ตั้งแต่ที่ค่าย Vivid Games ประกาศเปิดตัวเกม Godfire : Rise of the Prometheus เมื่อปลายปีที่แล้ว APPDISQUS เองก็เฝ้าติดตามโปรเจ็คเกมนี้มาอย่างใกล้ชิด ด้วยเนื้อหา เกมเพลย์ และรายละเอียดหลายๆ อย่างของ Godfire : Rise of the Prometheus ที่ทำให้เราคิดไปถึงเกมชื่อดังบนคอนโซล Sony อย่าง God of War นี้เองที่ทำให้เราตื่นเต้นกับการรอคอยในครั้งนี้ และเมื่อเรามีโอกาสได้เล่นจริง Godfire จะสามารถทำให้เราพอใจตามที่หวังเอาไว้ได้หรือไม่ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ มาหาคำตอบร่วมกัน
เนื้อเรื่อง (Story)
คุณรับบทเป็น Prometheus ผู้ซึ่งต้องต่อกรเพื่อแย่งชิงผลึก Godfire Spark มาจาก Zeus ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ เพื่อหลอมรวมเอาร่างกายและจิตวิญญาณของเหล่ามนุษย์ที่เกิดมาจากคราบน้ำตาและฝุ่นละอองให้ละซึ่งความกลัวให้จงได้ ในขณะเดียวกันคุณก็ต้องหาคำตอบให้ได้ว่าหญิงสาวหลังหน้ากากอันน่ากลัวที่คอยปั่นประสาทของคุณอยู่ตลอดเวลานั้นคือใคร และลุยฟันฝ่าเหล่าสมุนชั่วร้ายของ Zeus ให้ราบเป็นหน้ากลอง
กราฟิกและเกมเพลย์ (Graphic and Gameplay)
Godfire : Rise of the Prometheus ฉายแววเด่นงานกราฟิกตั้งแต่วินาทีแรกที่เปิดเกม โดยเป็นเกมที่เก็บรายละเอียดงานด้านกราฟิกได้อย่างครบถ้วนและสวยงามตั้งแต่ฉากคัตซีนจนถึงฉากเกมเพลย์ และถึงแม้ว่ากราฟิกจะสวยงามขนาดนี้ ตัวเกมก็ไม่ได้แสดงอาการกระตุกให้เห็นมากนักบน iPhone 5S อาจจะมีบ้างบางครั้งก็ในฉากที่ต้องมีการเปลี่ยนฉากหรือเปลี่ยนแผนที่ ที่อาจพบอาการโหลดช้าจนทำให้ผู้เล่นต้องรอจนขาดความต่อเนื่องในการเล่นไป
จอยเหมือนจริงบนหน้าจอที่เอาไว้สัมผัสมีปุ่มครบถ้วนตามที่ควรจะเป็น หากแต่การจัดวางปุ่มกดยังทำให้การเล่นเป็นไปได้อย่างไม่ลื่นไหลนัก บ่อยครั้งที่การควบคุมผ่านจอยเสมือนจริงไม่ตอบสนองต่อการสัมผัสเท่าที่ควรจนทำให้สะดุดอารมณ์ หรืออาจถึงขั้นผิดจังหวะนการโจมตีหรือป้องกันไปเลย อย่างไรก็ตามปัญหานี้ลดน้อยลงมากถึงแทบจะไม่เกิดขึ้นเลยเมื่อเชื่อมต่อ iPhone 5s ของผมเข้ากับจอย MFi จริงๆ อย่าง Moga Ace Power ซึ่งทำให้การเล่นเกมเป็นไปอย่างราบลื่นขึ้นเยอะ
ศัตรูภายในเกมนั้นข้อนข้างจะซ้ำซากไปสักนิด ทำให้เมื่อเล่นไปเรื่อยๆ จะเริ่มจับทางการโจมตีและการป้องกันได้ จนเมื่อนานเข้าอาจทำให้ตัวเกมกลายเป็นเกมที่เล่นง่ายขึ้นกว่าในช่วงแรกอีกเยอะ และเริ่มบั่นทอนความน่าสนใจของเกมลงไปไม่มากก็น้อย
จุดเด่นจริงๆ ของเกมนั้นอยู่ตรงบอสไฟท์ที่ทำการออกแบบหัวหน้าแต่ละสเตจของมันได้อย่างดีงาม รายละเอียดสูง สนุก กระบวนท่ามากจนต้องสู้กันเหนื่อยแบบจ้าระหวั่นด้วยท่าต่างๆ ที่ฝึกฝนมาตั้งแต่ต้นจนหมดแทบทุกกระบวนท่า ซึ่งนั่นถือเป็นยาประสานเพิ่มความสนุกให้กับตัวเกมได้อย่างดีทีเดียว
ตัวเกมมีให้ผู้เล่นได้แก้ไขปริศนาเพื่อไขกุญแจผ่านทางไปต่ออยู่ตลอดเวลา แต่น่าเสียดายที่ปริศนาส่วนใหญ่นั้นช่างง่ายดายเพียงการกระดิกปลายนิ้วโดยไม่ต้องใข้หัวคิดอะไรเลยสักนิด ด้วยเหตุนี้ผมจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าปริศนาพวกนั้นจะใส่มาเพื่ออะไรกัน
Godfire : Rise of the Prometheus นั้นเป็นหนึ่งในเกมพรีเมี่ยมที่เลือกทางเดินด้วยการขาย IAP (In App Purchase) ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่ไม่ค่อยสวยงามนักสำหรับตัวเกมที่จำหน่ายเป็นเงินจริงและมีมูลค่าอยู่แล้ว แต่ถึงจะพูดแบบนั้นคุณก็ไม่จำเป็นต้องซื้อ IAP เพื่อผ่านด่านหรือจบเกมแต่อย่างใด มันมีมาเพื่อเป็นตัวช่วยให้การเล่นเกมของคุณง่ายขึ้นเท่านั้น เพราะการอัพเกรดอาวุธและสกิลต่างๆ ของคุณก็คือหนึ่งในหัวใจหลักของเกมเช่นเดียวกัน
บทสรุป (Verdict)
ถึงแม้ว่า Godfire : Rise of the Prometheus จะไม่สามารถสร้างความสนุกให้กับผู้เล่นได้ในระดับสุดยอดเกมคอนโซลในตำนานอย่าง God of War ที่ถูกวางตัวไว้เพื่อเปรียบเทียบไว้มาตั้งแต่ต้น อาจด้วยเพราะปัจจัยและข้อกำหนดหลายๆ อย่างที่ไม่ค่อยจะเอื้ออำนวยให้มันไปถึงจุดๆ นั้นได้ แต่ในฐานะของเกมมือถือแล้ว Godfire : Rise of the Prometheus ก็ยังถือเป็นเกมที่ให้ความสนุกสนานกับผู้เล่นได้ไม่น้อยจนต้องกลับมาเล่นต่อเรื่อยๆ ยามที่มีเวลา แน่นอนว่าหากคุณกำลังมองหาเกมแอ๊คชั่นชั้นดีคุณภาพระดับคอนโซลอยู่ Godfire : Rise of the Prometheus อาจไม่ตอบสนองจุดนั้นสำหรับคุณ แต่หากสิ่งที่คุณมองหาคือเกมที่สามารถตอบสนองประสบการณ์ Mobile Gaming ของคุณได้อย่างไม่น้อยหน้าเกมไหนๆ แล้ว Godfire : Rise of the Prometheus ถือเป็นเกมที่ไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว
เพื่อนๆ ได้ลองเล่น Godfire : Rise of the Prometheus กันแล้วยังครับ หากเล่นแล้วคิดเห็นอย่างไร อย่าลืมแชร์ความคิดเห็นกันไว้ที่ท้ายรีวิวเลยนะครับ
[gradeB]