คุณยังคงจำคืนวันเก่าๆ ในครั้งที่เหล่าพ่อมดมนต์ดำต่างก็ยังสวมหมวกปลายแหลมเปี๊ยบกันได้ไหมครับ หรือในสมัยที่บอสแต่ละตัวต่างก็พากันสาดพิษใส่ให้เราในฐานะผู้เล่นติดพิษสเตตัสต่างๆ ที่ร้ายแรงมากๆ แล้วต้องมานั่งนับเทิร์นรอพิษเหล่านั้นหายกัน คุณยังคิดถึงคืนวันที่ Final Fantasy ยังคงเต็มไปด้วยเรือบินและคริสตัลแทนยุคปัจจุบันนี้ที่เต็มไปด้วยไซไฟล้ำยุคไหม ถ้าหากคำตอบของคำถามข้างต้นคือคำว่าใช่แล้วล่ะก็ คุณต้องไม่พลาด Final Fantasy Dimensions ด้วยประการทั้งปวง
Final Fantasy Dimensions นั้นเป็นเกมที่ปล่อยออกมาขายเป็นรายตอน (Episode) และมีทุกสิ่งทุกอย่างที่คอเกมแนว RPG ยุคเก่าจะถวิลหาเลยล่ะครับ ทั้งระบบเปลี่ยนอาชีพ เกมเพลย์ที่ยาวนานถึง 40 ชั่วโมง แถมยังเนื้อหาบางตอนที่ออกแนวเมโลดราม่าเรียกน้ำตากันได้อีก นอกจากนี้มันยังเก็บเอารายละเอียดเดิมๆ บางอย่างที่ Final Fantasy ในยุคใหม่นี้ขาดหายไปไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของศัตรูที่แรนดอมโผล่กันออกมาอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง หรือความรู้สึกเก่าๆ ที่ต้องตะบี้ตะบันเก็บเลเวลกันเพื่อไปเผชิญดันเจี้ยนใหม่ๆ ที่หากเลเวลไม่พออาจพร้อมตายได้ในเวลาอันรวดเร็ว
งานด้านกราฟิกเองก็ดูสมูธสวยงามในแบบฉบับ Final Fantasy ยุคแรกเริ่ม แต่ถึงจะพูดแบบนั้นก็ไม่ใช่เรนเดอร์มาแบบ 16 บิตภาพแตกพร่านะครับ Square Enix พัฒนาให้งานกราฟิกที่ดูคลาสิกนี้ออกมาสวยงามน่าประทับใจบนอุปกรณ์ยุคใหม่ที่ถึงพร้อมด้วยหน้าจอแสดงผลที่สวยงามนี้ได้อย่างลงตัวมาก รายละเอียดดีเทลเท็กซ์เจอร์ต่างๆ นั้นคมชัดสะใจจนคุณต้องเผลอร้องว้าวกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะกับการออกแบบพวกหัวหน้าใหญ่ๆ แต่ละตัว
แต่การทำงานกราฟิกให้ออกมาดูคลาสิกแบบนี้ก็มีข้อเสียเหมือนกันนะครับ เพราะต่อให้มันจะดูสวยงามน่าประทับใจมากแค่ไหน แต่ความเป็นจริงที่ว่างานกราฟิกนั้นยังเป็น 2D อยู่ก็อาจทำให้ผู้ที่รอคอยแอบผิดหวังเล็กๆ ได้ (แม้ปากจะยังว้าวอยู่)
เรื่องราวดำเนินไปด้วยการตามติดชีวิตของฮีโร่สองกลุ่มด้วยกันนั่นก็คือกลุ่มผู้พิทักษ์แห่งแสงและกลุ่มผู้พิทักษ์แห่งความมืด ทั้งสองกลุ่มต่างก็มีภารกิจเดียวกันคือการหยุดยั้งจักรพรรดิปีศาจ Avalonian จากการยึดครองโลก และเมื่อจักรพรรดิชั่วที่ว่าตัดสินใจขโมยคริสตัลเวทย์มนต์ที่คุ้มครองแผ่นดินอยู่ โลกก็เกิดการโกลหล เปลือกโลกแยกตัวเองออกเป็นสองฝั่ง ฮีโร่แต่ละกลุ่มจึงต้องออกผจญภัยเพื่อตามกู้คริสตัลที่หลงอยู่ในมิติของตนกลับคืนมาเพื่อประสานโลกทั้งใบนี้ให้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวอีกครา
ตัวเกมประกอบไปด้วย 4 ตอนหลักและ 1 บทนำ โดยเรื่องราวจะค่อยๆ ดำเนินไปเรื่อยๆ ให้เหล่าฮีโร่เราเข้าใกล้ความจริงที่ค่อยๆ เปิดเผยออกมา ทั้งเรื่องที่เกี่ยวกับจักรพรรดิ Avalonian และเรื่องของตัวของฮีโร่แต่ละตัวเอง รวมถึงค่อยๆ เข้าใกล้จุดมุ่งหมายของภารกิจตนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยตลอดทาง คุณจะได้มีโอกาสค้นพบหมู่บ้านลับของนินจา ได้ช่วยหุ่นแอนดรอยด์ค้นพบความเป็นคนภายใต้เรือนร่างหุ่นยนต์ของตน ได้ค้นพบเผ่าพันธุ์มังกรตนสุดท้าย ได้สั่งสอนให้อัศวินตกอับกลับมากอบกูศักดิ์ศรีของตนได้อีกครั้ง และอะไรอื่นๆ อีกมากมายเลยทีเดียว
การแบ่งตัวเกมออกมาเป็นตอนๆ แบบนี้ทำให้การผจญภัยของเราสดใหม่อยู่เสมอ แต่ก็ขาดความต่อเนื่องในเวลาเดียวกัน เพราะทันทีที่เรื่องราวกำลังถูกกระตุ้นให้น่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ นั้น เราก็ถูกตัดอารมณ์โดยการต้องเปลี่ยนไปเล่นกลุ่มฮีโร่อีกมิติหนึ่งในทันที แบบนี้ล่ะครับที่ผมบอกว่าการผจญภัยมันสดใหม่อยู่เสมอก็จริง…แต่มันก็ขาดความต่อเนื่องไปบ้างเหมือนกัน
โครงสร้างเกมที่ถูกออกแบบมาเช่นนี้ยังลดทรความอิสระในการเล่นของผู้เล่นลงอีกด้วย คุณจะไม่สามารถเดินสำรวจแผนที่ใดๆ ได้อย่างหนำใจเพราะจะถูกตัวเกมตัดไปตัดมา กว่าคุณจะมีโอกาสได้สำรวจแผนที่แบบทั่วๆ ก็ปาเข้าไปช่วงท้ายๆ เกมโน่น หรือให้จินตนาการกันได้ง่ายกว่านั้นก็คงต้องบอกว่าต้องเล่นไปกว่า 30 ชั่วโมงโน่นล่ะครับ กว่าที่คุณจะได้เดินสำรวจแผนที่แบบเป็นอิสระนั้น คุณจะถูกโครงสร้างของเกมบังคับให้ต้องทำภารกิจให้สำเร็จไปทีละอย่างตามลำดับ แต่ก็ไม่ต้องกลัวไปครับ เพราะในภารกิจหลักเหล่านั้นจะมีสถานที่รองๆ อื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องโดยตรงให้คุณได้เล่นแก้เซ็งอยู่ (หากคุณเกิดเซ็งขึ้นมาน่ะนะ ซึ่งผมว่าไม่)
แม้ FF: Dimensions จะดูขาดไปบ้างในเรื่องของความอิสระในการเล่น แต่ตัวเกมก็ชดเชยให้ได้หนำใจกับความอิสระในการจัดการระบบอาชีพ ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนอาชีพให้กับฮีโร่ในกลุ่มได้อย่างง่ายดาย ซึ่งอาชีพเหล่านี้จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเรื่องราวดำเนินไป และเมื่อเลเวลอาชีพสูงจนถึงระดับมาสเตอร์แล้ว ตัวละครนั้นๆ ก็จะสามารถใช้ความสามารถของอาชีพนั้นๆ ได้อย่างถาวร ทีนี้ต่อให้เปลี่ยนไปอยู่ในสายอาชีพใหม่ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีความสามารถที่ชอบให้ได้ใช้กันอีก ระบบที่ว่านี้ช่วยยกระดับตัวเกมให้สนุกสนานและช่วยผลักดันให้ผู้เล่นเก็บเลเวลอาชีพได้เป็นอย่างดีเลยล่ะครับ
ใน FF: Dimensions นั้น คุณสามารถรวมเพื่อนได้ 5 คนในหนึ่งทีมในฉากต่อสู้ เพราะเหตุนี้เองคุณจึงต้องคิดค่อนข้างละเอียดรอบคอบในการจัดทัพทีมฮีโร่ของคุณให้พร้อมรับมือกับทุกอย่างที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในฉากต่อสู้ ส่วนตัวผมเองนั้น ปกติแล้วผมจะจัดให้ในทีมมีนักเวทย์สายเพิ่มพลังเอาไว้ตลอดเวลาหนึ่งคน แต่ในบางการต่อสู้ผมต้องเพิ่มนักเวทย์สายเพิ่มพลังเข้าทีมไปเป็นสองแรงถึงจะสามารถจัดการกับหัวหน้าตัวนั้นๆ ได้
เพราะความยากระดับพระกาฬของ FF: Dimensions นี้เองที่ทำให้ผู้เล่นต้องครุ่นคิดกับการจัดสรรระบบอาชีพและวางแผนทีมการรบของตัวเองให้ละเอียดรอบคอบที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยิ่งโดยเฉพาะในฉากต่อสู้กับหัวหน้าแล้วด้วย บอสแต่ละตัวพร้อมที่จะจัดหนักทั้งโจมตีทั้งลดค่าพลังต่างๆ ของคุณอย่างต่อเนื่องกันแทบทุกเทิร์นเลยทีเดียว
ที่เจ๋งไปกว่านั้นคือการต่อสู้กับบอสบางตัวนี่เหมือนเล่นเกมทายใจบวกกับเกมพัซเซิลดีๆ นี่เองเลยครับ จำได้ว่ามีบอสตัวหนึ่งที่ดูด MP จากฮีโร่ในทีมของผมไปจนหมดแล้วใช้ MP นั้นในการเสริมค่า MP ของตัวเองให้สามารถปล่อยท่าสุดเทพออกมาหนักหน่วงแบบสุดๆ ได้ การต่อสู้ในนัดนั้นของผมจึงต้องเปลี่ยนเป็นการใช้ทีมเน้นการโจมตีทั้งหมดโดยไม่มีนักเวทย์ผสมอยู่เลยจึงจะสามารถปราบมันลงได้สำเร็จ ส่วนบอสอีกตัวก็จะปลดปล่อยคาถาขั้นสุดยอดออกมาฆ่าเราตายหมู่พอพลังชีวิตมันลดลงต่ำไปจนเหลือช่วงสุดท้าย ตัวนี้นี่ผมต้องเก็บค่า MP เอาไว้ให้มากที่สุดเพื่อเตรียมนักเวทย์จัดหนักในเทิร์นอันตรายนี้โดยให้นักเวทย์ทุกตัวในทีมรุมอัดมันไปให้ตายให้ได้ภายในเทิร์นการเล่นช่วงสุดท้ายของเรา
อย่าปล่อยให้คำว่า “เกมมือถือ” หลอกคุณว่า FF: Dimensions นั้นเป็นเพียงเกม RPG ดาษดื่นทั่วไปที่ไม่ได้เจ๋งหรือวิเศษวิโสมาจากไหนล่ะครับ เพราะเกมๆ นี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นเกม RPG แบบเต็มสูบเลยทีเดียว ทั้งชั่วโมงการเล่นที่ SE จัดให้อย่างเต็มอิ่ม รวมไปจนถึงกลิ่นอายความเป็น Final Fantasy ในฉบับเก่าๆ ที่เราไม่ได้เห็นมานานแสนนาน กอปรกับเนื้อเรื่องของเกมที่จะทำให้คุณตื่นเต้นลุ้นระทึกหรืออาจถึงขั้นโศกไปกับมันได้อย่างไม่น่าผิดหวัง นี่ยังไม่พูดถึงระบบอาชีพที่ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม และการต่อสู้กับบอสที่ต้องใช้ทั้งมันสมองและความสามารถ (ทั้งส่วนตัวคนเล่นและส่วนตัวละครในเกม) อีก รับรองได้เลยว่า Final Fantasy Dimensions จะพาคุณกลับไปยังสมัยที่คุณมีความสุขกับการเล่นเกม RPG อย่างแน่นอน
[gradeA]