ถือเป็นเรื่องน่าตกใจทุกครั้งเวลาที่เราเห็นว่าบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ของโลกนั้นต้องจ่ายค่าต๋งให้กับบริษัทอื่นๆ ในแวดวงไอทีไปแบบเปล่าๆ ปี้ๆ โดยที่บางครั้งก็เข้าใจได้ยากว่าทำไปเพื่ออะไร ยกตัวอย่างเช่นการที่มือถือ Android แต่ละเครื่องจะต้องจ่ายค่าสิทธิบัตรให้กับ Microsoft กันเป็นบ้าเป็นหลังในปัจจุบัน มาจนถึง Apple เองที่ก็หาทางเอาเงินเข้ากระเป๋าได้ง่ายๆ ด้วยการเรียกเงินจำนวนมากกว่า 3 พันล้านเหรียญดอลลาร์จาก Google ในแต่ละปีเพื่อเป็นค่าต๋งในการยอมให้บริการค้นหาจาก Google กลายมาเป็นบริการค้นหาหลักประจำเครื่อง iOS นั่นเอง
สามปีก่อนหน้านี้ตอนที่ Google จรดหมึกปากกาเซ็นสัญญาขอเป็นเอ็นจิ้นค้นหาหลักบน iOS กับ Apple นั้นราคา ณ ตอนนั้นอยู่เพียงแค่ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น ผ่านมา 3 ปีจนปัจจุบันนี้ รายได้ที่ได้จากการเรียกค่าต๋งจากทาง Google ที่ Apple ทำได้นั้นคาดกันว่าเป็นผลกำไรมากถึง 5% ของผลกำไรรวมของบริษัทประจำปี 2560 กันเลยทีเดียว
ทั้งนี้การลงทุนของ Google ก็ไม่ได้สูญเปล่าไปไหนหรอก ผลกำไรจากการค้นหาที่ Google ได้รับกว่าครึ่งนั้นมาจากผู้ใช้งานบนอุปกรณ์ของ Apple กันทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้จึงเป็นไปได้ยากที่ Google จะยอมถอนตัวออกจากพันธสัญญาดูดกินนี้ของ Apple ในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน แต่ถึงแม้ Google จะยอมกัดฟันตัดใจไม่เซ็นสัญญาต่อ เอาจริงๆ แล้วก็ต้องถามว่าผู้ใช้อย่างเราจะยอมไปใช้เอ็นจิ้นค้นหาของค่ายอื่นหรือไม่? แน่นอนว่าก็ไม่อยู่ดี เพราะในปัจจุบันนี้ Google คือเอ็นจิ้นการค้นหาที่ครองโลกไปแล้วจริงๆ ยิ่งหลังจากที่ Yahoo ถูกซื้อกิจการไปโดย Verizon และแทบไม่ได้มีการพัฒนาระบบการให้บริการค้นหาต่อแล้ว หรือ Bing เองที่ก็แทบไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรเลย ต่อให้ Google ไม่ได้เป็นเอ็นจิ้นการค้นหาหลักบนอุปกรณ์ใดๆ แน่นอนว่าผู้ใช้อย่างเราๆ ท่านๆ ก็จะหาทางนำมันกลับมาเป็นเอ็นจิ้นหลักด้วยตัวเองอยู่ดี
งานนี้จะเรียกว่า Apple กุมอำนาจการต่อรองไว้คนเดียวก็คงไม่ได้แล้วล่ะ คงต้องอยู่ที่ว่าเมื่อไหร่ที่ Google จะระเบิดความอัดอั้นมาอัดเปรี้ยงกลับบ้างเท่านั้นเอง