Apple เปิดตัวเทคโนโลยีปุ่มโฮมสัมผัสภายใต้ชื่อ Touch ID ไปเมื่อเดือนกันยายน 2556 โดยมากับมือถือ iPhone รุ่นล่าสุดของตนอย่าง iPhone 5S และกลายเป็นสมาร์ทโฟนแบรนด์หลักแบรนด์แรกของโลกที่หันมาเล่นเทคโนโลยีการสัมผัสและจดจำลายนิ้วมือแบบนี้ ไม่นานหลังจากนั้น Samsung ก็เปิดตัวเทคโนโลยีการจดจำลายนิ้วมือให้กับไลน์มือถือของตนเช่นเดียวกัน โดยเริ่มจากเรือธงตัวล่าสุดของตนอย่าง Samsung Galaxy S5 ที่มีกำหนดออกวางจำหน่ายในวันที่ 11 เมษายนที่จะถึงนี้นั่นเอง
วิดีโอตัวล่าสุดที่ถูกโพสขึ้น Youtube โดยนาย Tanner Marsh ได้ทำการเปรียบเทียบการใช้งานจริงของเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือของทั้งสองแบรนด์เอาไว้ โดยเริ่มตั้งแต่การเริ่มต้นการเซ็ตอัพเพื่อให้ตัวเครื่องจดจำลายนิ้วมือของผู้ใช้งานเพื่อเปรียบเทียบกระบวนการและการตอบสนองของฟังก์ชั่นนี้ระหว่าง iPhone 5S และ Samsung Galaxy S5 รวมถึงความแตกต่างทางด้านฟังก์ชั่นการทำงานหลักในแต่ละฟังก์ชั่นของมือถือเรือธงจากสองค่ายศัตรูคู่อาฆาตรนี้
ทั้งสองค่ายมีวิธีการใช้งานตัวเซ็นเซอร์จับลายนิ้วมือที่แตกต่างกันไป โดยสำหรับเจ้า iPhone 5S นั้นผู้ใช้งานจะต้องแตะที่ปุ่มโฮมของมันเพื่อให้ตัวเครื่องจดจำลายนิ้วมือของผู้ใช้งาน ในขณะที่ใน Samsung Galaxy S5 นั้นผู้ใช้ต้องเลื่อนนิ้วลงจากขอบล่างของจอผ่านปุ่มโฮมเพื่อให้เครื่องจดจำลายนิ้วมือของตน เพื่อนๆ สามารถดูได้จากในวิดีโอเลยครับ
ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานว่าระบบสแกนลายนิ้วมือบน Samsung Galaxy S5 นั้นค่อนข้างง่อยและตอบสนองไม่ได้เท่าที่ควรนัก แน่นอนว่าปัญหานี้ได้รับการตอกย้ำอีกครั้งโดยนาย Tanner Marsh ที่สรุปออกมาสั้นๆ ว่าสำหรับ Samsung Galaxy S5 นั้น ผู้ใช้งานต้องบรรจงละเมียดเลื่อนนิ้วจากขอบล่างของจอลงบนปุ่มโฮมแบบตรงๆ ไม่เบี้ยวไปมาเท่านั้น ในขณะที่ iPhone 5S นั้นก็เพียงแค่วางนิ้วลงบนปุ่มโฮม ซึ่งจะตอบสนองได้ดีในแทบทุกสถานการณ์ปกติแม้ถือมือเดียว Tanner Marsh ระบุเพิ่มเติมว่าสำหรับ Samsung Galaxy S5 นั้นมัน “แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย” ที่จะใช้งานฟังก์ชั่นสแกนลายนิ้วมือนี้ด้วยการถือมือถือเพียงมือเดียว ซึ่งนั่นก็ตรงกับรายงานที่ The Verge เคยว่าไว้ในวันทดสอบเครื่องตอนวันเปิดตัว Samsung Galaxy S5 ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้เทคโนโลยี Touch ID ของ Apple เคยสร้างปัญหาให้กับตัว Apple เองมากมายในวันที่ iPhone 5S ออกจำหน่าย โดยหนึ่งในนั้นคือความไม่สเถียรทางการใช้งานการสแกนลายนิ้วมือบน iPhone 5S ที่ต่อมาได้รับการปรับปรุงพัฒนาจนผู้ใช้งานยอมรับและพอใจพร้อมให้ผ่านปัญหาดังกล่าวไปแล้ว ในขณะเดียวกัน Apple ก็เจอเรื่องถูกกล่าวหาเรื่องการเก็บลายนิ้วมือของผู้ใช้งานไว้บนเครือข่ายของตนซึ่งทำให้ร้อนถึง Apple ต้องออกมาแสดงเอกสารมากมายว่าลายนิ้วมือทั้งหมดนั้นมันเก็บอยู่ในตัวเครื่องเองไม่ใช่บนเซิร์ฟเวอร์ของ Apple แต่อย่างใด และแน่นอนว่าปัญหาดังกล่าวก็เป็นอันสิ้นสุดลง
แน่นอนว่า Samsung Galaxy S5 เองก็ต้องเตรียมตัวเจอกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นหลังวันที่ 11 เมษายน 2557 ที่จะเปิดจำหน่ายเครื่องนี้แน่ และสิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับ Samsung และยังคงเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ในตอนนี้นั้นไม่เฉพาะเรื่องความสเถียรและประสบการณ์การใช้งานฟังก์ชั่นสแกนลายนิ้วมือที่เกิดขึ้นกับเหล่าเออร์รี่อะดอปเปอร์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเรื่องความปลอดภัยของลายนิ้วมือที่ Samsung ประกาศว่าจะอนุญาตให้นักพัฒนาอิสระเข้าถึงฟังก์ชั่นการใช้งานสแกนลายนิ้วมือนี้อีกด้วย ซึ่งหากเป็นตามนั้นจริง ความปลอดภัยของลายนิ้วมือของผู้ใช้งานจะอยู่ที่ไหนคงต้องรอติดตามกันต่อไป
หลังจากได้ดูวิดีโอแล้ว เพื่อนๆ มีความคิดเห็นอย่างไรต่อฟังก์ชั่นนี้เมื่อเปรียบเทียบกันทั้งสองเครื่องบ้างครับ เพื่อนๆ สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นกันเอาไว้ได้ที่ท้ายบนความเลยครับ