในตำแหน่งซีอีโอหลักที่จะมาแทนที่นาย Steve Ballmer นั่นเอง
บางคนอาจเห็นว่า Elop นั้นเปลี่ยมไปด้วยความสามารถจนท้ายที่สุดแล้วสามารถพลิกบริษัทที่กำลังเดินไปผิดทิศทางให้กลับมาเข้ารูปเข้ารอยได้จนสำเร็จ แต่ถึงกระนั้นเส้นทางของ Elop ก็ไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลายขนาดนั้น เพราะเหล่าอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงและผู้สนับสนุน Nokia มากมายต่างก็เคยพยายามขับไล่เขาออกไปให้พ้นจาก Nokia เหตุเพราะวีรกรรมปาถกฐาของเขาเองที่เคยออกมาเรียกร้องให้ Nokia ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและรูปแบบของบริษัทแบบสุดโต่งกระโทงบานหากยังหวังจะอยู่รอดในวงการโทรศัพท์มือถือต่อไป
นอกจากนี้สำนักข่าว The Sunday Times ยังระบุชื่อของ Tony Bates ผู้ซึ่งนั่งแท่นเป็นผู้จัดการบริษัทเจ้าของโปรแกรม Skype และ Paul Maritz อดีตซีอีโอของ VMware ซึ่งก่อนหน้านี้เคยอยู่ในอ้อมอกของไมโครซอฟท์มาก่อน ไว้ในฐานะผู้ได้รับการเสนอชื่อด้วย แต่อีกหนึ่งชื่อที่ตกอยู่ในข่าวลือตอนนี้และเรามองว่าน่าสนใจมากๆ คือชื่อของ Bill Gates เองที่ก็ดันมีการลือกันออกมาก่อนหน้านี้ว่ามีโอกาสเป็นไปได้ที่จะมานั่งแท่นแทน Ballmer แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น The Sunday Times ไม่ได้สนับสนุนข่าวลือนี้แต่อย่างใด แต่ก็นะ ฟังดูโอกาสเป็นไปได้มันก็ต่ำอยู่แล้วนี่นา
ไม่ว่าใครที่จะได้ขึ้นมานั่งแท่นเสาร์หลักไมโครซอฟท์แทน Ballmer ก็ตาม แต่รับรองได้เลยว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นประเด็นใหญ่ประจำปี พ.ศ. 2557 หรือปีหน้านี้อย่างแน่นอน แต่กว่าจะถึงตอนนั้นก็ยังอีกนานแสนนาน ดังนั้นเรามาเดากันเล่นๆ ดีกว่าครับว่าใครกับที่คุณคิดว่ามีโอกาสที่จะได้ขึ้นมาแทน Ballmer กันแน่ จะเป็น Elop หรือ Bates หรือ Paul หรือแม้แต่กระทั่ง Gates เองดี หรือจะเป็นผู้นำในท้องถิ่นเรากันแน่ มาคุยกันเล่นๆ โดยการทิ้งข้อความไว้ที่กล่องคอมเมนต์ด้านล่างข่าวนี้กันดีกว่าครับ ^^
ที่มา – The Sunday Times