การรับชมวิดีโอบน Facebook นั้นต้องบอกเลยว่าเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก การโพสต์วิดีโอต่างๆลงบน Facebook จึงไม่ต่างอะไรกับการปล่อยจรวดติดไอพ่น เพราะเพียงปล่อยคลิปลงไปได้ไม่นานเท่าไรนักก็มียอดวิวจำนวนมากได้แล้ว ถึงแม้ว่ามันจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่มันก็มีด้านมืดแอปแฝงอยู่ในนั้นด้วยโดยที่ผู้ใช้หลายๆคนไม่ได้ตระหนักถึง ซึ่งนั่นก็คือเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์นั่นเอง
อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าผู้ใช้ Facebook นั้นมีอยู่มากมายไม่่ว่าคุณจะเป็นใครหรือประกอบอาชีพอะไรล้วนแล้วแต่มี Facebook ส่วนตัวทั้งนั้น ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงเหล่าดารา เซเล็บด้วยเช่นกัน แต่ถึงแม้ว่าตัวเองจะเป็นดาราซึ่งน่าจะเข้าใจในเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์ดีอยู่แล้ว แต่ก็ยังคงมีการละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นให้เห็น เพราะดาราชื่อดังบางคนไม่ได้ตระหนักถุงจุดนี้ จึงมีการโพสต์คลิปวิดีโอที่ตัวเองนั้นไม่ได้ถือสิทธิ์ความเป็นเจ้าของอยู่ให้เห็นผ่าน Facebook อยู่บ่อยๆ ถึงแม้ว่าวันหนึ่งผู้ที่ถือสิทธิ์ความเป็นเจ้าของจะตรวจพบและแจ้งละเมิดผ่านไปทาง Facebook คลิปวิดีโอเหล่านั้นก็จะถูกลบออกจริง แต่มันก็สามารถกลับมาใหม่ได้อย่างรวดเร็ว บางครั้งใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็เรียกยอดวิวได้เป็น 10 ล้านวิวเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่ายอดวิวเหล่านั้นก็สามารถทำเงินให้กับผู้โพสได้ และแน่นอนว่าการกระทำแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากการขโมยเงินของผู้ที่ถือลิขสิทธิ์โดยตรง
Viral Video นั้นเป็นธุรกิจที่มีขนาดใหญ่มากๆ
ล่าสุดที่นาย Mark Zuckerberg ได้ออกมาเปิดเผยปริมาณตัวเลขที่มีการรับชมวิดีโอบน Facebook ต่อวัน ผลปรากฏว่ามีผู้รับชมวิดีโอผ่านบน Facebook นั้นสูงถึง 4,000 ล้านวิวต่อวันเลยทีเดียวครับ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกันยายน 2014 ที่ผ่านมานั้นมียอดวิวอยู่ที่ 1,000 ล้านวิวต่อวันเท่านั้น นั่นแสดงให้เห็นว่าการรับชมวิดีโอบน Facebook นั้นเติบโตขึ้นอย่างมาก
แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆแล้ววิดีโอบนโลกออนไลน์สมัยนี้สามารถทำเงินได้มากมายมหาศาล อย่าง Zoella ผู้โด่งดังบน Youtube โดยมีผู้ติดตามกว่า 8 ล้านคนสามารถทำเงินจากคลิปวิดีโอของเธอจนสามารถซื้อแมนชั่นได้เลยล่ะครับ และถึงแม้จะเป็นเพียง Video Blogger ที่ไม่ได่งดังมากนักยังสามารถที่จะทำเงินจนเป็นรายได้แทนงานประจำได้ ลองคิดดูนะครับว่าสามารถทำเงินได้มากขนาดไหน
ในขณะที่บางครั้งดาราจำเป็นสำหรับ Viral Video ก็สามารถทำรายได้ถึง 250,000$ ได้จากคลิปวิดีโอเช่นกัน อย่างคลิปล่าสุดที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังจะถ่ายเซลฟี่ใกล้กับทางรถไฟ แต่พอมีรถไฟแล่นผ่านมากลับมีเจ้าหน้าที่ยื่นเท้าออกมาเตะที่หัวของเค้านั่นเองครับ
การบริโภควิดีโอจำนวนมากนั้นทำให้ Facebook จำเป็นต้องปรับปรุงแพล็ตฟอร์มของเว็บไซต์เพื่อให้สามารถรองรับการทำงานร่วมกับเหล่าผู้สร้างและผู้เผยแพร่คลิปวิดีโอได้ดีขึ้น แต่ก็ยังไม่มีการแก้ปัญหาในเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างไร
เหล่าคนดังสามารถขโมยเนื้อหาแต่ไร้ซึ่งความผิด
Jay Lichtenberger นักสร้าง Viral Video แบบ Full Time โดยคลิปที่ทำให้เค้าเป็นที่รู้จักก็คือเจ้า Scary Snowman ที่สามารถขยับได้ที่ทำเอาใครต่อใครพากันตกใจนั่นเองครับ เค้าเคยให้สัมภาษณ์ไว้ในเรื่องเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์วิดีโอบน Facebook ว่า “มันไม่มีการควบคุม” ในช่วง 6 เดือนแรกที่คุณเริ่มโพสต์วิดีโอจะเป็นการแพร่กระจายโดยการบอกต่อ แต่ถ้าเกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญาขึ้น กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนกับว่าเป็นเรื่องปกติไปเลย
คลิปที่ทำให้นาย Jay Lichtenberger ได้รับความนิยม
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถระบุได้ว่ามีวิดีโอที่ละเมิดลิขสิทธิ์อยู่มากมายแค่ไหนบน Facebook แต่ที่รู้แน่ๆคือ “มันเยอะมาก” และการละเมิดลิขสิทธิ์นั้นส่วนใหญ่จะเริ่มมากจากผู้ใช้รายใหญ่ๆที่มีคนรู้จักเยอะอีกด้วย ในที่นี้น่าจะหมายถึงเหล่าเซเล็บนั่นเองครับ
โดยล่าสุดนาย Litchtenberger เองก็ถูกนำวิดีโอของเขาไปโพสต์โดยที่ไม่มีการขออนุญาติใดๆจากผู้เป็นเจ้าของ โดยการโพสต์ของเซเล็บคนนั้นได้โพสต์ลงไปต่อหน้าเหล่าๆแฟนๆผู้ติดตามกว่า 15 ล้านคน และแน่นอนว่าจะเกิดการแชร์ออกไปอีกนับไม่ถ้วนกันลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าผู้ที่นำเนื้อหาเหล่านี้ไปใช้นั้นก็นำไปใช้ในการหารายได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการโพสลิ้งค์อื่นๆ ที่ส่งตรงไปที่การซื้อสินค้าซึ่งก่อให้เกิดรายได้กับผู้ละเมิดลิขสิทธิ์นั่นเองครับ
Facebook สามารถที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้แต่กลับไม่ทำ
แน่นอนว่าทาง Facebook จะมีการรับแจ้งเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ Facebook ทำให้คือการลบเพียงสิ่งที่ถูกแจ้งเท่านั้น นั่นหมายความว่าหากมีการอัพคลิปวิดีโอคลิปนี้จากผู้ใช้คนอื่นก็ยังสามารถทำได้อยู่ แทนที่ทาง Facebook นั้นจะทำการแบนเนื้อหาของวิดีโอนั้นๆไปไม่ให้กลับมาใช้งานได้อีก แต่ Facebook กลับไม่ทำ ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้อัพโหลดวิดีโอรายเดิมที่คลิปละเมิดลิขสิทธิ์ถูกรายงานและถูกลบออกไปแล้ว แต่ก็ยังคงสามารถทการอัพโหลดขึ้นไปได้ใหม่เช่นกัน และแน่นอนว่าเพียงไม่กี่ชั่วโมงคลิปเหล่านั้นก็จะกลับมาแพร่กระจายใหม่ โดยเฉพาะการโพสวิดีโอนั้นๆลงไปในแฟนเพจหรือเซเล็บที่มีคนติดตามเยอะๆยิ่งเป็นการยากที่จะควบคุม
Facebook ไม่ได้ต้องการเปนทางผ่านเพื่อส่งผู้ใช้ไปยังภายนอก
จริงๆแล้วต้องบอกว่าทาง Facebook นั้นไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นเพียงทางผ่านในการส่งผู้ใช้ให้ออกไปนอกเว็บไซต์ของตัวเองอย่างเช่นการส่งผู้ใช้ไปยัง Youtube แต่ Facebook กลับมองว่าตัวเองนั้นควรจะเป็นแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดในการรับชมวิดีโอบนโลกออนไลน์นั่นเอง อย่างที่เห็นว่า Facebook มีการเพิ่มฟีเจอร์อย่างวิดีโอ Auto Play เพื่อให้เกิดยอดวิวมากขึ้น นอกจากนั้นยังมีการส่งเสริมฟีเจอร์อื่นๆอีกสำหรับวิดีโออย่างเช่นการแสดงยอดวิวให้เห็นนั่นเองครับ และดุเหมือว่าสิ่งที่ Facebook ต้องการมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ เหล่าผู้สร้างสรรค์ผลงานเพื่ออัพโหลดลงบน Facebook โดยตรงนั่นเองครับ
อย่างที่มีข่าวออกมาล่าสุดเช่่นกันว่าตอนนี้ทาง Facebook ได้เจรจากับเหล่าผู้เผยแพร่และสื่อต่างๆในอินเทอร์เน็ต โดยมีการชักจูงให้หันมาเผยแพร่ข้อมูลทั้งหมดของเนื้อหาลงบน Facebook แทน โดยที่ไม่ต้องลิ้งค์ออกไปภายนอกและแน่นอนว่า Facebook ถึงกับยอมรับรายได้ที่น้อยลงตรงจุดนี้เ พื่อจะนำไปเพิ่มรายได้ให้กับเหล่าผู้เผยแพร่และสื่อต่างๆที่ตกลงเข้ามาร่วมในโปรเจคนี้นั่นเองครับ
ที่มา : Businessinsider