ก่อนเริ่มสาธยายขอบอกไว้ก่อนนะครับว่า ผมไม่ใช้โปรแกรมเมอร์ ผมไม่มีความรู้เรื่องโปรแกรมทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย มากไปกว่าการเป็น “ผู้ใช้งาน” หรือ “User” ทั่วไปเท่านั้น จึงขอเล่าจากปากของ User ถึง User แล้วกันนะครับ … แต่หากมีเวลาผมจะศึกษาเรื่องนี้แบบจริงจังแล้วมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมครับ :D
เริ่มต้นปัญหา
สำหรับกรณีปัญหาที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพียงกรณีเดียวเท่านั้นที่นำเสนอ ความจริงแล้วสแปมสามารถรังสรรค์วิธีใหม่ๆ มาหลอกล่อเราได้เสมอ จนเราอาจตามมันไม่ทันแล้วหลงติดกับได้อีก แต่มันก็ข้อจำกัด นั่นก็คือ เว็บบราวเซอร์อย่าง Chrome, IE หรือ Firefox หรือแม้แต่ตัว Facebook เองเขาก็มีระบบรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้อยู่ ดังนั้นวิธีหลอกล่อเหล่านั้นจะต้องให้เราลงปลั๊กอินของเว็บบราวเซอร์ หรือ แอพพลิเคชั่นของ Facebook และกดยอมรับด้วยคลิกของเราเองเสียก่อน เพราะฉะนั้น
[quote]ปัญหาจะไม่เกิดเลย หากเราไม่ลงปลั๊กอินของเว็บบราวเซอร์ หรือ แอพพลิเคชั่นบน Facebook แบบมั่วๆ หรือ กดยอมรับเงื่อนไขแบบไม่อ่านอะไรเลย!![/quote]
หากเพื่อนๆ เข้าใจเรื่องนี้ดีแล้วก็ไม่ต้องกังวลหรือไม่ต้องอ่านบทความนี้ต่อก็ได้ครับ
กรณีปัญหา ในช่วงนี้ได้มี บัญชีผู้ใช้งาน, กลุ่ม หรือ แฟนเพจใน Facebook หลายแห่ง ได้ออกมาแนะนำการทำไอคอนอีโมติคอนหรือไอคอนแสดงอารมณ์แบบเก๋ไก๋ ให้กับผู้ใช้งาน Facebook ทั่วไป ซึ่งโดยปกติแล้วไอตอนแสดงอารมณ์บนหน้าเว็บของ Facebook นั้น มันมีวิธีการเรียกใช้งานให้อยู่แล้วครับ โดยการใส่สัญลักษณ์ที่ถูกต้องในส่วนของการแสดงคอมเมนต์หรือการโพสข้อความ แต่การจดจำสำหรับบางคนเป็นเรื่องยาก สแปมจึงจับช่องนี้มาทำการหลอกลวงผู้ใช้งาน(ผู้ใช้บางคนก็ทราบ แต่ก็เต็มใจให้หลอก)
วิธีการหลอกลวง
สแปมจะแนะนำวิธีการทำไอคอนแสดงอารมณ์แบบง่ายๆ โดยติดตั้งปลั๊กอินบนตัวเบราวเซอร์ Google Chrome หรือ Firefox หรือการลงแอพพลิเคชั่นบน Facebook เพื่อให้เราสามารถกดเรียกใช้ไอคอนอีโมติคอนได้อย่างง่ายๆ นั้นเองครับ
แล้วเมื่อเราลงปลั๊กอินหรือแอพพลิเคชั่นเหล่านั้นไป มันก็จะสามารถนำบัญชีผู้ใช้งาน Facebook ของเราไปกด Like แฟนเพจ หรือ กด Follow ผู้ใช้งานที่สั่งซื้อจากมันไป และเมื่อมันเกิดขึ้นแบบนั้น สิ่งที่ตามมาก็คือ Facebook จะตรวจพบว่าบัญชีของเรามีการกด Like หรือ Follow อย่างรวดเร็วและจำนวนมากจนผิดสังเกต มันจะชี้ว่าเราไม่ใช่คนจริงๆ แต่เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แล้วระบบรักษาความปลอดภัยของ Facebook ก็จะบล็อกการใช้งานหรือจำกัดการใช้งานของบัญชีเราไปในทันทีครับ
วิธีแก้ไขปัญหา
หากเราหลงไปทำตามวิธีการของพวกนี้ แนะนำให้เราไปถอนการติดตั้งปลั๊กอินหรือแอพพลิเคชั่นเหล่านั้นออกให้หมดครับ จากนั้นก็ส่งข้อความถึง Facebook เพื่อแจ้งให้เขาทราบว่าเราโดยหลอกลวงและเราไม่ใช่โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หากเราไม่เก่งภาษา ก็ส่งไปเป็นภาษาไทยก็ได้ครับ เขามีทีมงานจัดการเรื่องนี้อยู่แล้ว
วิธีถอนการติดตั้งปลั๊กอินบน Chrome(สำหรับ Firefox ทำได้ในทำนองเดียวกัน) เข้าไปที่การตั้งค่าของตัวเบราว์เซอร์ (ส่วนขยาย หรือ Addon) จากนั้นเข้าไปลบหรือถอนการติดตั้งปลั๊กอินที่เราลงไปได้เลยครับ
สำหรับการถาอนการติดตั้งแอพพลิเคชั่นบน Facebook ง่ายๆ ครับ เพียงเข้าไปที่ การตั้งค่า >> apps แล้วมองหาแอพพลิคชั่นต้องสงสัยที่เราลงตามคำแนะนำเขา ด้านขวาสุดของแถวข้างๆ คำว่า “edit” จะมีเครื่องหมายกากบาทอยู่ เราก็กดเพื่อลบออกได้ทันทีครับ
สรุปว่า
[quote]ปัญหาจะไม่เกิดเลย หากเราไม่ลงปลั๊กอินของเว็บบราวเซอร์ หรือ แอพพลิเคชั่นบน Facebook แบบมั่วๆ หรือ กดยอมรับเงื่อนไขแบบไม่อ่านอะไรเลย!![/quote]
ขอบคุณประสบการณ์กานจริงจาก: สาวน้อย “นิรนาม” ผู้น่ารัก