Androidauthority ได้รายงานสรุปยอดจำหน่ายและส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนในยุโรปตลอดปี 2020 ออกมาครับ เป็นสถิติจาก Counterpoint บอกเราถึงการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะความยากลำบากของ Huawei และแบรนด์ที่เข้ามากอบโกยส่วนแบ่งตลาดที่หายไป เป็นใครกันบ้าง?
ต้องบอกว่าปีที่ผ่านมา ธุรกิจด้านสมาร์ทโฟนได้ชะลอตัวลงจากการระบาดของไวรัสอย่างเห็นได้ชัดครับ แต่ยังดีที่มีกระแสของการเปลี่ยนแปลงของยุค 5G มาให้เราได้รู้สึกตื่นเต้น ตัวเลขในตลาดจึงยังคงแค่ทรงตัวไม่ถึงกับทรุด และหลายแบรนด์ยังคงเติบโตขึ้นได้อย่างต่อเนื่องสวยกระแสตลาด ในขณะที่หลายแบรนด์ทำได้แค่ทรงตัว และบางแบรนด์ก็อาจจะซบเซาลงไปด้วยปัญหาภาวะต่างๆ ที่พบเจอ
เรามาดูรายงานยอดขายรวมและส่วนแบ่งตลาดของทวีปยุโรปและมาวิเคราะห์กันครับ ในทวีปยุโรปมีตัวเลขตามรายงานของ Counterpoint ดูจะเป็นตัวเลขที่ถูกใจแฟนๆ ผู้ชื่นชอบ Xiaomi และ Oppo เป็นพิเศษ รวมถึงผู้ที่เอาใจช่วยหน้าใหม่ไฟแรงอย่าง realme แบรนด์เหล่านี้ดูจะได้ประโยชน์เต็มๆ จากการชะลอตัวของ Samsung และการต่อสู้ที่ยากลำบากของ Huawei ในปีที่ผ่านมา
เรามาดูกันทีละแบรนด์กันในชาร์ตครับ Samsung เจ้านี้ยอดจัดส่งโดยรวมลดลงแต่ส่วนแบ่งตลาดกลับเติบโต ที่สวนทางกันนั้นเพราะจำนวนสมาร์ทโฟนที่ขายในตลาดยุโรปในปีที่ผ่านมา รวมทั้งหมดทุกยี่ห้อมีจำนวนขายที่ลดลงมากกว่าเกือบ 30 ล้านเครื่องนั้นเองครับ (ปี 2019 ขายได้รวม 216.1 ล้านเครื่อง ในปี 2020 ขายได้รวม 185.9 ล้านเครื่อง) ทำให้ตัวเลขของ Samsung แม้จะมีจำนวนเครื่องที่ขายได้น้อยลงถึง -12% ในยุโรป แต่เมื่อคิดเป็นสัดส่วนในตลาดแล้ว ผู้คนก็ยังคงเลือกซื้อสมาร์ทโฟน Samsung ในอัตราส่วนที่สูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งเช่นเดิม และยังมากขึ้นเล็กน้อยจาก 31% เป็น 32% ในปีที่ผ่านมา
ส่วน Apple ทรงๆ ครับ แทบจะเท่าเดิมเหมือนหยุดการเคลื่อนไหวได้ ไม่เพิ่มไม่ลด ด้วยไตรมาสสุดท้ายของปี 2020 จากประสิทธิภาพของยอดขาย iPhone 12 ทำให้ตัวเลขการเติบโตต่อปีของเขาลดลงเพียง 1% เท่านั้น แต่เมื่อตลาดโดยรวมหดตัว การทรงยอดขายให้อยู่ที่จำนวนเท่าเดิมได้ในขณะที่คนอื่นขายได้น้อยลง ก็ถือว่าเขาได้ส่วนแบ่งตลาดไปมากกว่าเดิมนั้นเองครับ จาก 19% เป็น 22% ในปีที่ผ่านมา อาจจะเรียกได้ว่ากลุ่มลูกค้าเดิมยังคงเข็มแข็ง
Samsung และ Apple สองแบรนด์นี้กินส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนในยุโรปไปมากกว่าครึ่ง รวมแล้วสูง 54% แต่ยังไงก็ต้องถือว่าทั้งคู่พลาดไปเช่นกัน Samsung และ Apple ถือว่าล้มเหลวในการใช้ประโยชน์จากภาวะถดถอยของ Huawei เต็มๆ เลยครับ เพราะในขณะที่ Huawei ทำยอดขายตัวเองหายไปถึง 43% จาก 40.4 ล้านเครื่องในปี 2019 เหลือเพียง 22.9 ล้านเครื่องในปีที่ผ่านมา ซึ่งยอดขายที่หายไปแทบจะพบได้ว่า มันไปอยู่กับบริษัทอย่าง Xiaomi แทบจะทั้งหมดครับ
Xiaomi ขึ้นมาเป็นแบรนด์อันดับสามของยุโรป ด้วยการเติบโตสูงถึง 90% เมื่อเทียบปีต่อปี จากยอดขายปี 2019 จำหน่ายอุปกรณ์ออกไปได้รวม 14 ล้านเครื่อง พุ่งมาเกือบเท่าตัวเป็น 26.7 ล้านเครื่อง มาแรงมากโดยเฉพาะที่สเปนและอิตาลี Xiaomi เข้ามาเป็นผู้เล่นหลักคนที่สามที่กินส่วนแบ่งตลาดในยุโรปไปได้ 14% แซงหน้า Huawei ที่ส่วนแบ่งตลาดตกลงมาที่ 4 เหลือเพียง 12%
อีกแบรนด์ที่ทำได้ดีไม่แพ้กันในเรื่องของตัวเลขการเติบโต นั้นคือ OPPO ครับ เติบโตได้ 82% เลยทีเดียว แต่ตัวเลขเดิมของ OPPO ไม่ได้สูงมากนักในยุโรปก่อนหน้านี้ครับ ยอดจำหน่ายในปี 2019 อยู่ที่ 3.6 ล้านเครื่อง ก็เพิ่มมาเป็น 6.5 ล้านเครื่องในปีที่ผ่านมา
ก็พอจะบอกได้จากตัวเลขว่า Xiaomi และ Oppo เป็นสองแบรนด์ที่เข้ามาเอาตัวเลขยอดขายจาก Huawei ไปเป็นของตัวเองแทบทั้งหมด
ส่วนอันดับ 6 เป็นของ OnePlus ตัวเลขไม่หวือหวาแต่มาในเชิงบวก คงรักษายอดจำหน่ายเทียบปีต่อปีได้เพิ่มขึ้นในสภาวะตลาดถดถอยได้ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว แม้จะบวกขึ้นมาไม่นักก็ตามครับ ส่วนอันดับ 7 เป็นแบรนด์น้องใหม่ไฟแรง จะแรงไปไหนด้วยยอดการเติบโตปีต่อปีที่สูงถึง 1083% ขายได้มากขึ้นเป็นสิบเท่า! เพราะปีก่อน realme เพิ่งจะเข้ามาสู่ตลาดยุโรปเป็นปีแรกเท่านั้นครับ
ก็ต้องยกผู้ชนะที่แท้จริงในปี 2020 ให้กับ Xiaomi แหละครับ เป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับสามของภูมิภาคนี้อย่างเต็มภาคภูมิ ด้วยการใช้ประโยชน์จากการถดถอยของ Huawei
แล้วปี 2021 ล่ะ?
realme มีโอกาสที่ดีในการสร้างส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้นอีกในครึ่งปีแรกนี้ เพราะบริษัทกำลังจะเปิดตัวสมาร์ทโฟน Snapdragon 888 ในรุ่น realme GT ซึ่งเป็นเครื่องที่น่าสนใจ สเปคดีและราคาน่าจะดีมากๆ และเป็นแบรนด์ที่มีสินค้าครบในทุกตลาดราคาพร้อมยังมีคุณภาพไม่แพ้แบรนด์ใดในตลาดอีกด้วย ที่ต้องเหนื่อยหน่อยก็น่าจะ OnePlus ที่ต้องพยายามถีบตัวเองรักษาอันดับด้วยซีรีส์ OnePlus 9 ที่กำลังจะเปิดตัวด้วยเช่นกัน
แนวโน้มของ Samsung ก็ดูสดใสขึ้นในปีนี้ สมาร์ทโฟนตัวท็อปยังคงน่าสนใจที่สุดในตลาด Android ตัวสเปคระดับกลางมีความน่าสนใจมากขึ้น ส่วน Apple มีแนวโน้มว่าจะต้องรอกระแสเปิดตัว iPhone 12 รุ่นต่อยอดในปลายปีนี้เท่านั้น
สำหรับ Huawei นั้นยังไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในช่วงเวลาอันใกล้นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคู่แข่งยังคงทำได้ดีและมีตัวเลือกอีกมากมายในทุกช่วงราคา แค่ต้องรักษาตลาดตัวเอง และรอการเปลี่ยนแปลงที่มีแรงกระชากที่มากพอจะให้คนหันมาสนใจ