หากพูดถึง Google Play Store แล้วเชื่อว่าทุกคนต้องรู้จักกันดีแน่ๆว่ามันเป็นสถานที่ที่มีแอพทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงินไว้ให้ผู้ใช้ Android ได้ดาวน์โหลดกัน ซึ่งทั้งนี้หากเป็นแอพพลิเคชั่นที่เสียเงินนั้น ปกติทาง Google ก็จะมีการกำหนดในส่วนของราคาไว้แล้วครับว่าสามารถขายได้ในราคาสูงสุดอยู่ที่เท่าไร และนั่นก็ถือเป็นเพดานราคาของแอพที่จะขายใน Play Store นั่นเองครับ พูดง่ายๆว่ามันเป็น Limit ที่ไม่สามารถขายเกินราคาที่ Google กำหนดไว้ได้นั่นเอง
และจากข้อมูลที่เราได้มาล่าสุดพบว่าทาง Google ได้มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของเพดานราคาขายแอพใน Play Store แบบเงียบๆ โดยล่าสุดนั้นพบว่าในทั่วโลกได้มีการปรับราคาให้มีเพดานที่สูงขึ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วล่ะครับ อย่างในสหรัฐอเมริกาจะสามารถขายแอพแพงที่สุดได้ถึง 400$ (ประมาณ 13,000 บาท) จากที่ก่อนหน้านี้ถูกกำหนดไว้ที่ 200$ (ประมาณ 6,500 บาท) เท่านั้น
และด้านล่างนี้เป็นเพดานราคาของประเทศต่างๆบางส่วนที่ถูกปรับเพิ่มขึ้นครับ
- สหรัฐอเมริกา – ก่อนหน้านี้ $200, เพดานราคาขณะนี้ $400
- แคนาดา – ก่อนหน้านี้ $210, เพดานราคาขณะนี้ $500
- สหราชอาณาจักร – ก่อนหน้านี้ £150, เพดานราคาขณะนี้ £300
- ประเทศที่ใช้เงินเป็นยูโร – ก่อนหน้านี้ €199, เพดานราคาขณะนี้ €350
- เม็กซิโก -ก่อนหน้านี้ MXN 2,500, เพดานราคาขณะนี้ MXN 7,500
- ออสเตรเลีย – ก่อนหน้านี้ $200, เพดานราคาขณะนี้ $550
- อินเดีย – ก่อนหน้านี้ INR 16,000, เพดานราคาขณะนี้ INR 26,000
- อินโดนีเซีย – ก่อนหน้านี้ IDR 2,200,000, เพดานราคาขณะนี้ 5,500,500
- บราซิล – ก่อนหน้านี้ BRL 500 – เพดานราคาขณะนี้ BRL 1,500
โดยปกติแล้วแทบจะไม่มีให้เห็นครับว่าแอพไหนที่จะขายในราคาที่สูงขนาดนี้ เพราะส่วนใหญ่ที่เราเห็นน่าจะเป็นแอพเกมส์ที่เป็น in-app purchase มากกว่าที่จะสามารถสูบเงินในกระเป๋าเราไปได้ขนาดนี้
ที่มา : androidpolice