หลังจากที่ผมได้เขียนรีวิวตอนแรกของ LG G2 ไปดูเหมือนว่ารุ่นนี้จะมีกระแสตอบรับน่าพอใจทีเดียวนะครับ มีคนสนใจเยอะมากและกว่ารีวิวนี้จะเสร็จผมว่าหลายๆคนที่จองเครื่องคงจะได้รับเจ้า LG G2 ไปนอนกอดกันแล้วนะครับ และจากการที่ไปร่วมงานเปิดตัว LG G2 ที่ผ่านมาสรุปว่าผมไม่หน้าแตก อิอิ LG G2 รองรับ 4G LTE แน่นอนสำหรับรุ่นนี้ถือว่าจัดเต็มมากครับทั้งงานออกแบบที่สวยหรู วัสดุงานประกอบคุณภาพดีและสเปคที่จัดเต็ม CPU Qualcomm MSM8974 Snapdragon 800 Quad Core 2.26 GHz Krait 400, GPU Adreno 330, RAM 2GB, หน่วยความจำภายใน 32GB (เหลือให้ใช้ 24.80GB) มาให้ยังมาพร้อมปุ่มควบคุมด้านหลัง Rear Key ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่สร้างความแตกต่างจากรุ่นอื่นๆในท้องตลาดเป็นอย่างมาก ซึ่งก็มีคนถามผมเหมือนกันนะครับว่าปุ่ม Rear Key นี่มันจะใช้ยากหรือเปล่า ก็ขอตอบตรงนี้อีกรอบเลยนะฮะ (ตอบหลายรอบมากๆ อิอิ) มันออกแบบมาได้ดีมากครับและใช้สะดวกกว่าตำแหน่งเดิมอย่างชัดเจนเลย จนขนาดที่ผมว่ามันควรจะอยู่ตรงนี้ซะทุกแบรนด์เลยละครับ และไม่ต้องห่วงว่ามันจะทำให้หน้าจอเปิดเองโดยไม่ตั้งใจนะครับ ตรงส่วนนี้ LG ทำมาได้ดีจริงๆ และจากการทดลองใช้งานมาระยะนึงแบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh นั้นทนใช้ได้เลยครับอยู่ครบวันได้สบายๆแม้จะเปิด 3G และใช้งานตามปกติก็ตาม และที่ผมบอกใว้ในรีวิวตอนแรกว่าลำโพงมันเป็นลำโพงคู่ สรุปว่าไม่ใช่นะครับด้านขวาจะเป็นลำโพง แต่ด้านซ้ายจะเป็นไมโครโฟนครับ^__^
สามารถไปอ่านรีวิว LG G2 ตอนแรกได้ที่นี่ครับ
นอกจากภายนอกแล้วในส่วน UI และฟังก์ชั่นต่างๆของ LG G2 ยังจัดเต็มมากครับ โดยในงานทาง LG บอกว่า UI ตัวนี้ใช้เวลาพัฒนาถึง 2 ปีก่อนจะมาลงตัวใน LG G2 (อืม….มันก็น่าจะแบบนั้นละครับ UI ตัวนี้ผมเห็นมาตั้งแต่ตอน LG Optimus 4X HD นะฮะแต่พอมาถึงตัว LG G2 มันก็สวยและน่าใช้ขึ้นมามากจริงๆนะครับ) และที่ผมถูกใจมากๆคือฟังก์ชั่น KnockON สำหรับฟังก์ชั่นนี้ก็คือการแตะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อเปิด-ปิดหน้าจอนั่นเอง ซึ่งใช้งานได้แม่นยำดีมากและไม่มีทางเปิดหน้าจอเองเวลาอยู่ในกระเป่าแน่นอน และเวลาเราอยู่ในแอพพลิเคชั่นก็ให้แตะ 2 ทีตรงแถบ Notification แทนครับจะสามารถปิดหน้าจอได้ไม่ต้องกลับมาหน้า Home
มาชมเจ้า LG G2 เมื่อมาอยู่ในมือผมนะฮะ จะเห็นว่าตัวเครื่องถือว่าเล็กมากเมื่อเทียบว่ามันมาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 5.2 นิ้ว
LG G2 มาพร้อม Android 4.2.2 Jelly Bean ครอบทับด้วย Optimus UI รุ่นล่าสุดในหน้า Lock Screen สามารถใส่ Widget ลงไปได้หลายหน้า (ตามมาตราฐาน) และมีอนิเมชั่นแสดงสภาพอากาศได้อย่างสวยงามมากๆ และมีเอฟเฟคในการปลดล็อคหน้าจอมาถึง 5 แบบและสวยงามกว่าเดิมด้วย 2 เอฟเฟคใหม่ Particle และ Crystal
หน้าตา UI โดยรวมจะคล้ายๆเดิมครับ สามารถปรับขนาดของไอค่อนรวมทั้งปรับเปลี่ยนไอค่อนเป็นรูปถ่ายต่างๆได้ตามใจชอบอีกด้วย โดยเมื่อเราขยายไอค่อนให้ใหญ่ขึ้นมันก็จะกลายเป็น Widget ที่หน้าจอเลยละครับ บนแถบ Notification จะเพิ่มจากเดิมโดยจะมีแถบปรับระดับเสียงเพิ่มขึ้นมา และจะมาพร้อมฟังก์ชั่นจุดขายอย่าง QuickMemo, Q Slide และ Quick Remote เช่นเคย
Live Wallpaper ของ LG เป็นแบบเฉพาะตัวครับผมว่าจะเล่าตั้งแต่ตอน G Pro แล้วผมก็ลืมเขียน ผมว่าเจ๋งดีนะและใน LG G2 ก็มีเพิ่มเติม Multi Photo คือการใส่ภาพถ่ายของเราในแต่ละหน้าได้อย่างอิสระแถมมีเอฟเฟคที่สวยงาม
หน้า App Drawer สามารถปรับขนาดไอค่อนได้ 2 ขนาดครับ ในเครื่องมีแอพเฉพาะน่าสนใจหลายตัวทีเดียวอย่างเช่น Notebook เป็นแอพวาดภาพพร้อมแนบรูปที่ใช้งานได้ง่ายดีครับ แม้จะไม่เจ๋งเท่าคู่แข่งแต่ก็ไม่เลวทีเดียว, Video Editor แอพตัดต่อวีดีโอที่ใช้งานง่ายและคุณภาพดีทีเดียว, Life Square แอพที่เก็บบันทึกข้อมูลทั้งการโทร, ข้อความ, ภาพถ่าย, วีดีโอ, บันทึกเสียง, Facebook, Twitter, นัดหมายทั้งหมดของเราเอาใว้เป็นต้น
QuickMemo พัฒนาขึ้นจากเดิมนอกจากจดบันทึกที่หน้าจอแล้ว ยังเพิ่มความสามารถตัดภาพได้แล้วอีกด้วย และเมื่อบันทึกใว้จะมาทั้ง URL ของภาพที่เราตัดมาว่าที่มาจากเวบไหน เผื่อว่าเราจะกลับไปใช้อีก^^
Q Slide คือการเปิดใช้งานหน้าต่างแอพลิเคชั่นขึ้นมาซ้อนทับบนหน้าจอและสามารถปรับให้โปร่งใสได้ สามารถเลื่อนไปมาบนหน้าจออย่างอิสระ และเปิดขนาดเต็มจอได้ด้วยนะ สามารถเปิดใช้งานได้สูงสุด 2 แอพพลิเคชั่นโดยสามารถเลือกเปิดใช้ได้ถึง 10 อย่างด้วยกัน ซึ่งพัฒนาใส่มาให้มากขึ้นกว่าเดิมครับได้แก่ Videos, Internet, การโทร, ข้อความ, ปฏิทิน, Email, จดบันทึก, File Manager, เครื่องคิดเลข, Voice Mate
LG G2 มาพร้อม Infrared Port ใช้งานร่วมกับฟังก์ชั่น Quick Remote ซึ่ง LG จัดเต็มฟังก์ชั่นนี้มาตั้งแต่ตอน Optimus G Pro แล้วครับและเพิ้มเติมความสามารถปรับแต่ง Universal Remote ด้วยตัวเองได้อีกด้วย เผื่อเอาใว้ใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นๆที่ไม่มีในรายการ
Slide Aside เป็นฟังก์ชั่นที่ใช้ความสามารถมัลติทาสกิ้งได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยการเปิดแอพพลิเคชั่นใช้งานสลับไป-มาโดยใช้นิ้ว 3 นิ้วในการปัดสลับใช้งาน โดยสามารถเปิดใช้งาน Slide Aside ได้มากที่สุด 4 แอพพลิเคชั่นครับ การใช้งานลื่นไหลดีมากถ้าสเปคไม่โหดผมว่าอาจจะใช้งานฟังก์ชั่นนี้ไม่ลื่นขนาดนี้
ระบบ UI ของ LG G2 สร้างสรรค์มากครับเราสามารถปรับเปลี่ยนปุ่มสัมผัสด้านหน้าได้ตามใจชอบมีให้เลือกมากถึง 6 แบบใครถนัดแบบไหนสามารถเลือกได้เลย ไม่มีกรอบบังคับแบบเดิมๆอีกแล้ว
และสามารถเปลี่ยนสีได้ด้วยนะครับ นอกจากนี้ยังมีเอฟเฟคปิดหน้าจอมาให้ 3 แบบและไฟ LED สำหรับ Notification Light ก็สามารถเลือกให้แสดงผลได้แถมมีสัญญาณสีมากถึง 5 สีเหมือนใน G Pro อีกด้วย
มีฟังก์ชั่นแก้ไขอัตราส่วนของจอภาพในแอพที่แสดงผลผิดเพี้ยนจากหน้าจอ ซึ่งจริงๆมีมานานแล้วนะครับผมเห็นมาตั้งแต่สมัย Optimus 3D แนะซึ่งแนะนำว่าไม่ต้องเปิดใช้ครับ เพราะพวกเกมเปิดแล้วภาพมันจะแตกๆนะฮะ
และใส่ฟังก์ชั่นอย่าง Smart Screen หน้าจอจะไม่ดับตราบที่เรามองหน้าจออยู่และ Smart Video วีดีโอจะหยุดเล่นเมื่อเราไม่ได้มองไปที่หน้าจอ แหม…..คุ้นๆละสิ อิอิ
และมีโหมด Gestures มาให้เยอะพอสมควรแต่ที่เด่นสุดก็เจ้า KnockON นี่ละครับแตะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อเปิด-ปิดหน้าจอ ผมเชื่อว่าจะติดใจครับ พอไปใช้มือถือตัวอื่นๆต้องไปเผลอแตะแหงๆ
และ LG G2 มีธีมมาให้ 2 แบบครับและปรับ Transition ได้ถึง 7 แบบหวือหวามากๆ
Guest Mode เป็นลูกเล่นที่คล้ายๆ Kid Corner ใน WP8 นะครับโดยเราจะสามารถตั้งในส่วนของ Guest Mode และเลือกแอพพลิเคชั่นที่ต้องการให้เพื่อนหรือเด็กๆใช้ได้ โดยเราจะสามารถตั้งรหัสล็อคเอาใว้ได้ครับ
ฟังชั่น Plug & Pop เมื่อเสียบหูฟัง ตัวเครื่องจะรับรู้อัตโนมัติ แล้วขึ้นรายการแอพพลิเคชั่นที่น่าจะใช้งานร่วมกับหูฟังมาให้เราเลือกใช้งานได้ทันที และเครื่องเล่นเพลงจะเหมือนๆใน Optimus G Pro ครับโดยสามารถแตะที่เครื่องหมาย Youtube เพื่อเข้าไปชมรายการวีดีโอที่เกี่ยวข้องกับเพลงที่เราฟังอยู่ได้ และสามารถปรับ EQ แบบสำเร็จรูปตามที่มีใว้ให้เราเลือก หรือปรับแต่งเสียงด้วยตัวเองก็ได้ครับ จากการทดสอบผ่านหูฟัง QuadBeat 2 ผมว่าแจ๋วเลยละ คุณภาพเสียงน่าพอใจมากครับ และรุ่นนี้มีวิทยุมาให้ด้วยนะฮะ ลูกเล่นไม่มีอะไรพิเศษแต่หน้าตาหล่อมากเลย^^
นอกจากนี้ LG ยังได้คณะร้องประสานเสียง Vienna Boys Choir มาร้องเพลงประกอบเป็นเสียงเรียกเข้าให้ LG G2 ด้วยนะครับเพราะมากทีเดียว
เครื่องเล่นวีดีโอสามารถเล่น Full HD ได้ลื่นไหลดีมาก และเครื่องเล่นวีดีโอจะเป็นหนึ่งในฟังก์ชั่นใน Q Slide และรองรับการซูมหน้าจอโดยใช้นิ้วจับถ่างขยายได้อีกด้วย และนอกจากนี้ยังมีลูกเล่นปรับความเร็วในการเล่น X1.5-X0.5 และมี Smart Video วีดีโอจะหยุดเล่นเมื่อเราไม่ได้มองไปที่หน้าจอ
GPS จับสัญญาณได้เร็วดีเปิดปุ๊ปเจอปั๊ป ใช้งานร่วมกับ Google Maps ได้ดีมากไม่มีข้อติ
Browser ลื่นไหลดีมากครับสมกับสเปคจริงๆ เปิดได้ลื่นกว่าคอมที่ทำงานผมอีก อิอิ
เรื่องเกมหายห่วงครับสเปคนี้เล่นอะไรก็ลื่น!
LG G2 ในส่วนของกล้องต้องถือว่าพัฒนาขึ้นจากเดิมมากๆครับ มาพร้อมกล้องความละเอียด 13MP และกระจกเลนต์ Sapphire Crystal Glass ป้องกันรอยขูดขีด และฟังก์ชั่นถ่ายภาพแบบจัดเต็มจริงๆตามในภาพเลยครับ และระบบ Multi-Point AF 9 จุดเป็นครั้งแรกของกล้องบนโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ยังบันทึกวีดีโอ Full HD 1080P 60fps ได้อีกด้วยและมีฟังก์ชั่น Audio Zoom และระบบกันสั่น OIS
สำหรับคุณภาพถือว่าดีกว่าเดิมมากครับ เป็นกล้องมือถือที่มีคุณภาพดีทีเดียว สีสันสดใส Noise น้อยแต่ถ้าในสถานที่มืดมากๆบางครั้งกล้องจะลบ Noise มากเกินไปแต่รวมๆถือว่าดีมากครับในการถ่ายภาพที่แสงน้อย และฟังก์ชั่นถ่ายภาพที่ให้มาก็เยอะมากไม่แพ้คู่แข่ง ก็ช่วยให้ถ่ายภาพได้สนุกมากยิ่งขึ้นครับ
และที่ผมชอบมากคือการบันทึกวีดีโอครับ คุณภาพที่ได้จากการบันทึก Full HD 1080P 60fps ดูน่าประทับใจมากครับ
ตัวอย่างวีดีโอของ LG G2
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง LG G2
ภาพกลางแจ้ง
ภาพในร่ม
………..ภาพในร่มมีแต่อาหารกับขนม อิอิ
ภาพในสภาวะแสงน้อย
ภาพตอนกลางคืน
ตัวอย่างกล้องหน้าเปรียบเทียบโหมด Beauty Shot
ข้อดีของ LG G2
1. ตัวเครื่องออกแบบได้สวยงามมาก หน้าจอขนาดใหญ่แต่ขนาดตัวเครื่องไม่ใหญ่มากเพราะขอบจอบางเฉียบ วัสดุคุณภาพดีการประกอบแน่นหนา
2. ปุ่มควบคุมด้านหลัง Rear Key น่าสนใจและใช้งานได้ดีมากๆ จนมันน่าจะกลายเป็นมาตราฐานของโทรศัพท์มือถือได้เลย
3. สเปคสุดแรง CPU Qualcomm MSM8974 Snapdragon 800 Quad Core 2.26 GHz Krait 400, GPU Adreno 330, RAM 2GB, หน่วยความจำภายใน 32GB (เหลือให้ใช้ 24.80GB)
4. หน้าจอ True HD-IPS + LCD ขนาด 5.2 นิ้วความละเอียด Full HD 1080P 1080 x 1920 pixels (424 ppi) สวยงามมากๆและขอบจอบางเฉียบเพียง 2.65 มม. เท่านั้น
5. ฟังก์ชั่นการใช้งานและ UI จัดเต็มใส่มาเยอะและใช้งานได้จริง (KnockON แจ่มมากๆ)
6. กล้องความละเอียด 13MP บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P 60fps และกล้องหน้า 2.1MP บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P 30fps คุณภาพกล้องดีที่สุดที่ LG เคยมีมาแถมฟังก์ชั่นจัดเต็มมาก
7. ระบบเสียง Hi-Fi Sound 24 bit และจัดเต็มของแถมหูฟังพรีเมี่ยม QuadBeat 2
8. แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh อึดดีครับอยู่ครบวันแน่นอน
ข้อด้อยของ LG G2
1. เพิ่มหน่วยความจำภายนอกไม่ได้
2. เปลี่ยนแบตเตอรี่เองไม่ได้ (อยากได้โมเดลที่จำหน่ายในเกาหลีจัง)
3. ตัวเครื่องเงาวับเป็นคราบนิ้วมือได้ง่าย (โดยเฉพาะสีดำ)
4. กล้องหน้ายังดูธรรมดาไปหน่อย
หลังจากที่ใช้งานมาหลายวันอยู่เหมือนกันนะครับกับเจ้า LG G2 ผมว่ารุ่นนี้มันเป็นรุ่นที่ LG น่าจะภูมิใจจริงๆครับ ทำมาดีมากปรับปรุงทั้งรูปร่างและ UI รวมทั้งฟังก์ชั่นต่างๆที่อาจจะดูไม่หวือหวาแต่ล้วนมีประโยชน์ใช้ได้จริง และที่ผมว่าสร้างสรรค์มากๆคือปุ่มควบคุมด้านหลัง Rear Key ซึ่งผมว่าเหมาะสมยิ่งกว่าตำแหน่งเดิมๆอีกนะ ใครที่กลัวว่าจะใช้ไม่ถนัดให้ลืมไปได้เลยครับ มันเหมาะมากจริงๆ และที่ผมปลื้มมากคือในส่วนของกล้องที่พัฒนาจากเดิมมาก แม้จะมีบางโหมดที่ผมเจอปัญหานิดหน่อยก็อาจจะเพราะยังไม่ใช่เครื่องขายจริงครับ รวมๆแล้วผมว่าเจ้า LG G2 เป็นมือถือเรือธงที่คุ้มค่าและน่าสนใจมากในช่วงเวลานี้เลยละ
[gradeS]