Facebook สังคมออนไลน์ที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดในโลกและได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในองค์กรที่เก็บสะสมข้อมูลของผู้คนทั่วโลก (พร้อมรูปภาพ) ไว้มากที่สุดในโลกอีกด้วยนั้น ในตอนนี้งานใหญ่งอก ถูกศาลขั้นต้นของบราซิลสั่งปรับเงินชดเชิยจำนวน $2,000 ดอลลาร์หรือตีเป็นเงินไทยที่ประมาณ 64,000 บาท ให้กับหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกนำเอาภาพถ่ายและข้อมูลส่วนตัวไปใช้ในการสมัครบัญชีสมาชิกในสังคมออนไลน์ Facebook และมีผลให้เจ้าตัวที่แท้จริงเกิดความเสียหายในทางชื่อเสียง
คำตัดสินนี้มีต้นตอมาจากการที่ผู้หญิงคนนี้ยื่นฟ้องร้องเว็บไซต์ Facebook ต่อศาลประจำประเทศบราซิลโดยกล่าวอ้างว่ามีผู้นำเอาข้อมูลส่วนตัวและรูปภาพของตนไปแอบอ้าง สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงและส่งผลกระทบต่อจิตใจของตน เจ้าตัวขอแจ้งให้มีการลบข้อมูลบัญชีที่แอบอ้างดังกล่าวแล้วแต่ทาง Facebook ปฏิเสธที่จะทำตามคำขอโดยแจ้งเหตุผลว่าอาจเข้าข่ายการปิดกั้นข้อมูล ซึ่งถือว่าผิดต่อกฏหมายของประเทศบราซิลเช่นเดียวกัน
คำตัดสินนี้มีขึ้นในวันที่ 19 กันยายน 2556 หรือเมื่อวานนี้ โดยเป็นคำตัดสินชั้นต้นและยังต้องผ่านกระบวนการในชั้นศาลต่อไปอีกหากไม่มีการยอมความกัน
Facebook เองก็มีคดีกับรัฐบาลรัสเซียเช่นเดียวกันหลังจากที่มีการปล่อยเผยแพร่โฆษณาเว็บไซต์จำหน่ายสารเสพติดผิดกฎหมายชื่อ “สไปซ์” ออกมา โดยทางรัฐบาลรัสเซียเตรียมออกคำสั่งระงับการให้บริการ Facebook ในประเทศรัสเซียทันที แต่โชคยังดีที่ได้มีการชี้แจงจากทาง Facebook ไปก่อนถึงปัญหาเรื่องระบบการคัดกรองโฆษณาของตนเองและยืนยันว่าปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขแล้วและจะไม่เกิดขึ้นอีก เว็บไซต์สังคมออนไลน์อย่าง Facebook จึงยังรอดพ้นจากบทลงโทษในครั้งนี้ไปได้
ต้องยอมรับจริงๆ ว่าในทุกสังคมนั้นมากคนก็ย่อมมากความตาม ไม่พ้นแม้แต่ในสังคมออนไลน์อย่างโลก Facebook แต่ถึงอย่างนั้น ปัญหาในครั้งนี้ก็ทำให้เราต้องมองย้อนกลับมาดูความปลอดภัยในข้อมูลส่วนตัวของตัวเองที่มีการเผยแพร่อยู่บนสื่อออนไลน์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี เพราะดูอย่างกรณีนี้ที่เกิดปัญหาการแอบอ้างตัวตนเพื่อทำลายชื่อเสียงกันขึ้นแต่ Facebook กลับไม่ยอมทำอะไรก็พอจะเป็นการบอกใบ้ให้รู้แล้วว่าบางทีเราอาจต้องพิจารณาการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ทั้งหลายก่อนจะป้อนข้อมูลส่วนตัวอะไรลงไปจริงๆ
เพื่อนๆ ล่ะครับ คิดเห็นอย่างไรกับข่าวนี้เชิญทิ้งคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นกันเอาไว้ได้ท้ายบทความเลยนะครับ
ที่มา – Thairath.co.th