เมื่อ 10 ปีก่อนหน้านี้หากใครยังพอจำกันได้ที่ Google ได้ออกมาประกาศเปิดตัว Google Apps เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการใช้งานนอกเหนือจาก Microsoft Office นั้นสามารถสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดเทคโนโลยีไปได้มากพอสมควร
อีกทั้ง Industry watchers ได้ออกมากล่าวว่าการผูกขาดของ Microsoft จะลดลงไปเพราะการเข้ามาของ Google Apps ทว่าสิ่งนั้นก็ยังไม่เกิดขึ้นอย่างที่วิเคราะห์กัน จากการพยายามของ Google ที่จะทำการแบ่งส่วนทางการตลาดไปจาก Office เป็นเวลากว่า 10 ปี ทว่าสามารถทำไปได้ยังไม่ถึง 20% ของส่วนแบ่งการตลาดด้วยซ้ำ
ทว่าในตอนนี้ Google มีความพร้อมแล้วที่จะทำการแข่งขันกับ Microsoft Office และแอพลิเคชันของพวกเขาก็พร้อมแล้วกับการที่จะถูกนำไปใช้ยังองค์กรใหญ่
กลยุทธ์ของ Google Apps
- เพื่อให้มั่นใจในการทำงานของแอพลิเคชันจาก Google มีการนำเสนอคุณสมบัติของการทำงานกว่า 85-90% ของ Office
- ทั้งนี้ก็ไม่ต้องกังวลกับการทำงานส่วนที่เหลืออีก 10-15% แต่อย่างใด เนื่องจากคุณสมบัติส่วนที่เหลือจะสามารถกำหนดรูปแบบการทำงานได้จากผู้ใช้ เช่น การใช้งาน Excel
- รองรับเอกสารจาก Office ในฐานะ “พลเมืองชั้นแรก”
- ไม่พยายามโน้มน้าวให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนแปลงจาก Microsoft Office ไปใช้ Google Apps ในทางกลับกัน Google ต้องการให้พวกเขาซื้อแอพลิเคชันเพิ่มจากที่มีการใช้งาน Office อยู่แล้ว และในระยะยาวพวกเขาเชื่อว่าองค์กรจะเลือกใช้ Google Apps มากกว่า Office อย่างแน่นอนเนื่องจากต้นทุนที่ถูกกว่าและจากการใช้งานทั้ง 2 แอพลิเคชันควบคู่จะทำให้เห็นข้อเปรียบเทียบระหว่างกันได้อย่างชัดเจน
- สอนให้พวกเขากลายเป็น Power users จากการพยายามที่จะแข่งขันกับโปรแกรม Microsoft MVP เพื่อการเผยแพร่คุณสมบัติของ Google Apps
- เพื่อให้ได้ลูกค้าใหม่ๆ จากการใช้งานแอพลิเคชันอื่นๆ มีการนำเสนอการใช้งาน Google Plus ควบคู่กันไปด้วยเพื่อการสมัครเข้าเป็นสมาชิกของผู้ใช้ Google Apps นั่นเอง
- แสดงให้เห็นว่าการทำงานของ Cloud จาก Google มีส่วนช่วยเหลือให้กับผู้ใช้แอพลิเคชันผ่านมือถือสมาร์ทโฟนนี้อย่างไร ให้สิทธิ์ผู้ใช้ Android ได้รับบริการแบบพลเมืองชั้นแรก, ความปลอดภัยสูงและการจัดการที่ดีเยี่ยม ฯลฯ
ได้ยินแผนการรุกของ Google แล้วก็ได้แต่หวังว่า Microsoft เองก็คงจะมีวิธีการรับมือกับกลยุทธ์ใหม่นี้เพื่อการพยายามรักษาส่วนแบ่งการตลาดขนาดใหญ่ของตัวเองไว้ หรือแม้กระทั่งการออกมาตอบโต้ด้วยผลิตภัณฑ์และการตลาดรูปแบบใหม่ เพื่อที่จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้อย่างเราต่อไป
ที่มา: Microsoft-News