ต้องยอมรับว่ากระแสมือถือไฮเอ็นด์ของ Android ตอนนี้กำลังอู้ฟู่เหลือเกินตลอดต้นปีนี้ เริ่มจากเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ทาง HTC ได้เปิดตัว THE NEW HTC ONE มือถือเรือธงสุดหรูที่มาพร้อม Sense UI 5 ตัวล่าสุดและลูกเล่นแบบจัดจัดเต็ม หลังจากนั้นไม่นาน LG ก็ตามมาติดๆ กับ LG OPTIMUS G PRO ที่ก็สร้างความฮือฮาให้กับวงการมือถือไปไม่ใช่น้อย และล่าสุดเมื่อสองวันที่ผ่านมานี้กับการเปิดตัวเรือธงของแอนดรอยด์เลยก็ว่าได้จากเจ้าพ่อแห่งวงการแอนดรอยด์อย่าง Samsung ที่ในรอบนี้พาเรือธงตัวแรกของตนมาเปิดตัวแบบแปลกใหม่แหวกแนวด้วยการนำเสนอผ่านรูปแบบของละครเวทีอย่าง Samsung Galaxy S4 เรียกได้ว่าศึกใหญ่ในครั้งนี้หาได้เกิดขึ้นแต่ในหมู่มวลผู้ผลิตเท่านั้น หากแต่ยังตามติดมาเป็นกรรมแห่งการเลือกของมวลหมู่ผู้บริโภคอีกต่ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สองตัวที่ดูเหมือนจะเป็นที่ถกเถียงกันมากที่สุดคงหนีไม่พ้น Samsung Galaxy S4 และ THE NEW HTC ONE ที่เรียกได้ว่าลอยลำเข้าวินเตรียมชิงลูกค้ากันเองในช่วงต้นถึงกลางปี 2556 นี้ในตลาดแอนดรอยด์ไปอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ในฐานะผู้บริโภคอย่างเราแล้วคงตัดสินใจยากน่าดูว่าจะลงเอยกับใครดี วันนี้ APPDISQUS มีบทความแปลดีๆ จากเว็บไซต์ AndroidCentral มาให้ได้ติดตามกัน ใครสนใจเชิญไปหาคำตอบด้วยกันว่า “Samsung Galaxy S4 หรือ THE NEW HTC ONE ฉันควรเอาอะไรดี?!!!”
[divider]
จะ Samsung Galaxy S4 หรือ HTC ONE ดี?
การต้องตัดสินใจเลือกระหว่าง HTC ONE และ Galaxy S4 นั้นถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับใครหลายๆ คน
สังเวียนเดือดสำหรับมือถือสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่ฮอตที่สุดในปี 2013 นี้ถูกขีดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็เป็นสังเวียรระหว่างสองรุ่นมือถือที่ยังไม่ค่อยจะมีใครได้มีโอกาสแตะมันเลยสักครั้งเดียว สองรุ่นที่ว่านั้นก็คือ HTC ONE และ Samsung Galaxy S4 นั่นเอง ในส่วนของ HTC ONE นั้นตอนนี้ได้เปิดจำหน่ายแล้วบางพื้นที่ในแถบยุโรป สำหรับเรา (Android Central) แล้ว ในตอนนี้เรากำลังรอการประกาศจากค่ายผู้ให้บริการมือถืออยู่ว่าใครจะเอามือถือที่ว่าทั้งสองตัวนี้เข้ามาจำหน่ายในอเมริกา
ถึงตอนนี้เราใช้ HTC ONE มาได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว (อันที่จริงต้องบอกว่าผมใช้เจ้านี่เป็นเครื่องหลักเลยล่ะครับ) และเรายังมีโอกาสได้ใช้เวลากับ Samsung Galaxy S4 ไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาที่มหานครนิวยอร์กด้วย และเราก็ได้จับเอามือถือทั้งสองตัวนี้มาเปรียบเทียบกันอย่างตรงๆ
รู้อะไรไหมครับ? ผมบอกได้เลยว่านี่จะเป็นการตัดสินใจที่ยากมากๆ สำหรับพวกคุณ
อ่านต่อไปนะครับเพื่อพบกับบทสรุประหว่างการประชันหน้ากันของ Samsung Galaxy S4 และ HTC ONE
[box_light]วิดีโอเปรียบเทียบระหว่าง HTC ONE และ Samsung Galaxy S4[/box_light]
[box_light]ภาคฮาร์ดแวร์[/box_light]
ความเจิดจรัสของทั้งสองผู้ผลิตอยู่ตรงนี้ครับ HTC นั้นเลือกใช้อลูมิเนียม (เกือบจะ) ล้วนทั้งตัวใน HTC ONE ส่วน Samsung ใช้วัสดุที่ให้อารมณ์เหมือนพลาสติกแบบรุ่นเดิม (เขาบอกว่าเป็นโพลีคาร์บอเนต) ซึ่งทั้งคู่ก็มีข้อดีเป็นของตัวเอง โดยสำหรับ HTC ONE นั้นแน่นอนว่าให้อารมณ์สัมผัสที่ดูล้ำกว่าเพราะตัวเครืองยูนิบอดี้อลูมิเนียมล้วนนั้นมันต้องให้อารมณ์นั้นอยู่แล้ว ส่วน Galaxy S4 นั้นอาจดูไม่ค่อยเด่นในด้านของการออกแบบดีไซน์มากนัก (มองดูใกล้ๆ จะเห็นว่าส่วนโค้งของมันหายไปเล็กน้อยจากรุ่น Galaxy S3) แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันดูไม่ดีนะครับ ขนาดของมันก็แทบจะเท่ากับ Galaxy S3 เด๊ะๆ เพราะอย่างนั้นมันเลยให้อารมณ์ความรู้สึกเดิมๆ ที่คุ้นเคยได้พอสมควรเลย หากจะลองเปรียบเทียบกันในมุมของมือถือที่ออกจำหน่ายในวงกว้างตอนนี้แล้วก็คงอารมณ์แตกเหมือนอย่าง Droid DNA ของ Verizon (หรือ HTC J BUTTERFLY – HTC BUTTERFLY ในบ้านเรานั่นล่ะครับ – Alex) เทียบกับ Galaxy S3 ที่ดูเป็นเหลี่ยมขึ้นเล็กน้อยนั่นล่ะ
ข้อถกเถียงกันในเรื่องที่ว่าระหว่างผิวโลหะและผิวพาสติกนั้นอะไรดีกว่ากันคงไม่สิ้นสุดลงในเร็ววันนี้แน่ครับ และนั่นก็ถือเป็นเรื่องดีด้วย HTC ทำได้น่าทึ่งมากในเรื่องของการออกแบบ HTC ONE และผมก็ชอบมันมากด้วยสิ (แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังคิดว่ามันสูงเกินรสนิยมผมไปหน่อย) ในขณะที่ Samsung นั้นทำได้ดีอยู่แล้วในการออกแบบ Galaxy S3 และเมื่อมาเป็น Galaxy S4 ก็ไม่ได้สร้างความตื่นตะลึงอะไรมากมายนัก เพราะงั้นการจะฟันธงว่าคำตอบไหนใช่หรือคำตอบไหนไม่ใช่คงไม่มีให้เห็นนอกจากจะบอกว่าลองมันดูทั้งสองเครื่องครับ หากตัวใดตัวหนึ่งให้ความรู้สึกที่ดีกว่าสำหรับคุณก็ตกลงปลงใจไปกับตัวนั้นซะ
ผมยังชอบการจัดเรียงปุ่มของ Galaxy S4 มากกว่าอยู่นะครับ หากคุณเห็นว่าเจ้าปุ่มโฮมเป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งผมก็คิดว่ามันจำเป็นกับสมาร์ทโฟนทุกตัวในโลกใบนี้ ปุ่มโฮมที่ว่าก็ต้องจัดเรียงอยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างปุ่มอื่นๆ มันเป็นปุ่มที่ต้องใช้งานมากที่สุดบนมือถือเลยก็ว่าได้ (บางทีอาจจะรองจากปุ่มปิดเครื่องนะ) และมันจำเป็นต้องอยู่กึ่งกลางของโทรศัพท์เท่านั้น Samsung ยังคงมีปุ่มเมนูอยู่เหมือนเดิม ซึ่งผมไม่ค่อยคลั่งไคล้ปุ่มนี้สักเท่าไหร่นักอยู่แล้ว กูเกิลเองครั้งหนึ่งก็เคยบอกให้นักพัฒนาแอพพลิเคชั่นเลิกพัฒนาแอพออกมาโดยคำนึงถึงการใช้งานปุ่มเมนูเสียที แต่ถึงจะว่าอย่างนั้นผมก็ยังเป็นคนยึดติดกับความเป็นจริงอยู่เหมือนกัน ต้องยอมรับว่ายังมีนักพัฒนาอีกหลายๆ คนที่ยังไม่อัพเดตแอพพลิเคชั่นของตนให้เข้าแก๊บตามแบบที่กูเกิลว่าไว้ เพราะงั้นการมีปุ่มเมนูจึงให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีได้มากกว่าแถบสีดำใหญ่ๆ ที่ด้านล่างสุดของหน้าจอแอพพลิคเชั่นบนมือถือจากค่าย HTC อยู่แล้ว โดยทั้งปุ่มเมนูและปุ่มถอยกลับบน Galaxy S4 นั้นจะหายไปเองโดยอัตโนมัติหากไม่มีความจำเป็นต้องใช้ ส่วนนี้ถือว่าออกแบบมาได้ดีจริงๆ
มาว่ากันถึงหน้าจอซึ่งผมค่อยข้างประทับใจกับทั้งสองตัวบ้าง เราต้องขอเวลาอยู่กับ Galaxy S4 มากกว่านี้ถึงจะตอบฟันธงได้อย่างมั่นใจ 100% และตอนนี้ผมเองก็ชอบหน้าจอ Super LCD ที่ HTC ใช้มากกว่า Super AMOLED ที่ Samsung ใช้ด้วยสิ แต่ยิ่งมีจำนวนพิกเซลมากก็ยิ่งน่าจะดีกว่าจริงไหม และในเมื่อทั้งสองหน้าจอเป็นหน้าจอแบบ 1080p ทั้งคู่จึงดูสวยงามมากอยู่แล้ว อย่างน้อยก็เมื่อมองผ่านๆ น่ะนะ แต่มันคงน่าสนใจกกว่ากับการมารอดูกันว่า “หน้าจอที่ได้รับการประยุกต์ปรับปรุงของ Samsung” นั้นจะสร้างความแตกต่างให้กับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้มากแค่ไหนกัน
เรายังต้องการเวลามากกว่านี้ก่อนจะสามารถเจาะลงไปที่ประเด็นในเรื่องของสมรรถนะการทำงานของตัวฮาร์ดแวร์ได้อย่างเที่ยงตรง แต่มือถือทั้งสองตัวก็ดูเหมือนจะมีสเป็คภายในที่ใกล้เคียงกันมาก เอ่อ…จริงๆ แล้วมันก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าคุณซื้อเครื่องจากที่ไหนด้วย เพราะ Galaxy S4 บางรุ่นจะใช้ซีพียู Snapdragon 600 ของ Qualcomm เช่นเดียวกับ HTC ONE ในขณะที่บางที่จะใช้ Exynos 5 ของ Samsung เอง ซึ่งไวได้ถึง 8 คอร์เลยทีเดียว เราคงต้องรอติดตามกันต่อไปแล้วล่ะครับ (อีกอย่างคือซอฟท์แวร์ที่เราใช้บนเครื่องทดลองของ Galaxy S4 นั้นอยู่ในช่วงต้นของการพัฒนาเท่านั้น ถือว่าเสร็จสมบูรณ์แล้วน้อยกว่า HTC ONE)
อีกอย่างที่ควรจะพูดถึงคือ Galaxy S4 มาพร้อมแบตเตอร์รี่แบบถอดเปลี่ยนได้และช่องเสียบไมโครเอสดีการ์ด หากสองสิ่งนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคุณ ตัวคุณเองก็น่าจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ
[box_light]ภาคซอฟท์แวร์[/box_light]
หากเราต้องให้คำนิยามปรัชญาด้านซอฟท์แวร์ของ HTC และ Samsung ภายในประโยคเดียวแล้วล่ะก็ เราคงต้องบอกว่า HTC นั้นมุ่งเน้นเรื่องการออกแบบ ในขณะที่ Samsung ขนเอาฟีเจอร์มาเยอะกว่า นั่นหมายความว่า UI “TouchWiz” ของ Samsung ยังคงพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังไม่ใช่ UI ตัวโปรดของผมอยู่ดี (ผมเป็นคนชอบอะไรพื้นๆ) แต่มันก็ถือว่าค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ ล่ะ ผมยังต้องขอใช้เวลาเพิ่มมากว่านี้กับ Galaxy S4 แต่ในตอนนี้ผมคิดว่า TouchWiz เองนั้นดูเข้าถึงยากไปหน่อยสำหรับคนทั่วไป ยังไงซะเราจะได้เห็นอะไรชัดเจนกว่านี้ในประเด็นที่ว่าเมื่อเราได้มีโอกาสเอาเจ้านี่มาใช้งานจริง
กระสุนนัดสำคัญของ HTC ONE จาก HTC คือเรื่องกล้อง (ที่อัดมาพร้อมทั้ง UltraPixels, Zoes และยังมี Video Highlights อีก) เรื่องระบบเสียง BoomSound (ซึ่งเป็นการประกอบรวมกันของลำโพงคู่หน้าที่ยอดเยี่ยมากและ Beats Audio รวมไปจนถึงทวีคอื่นๆ) และ BlinkFeed (ที่จะรายงานข่าวและความเคลื่อนไหวในสังคมออนไลน์บนหน้าโฮมสกรีนของคุณ) สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นจุดขายสำคัญของทาง HTC ในขณะที่ฟีเจอร์ใหม่ของ Samsung บน Galaxy S4 นั้นอาจไม่มีชื่อที่ดูเหมาะจะทำการตลาดมากนัก แต่ก็อัดแน่นไปด้วยของมีประโยชน์มากกว่าจนเรียกได้ว่าล้นหลามเลยทีเดียว (Alex: แนะนำให้อ่านไทม์ไลน์การเปิดตัว Galaxy S4 ที่ APPDISQUS เคยสรุปไปก่อนหน้านี้เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นครับ)
HTC กับ Samsung เองก็มีอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่คาบเกี่ยวกันบ้างเหมือนกันครับ ในขณะที่ Video Higlights ของ HTC นั้นจะนำเอารูปถ่ายของคุณมาสร้างเป็นหนังสั้นเก๋ๆ โดยอัตโนมัติ Samsung เองก็มีฟีเจอร์หนึ่งที่ทำได้เหมือนกันภายใต้ชื่อ “Story Album” ส่วนฟีเจอร์อย่าง BlinkFeed ใน HTC เองก็สามารถหาแอพพลิเคชั่นเสริมเช่น Flipboard มาแทนได้ง่ายๆ แต่ในส่วนของ BoomSound นั้นเป็นเรื่องของฮาร์ดแวร์มากกว่าซอฟท์แวร์ เพราะฉะนั้นต้องถือว่า HTC ONE ชนะขาดในเรื่องของลำโพงคู่หน้านั้น
Samsung เองพกเอาฟีเจอร์ที่เป็นกิมมิคมามากกว่า แต่ถึงจะว่ากิมมิคแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าไม่น่าสนใจนะครับ ทั้ง “Air Hover” และ “Air Gesture” ซึ่งเอื้อให้คุณสามารถวางนิ้วเหนือจอในจุดที่ต้องการเพื่อพรีวิวดูส่วนที่เลือกเหล่านั้นโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอและเลื่อนนิ้วไปมาเพื่อสกรอล์หน้าจอหรือสั่งคำสั่งอะไรสักอย่างลงไปได้นั้นอย่างน้อยๆ ก็ของเล่นที่สนุกดีและมันอาจถึงขั้นเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้งานมือถือของคุณไปโดยสิ้นเชิงเลยก็ได้ ก่อนหน้านี้ Sony เองก็เคยมีการทดสอบฟีเจอร์นี้แล้วเหมือนกัน แต่ Samsung คือคนแรกที่นำมันมาป้อนให้กับตลาดในวงกว้างอย่างแท้จริง เช่นเดียวกับ “S Health” ที่ใน Galaxy S4 นั้นดึงเอาความสามารถของแอพพลิเคชั่นอย่าง Endomondo หรือ Run Keeper มาผนวกรวมไว้ให้ใน TouchWiz อย่างเสร็จสรรพเพื่อให้คุณได้ตรวจสอบกิจวัตรประจำวันของคุณได้ นอกจากนี้มันยังมาพร้อมอุปกรณ์เสริมสำหรับ S Health เองที่จะทำให้คุณเหมือนมีอุปกรณ์สำคัญในการออกกำลังกายทั้งหมดรวมอยู่เป็นส่วนหนึ่งในมือถือของคุณ
หรือจะมองในมุมนี้ก็ได้ ทางด้านซอฟท์แวร์แล้ว Samsung และ HTC กำลังพยายามทำสิ่งเดียวกันเพราะผู้ใช้งานมือถือปกติทั่วไปอย่างคุณและผมคงไม่คัสตอมไมซ์โทรศัพท์ของตัวเองสักเท่าไหร่นัก เพราะงั้น HTC เลยจับเอา BlinkFeed สำหรับการรายงานข่าวความเคลื่อนไหวและอัพเดตสถานะล่าสุดบนโซเชียลเน็ตเวิร์คยัดเข้ามาในตัวเครื่องเสียเลย และทั้ง HTC ONE และ Galaxy S4 จะช่วยคุณในเรื่องของการจัดการไฟล์รูปภาพ แต่ Galaxy S4 นั้นมีอะไรสนุกๆ ให้ทำมากกว่าเยอะและยังถือว่าก้าวล้ำไปอีกปีแสงในการทำโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและประยุกต์ให้มันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคุณได้ โทรศัพท์เหล่านี้ถูกเรียกว่า “เพื่อนคู่ชีวิต (Life Companion)” และมันน่าจะเป็นอย่างที่ถูกเรียกได้จริงๆ ในยุคปัจจุบันนี้
[box_light]บทสรุป[/box_light]
เราจะไม่สรุปข้อถกเถียงที่ว่านี้ในวันนี้ และความจริงก็ยังคงเหมือนเดิมคือยังมีคนอีกจำนวนหนึ่งที่อยู่ข้าง Samsung และคนอีกจำนวนหนึ่งที่เลือกอยู่ข้าง HTC ซึ่งนั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เจ๋งอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่เราได้สัมผัสมาจนถึงตอนนี้คือสองสมาร์ทโฟนจากแอนดรอยด์ที่ดีจริงๆ แต่เราก็ยังไม่สามารถที่จะหาซื้อได้ทั้งคู่ และสำหรับชาว HTC (รวมถึงค่ายอื่นๆ) ทั้งหลายที่รอจะติกกล่นด่า Samsung กันไปก่อนนั้น เชื่อเถอะว่าไม่มีประโยชน์อะไรหรอกจนกว่าเราจะสามารถซื้อโทรศัพท์สักเครื่องมาใช้งานได้จริงก่อน
ไม่ว่าจะเป็นตัวไหนก็ไม่น่าจะเป็นตัวเลือกที่ทำให้คุณผิดหวังได้เพราะทั้งคู่ต่างก็มีข้อดีของตัวมันเอง หลายสิ่งหลายประเด็นจบได้ตรงความชอบส่วนบุคคล และก็ไม่ถือเป็นเรื่องผิดอะไรด้วย ไม่ว่าจะเป็นพลาสติกหรือโลหะ จะ TouchWiz หรือ Sense หรือกล้องดีๆ พร้อมฟีเจอร์มากมาย หรือจะเป็นกล้องดีๆ พร้อมฟีเจอร์ที่แตกต่าง ไม่มีอะไรเป็นตัวเลือกที่ผิดทั้งนั้น
และนี่ย่อมไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายสำหรับคุณอย่างแน่นอน
[divider]
เอาล่ะสิ แม้แต่สื่อต่างประเทศที่ได้จับทั้งสองตัวมาแล้วยังทำใจตัดสินลำบากว่าใครจะเป็นผู้ชนะสำหรับศึกใหญ่แห่งวงการแอนดรอนด์ในครั้งนี้ไป เห็นที APPDISQUS คงต้องฝากเพื่อนๆ ให้ช่วยกันเสนอความเห็นกันแล้วล่ะครับว่าสำหรับเพื่อนๆ แล้วใครคือฝ่ายชนะ แต่ไม่ว่าจะฝ่ายไหน โปรดจำไว้ว่าการตัดสินใจในครั้งนี้ของเพื่อนๆ นั้นมาจากการที่ “ยัง” ไม่เคยได้ใช้มือถือตัวใดตัวหนึ่งจริงๆ เลยสักครั้ง ดังนั้นหากอดใจไว้สักนิด รอวันที่มันออกขายและได้ทดลองจริงแล้วค่อยตัดสินใจก็คงยังไม่สาย APPDISQUS รับประกัน!
ที่มา – Android Central