ผู้ให้บริการด้านการตลาดออนไลน์
ในขณะที่แพลตฟอร์ม Marketing Automation จากต่างประเทศยังไม่ตอบโจทย์ธุ
นายกัมพล ธนาปัญญาวรคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท ไอท้อปพลัส จำกัด เปิดเผยว่า จากสถิติของประเทศไทยโดยสมาคมโฆษณาดิจิทัล ในปี 2561มีการทำการตลาดผ่านสื่อดิจิทัล มูลค่าราว 17,000 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมา 36% และยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 20% ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า และจากแนวโน้มทั่วโลกพบว่ามีกลุ่มธุรกิจที่หันมาทำการตลาดด้วยตัวเองเพิ่มขึ้น ทำให้แพลตฟอร์มด้าน Marketing Automation เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีการสำรวจจากเว็บไซต์MarketingandMarkets.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์วิจัยด้านสื่อได้คาดการณ์ว่าปี 2562 มูลค่าตลาดของ Marketing Automation แพลตฟอร์มทั่วโลกจะมีมูลค่าถึง 5.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.7 แสนล้านบาท
“จากแนวโน้มดังกล่าว เราเชื่อว่าการตลาดทำผ่านระบบอัตโนมัติจะกลายเป็นอนาคตของการทำการตลาดในโลกยุคใหม่ และคาดว่าจะมีการพัฒนาแพลตฟอร์มการทำตลาดออนไลน์ หรือ Marketing Automation ในหลายประเทศมากขึ้น ซึ่งแพลตฟอร์ม Marketing Automation จะเข้ามาเป็นเครื่องมือตอบโจทย์การทำธุรกิจของผู้ประกอบการไทยให้มีศักยภาพมากขึ้น เราได้พยายามศึกษาแพลตฟอร์มในประเทศต่าง ๆ แต่กลับพบว่าแพลตฟอร์มที่มีอยู่ยังไม่สามารถตอบโจทย์กับธุรกิจไทย มีไอเดียพัฒนาแพลตฟอร์มการทำการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจไทยโดยเฉพาะ ด้วยเป้าหมายเป็นเครื่องมือทางการตลาดได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายกัมพลกล่าว นายกัมพลกล่าวต่อว่า จากแนวคิดดังกล่าว ไอท้อปพลัสจึงได้พัฒนา Marketing Automation แพลตฟอร์ม ต้นแบบของตนเองขึ้นภายใต้ชื่อ AUTODIGI ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการตลาดอัตโนมัติที่สามารถใช้งานได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง โดยสามารถวิเคราะห์แคมเปญการตลาด อีกทั้งยังมีความสามารถในการแก้ไขและให้ผลลัพธ์ทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีความปลอดภัยสูงด้านข้อมูล เนื่องจากระบบจะมีการเข้ารหัสลูกค้าทุกรายเป็นอย่างดี AUTODIGI เน้นให้บริการยังกลุ่มที่ต้องการทำการตลาดด้วยตัวเอง แต่ไม่เข้าใจ Technical มาก หรือยังขาดบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถทางเทคนิค
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการพัฒนาแพลตฟอร์ม AUTODIGI ให้สมบูรณ์แบบ ตอบโจทย์และเพิ่มศักยภาพให้ผู้ประกอบการไทยอย่างแท้จริง บริษัทฯ จึงได้ริเริ่ม โครงการ “Mission to Google Automation Platform” ด้วยการเปิดรับสมัคร ผู้ประกอบการ นักการตลาดที่มีเว็บไซต์และทำการตลาดผ่าน Google จำนวน 500 ราย จากจำนวน 33 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจที่พักและโรงแรม, เกษตรกรรม, ยานยนต์, เบเกอรี่, ก่อสร้าง, เครื่องสำอางและความงาม, เสื้อผ้า, อาหารและเครื่องดื่ม, อาหารเสริม, การแพทย์ โรงพยาบาล คลินิกและแพทย์ทางเลือก, เครื่องใช้ในบ้าน, สินค้าตกแต่งบ้าน, ของใช้สำนักงานและบ้าน, เครื่องจักร, ชิ้นส่วน อะไหล่และส่วนประกอบ, แพคเกจจิ้ง หีบห่อและบรรจุภัณฑ์, บริการเฉพาะด้าน เช่นVisa หมอดู ทนาย บัญชี, กำจัดสัตว์และแมลง, สัตว์เลี้ยง, อุปกรณ์และอาหารสัตว์เลี้ยง, การพิมพ์และออกแบบ, อสังหาริมทรัพย์, โรงเรียน กวดวิชาและสอนพิเศษ, รักษาความปลอดภัย, ของชำร่วยและของฝาก, สปา, งานบริการเกี่ยวข้องกับรัฐ, เทคโนโลยี, ท่องเที่ยว, เครื่องประดับและงานแต่งงาน, สินค้าขายส่ง, บริการทั่วไป, และเคมีภัณฑ์ มาใช้งานAUTODIGI ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย เป็นระยะเวลา 12 เดือน หรือ 1 ปี เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ และจะปิดรับสมัครทันทีเมื่อครบ 500 ราย โดยสามารถสมัครผ่าน Call center ITOPPLUSโทร. 02 029 1200 หรือ Line@ ITOPPLUS
ผู้เข้าร่วมโครงการ “Mission to Google Automation Platform” จะได้รับสิทธิพิเศษ อาทิ เข้าร่วมการอบรมสัมมนาในหัวข้อต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิธีการและเทคนิคการทำโฆษณาGoogle เช่น Google Insight การวิเคราะห์แคมเปญโฆษณา Google เชิงลึก ปรับแก้แคมเปญโฆษณา Google ให้เห็นผลและมีประสิทธิภาพ เทคนิคใหม่ และฟีเจอร์ ใหม่ ๆ ที่จะให้ทำโฆษณา Google ได้เก่งขึ้น รวมทั้งได้รับคำปรึกษาจากทีมงานคุณภาพของไอท้อปพลัส โดยเฉพาะการรับคำแนะนำเชิงรุกแบบตัวต่อตัว ตลอดจนในด้าน Technical Supportโดยไอท้อปพลัสจะสอนทางเทคนิคต่าง ๆ เช่น การติดตั้ง Google Tag Manager (GTM), Conversion Tracking และ Goal Setting เป็นการตอบแทนผู้เข้าร่วมโครงการทุกราย
“ทางไอท้อปพลัสมีความตั้งใจที่จะเป็นส่วนสำคัญในการให้ความรู้และเพิ่มศักยภาพของธุรกิจไทย ให้สามารถโฆษณาผ่าน Google ได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ และมีประสิทธิผล สามารถบริหารจัดการงบโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ได้ผลตอบรับมากขึ้น ผ่านการวัดผลที่ถูกต้อง ทั้งยังสามารถเตรียมและพัฒนาทีมงาน เพื่อรองรับการทำงานด้านการตลาดที่จะขยายตัวในอนาคต ซึ่งการใช้ Marketing Automation แพลตฟอร์ม คือข้อได้เปรียบในการเตรียมพร้อมเข้าสู่ยุค Digital Marketing แพลตฟอร์ม ได้ก่อน ทั้งนี้ ไอท้อปพลัสมีเป้าที่จะรวบรวมความต้องการในการใช้งานแพลตฟอร์มของผู้ที่สมัครเข้าร่วมโครงการ และนำความต้องการดังกล่าวไปพัฒนาแพลตฟอร์มเพิ่มเติม ให้AUTODIGI เป็นแพลตฟอร์มการตลาดอัตโนมัติในใจของทุกธุรกิจไทยในอีก 2 ปีข้างหน้า” นายกัมพลกล่าวทิ้งท้าย