กรุงเทพฯ – 20 สิงหาคม 2557 – GrabTaxi แอพพลิเคชันเรียกแท็กซี่อันดับหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ร่วมรับคำท้าภารกิจเทน้ำเย็นราดหัวเพื่อการกุศล โดยคนดังทั่วโลกได้รับคำท้าและได้เผยแพร่คลิปวิดีโอออกมาในโลกออนไลน์ กิจกรรมนี้ทำเพื่อช่วยเหลือสังคมโดยกระตุ้นให้สังคมบริจาคเงินเพื่อการกุศลต่างๆ และร่วมกันตระหนักถึงโรคเอแอลเอส หรือ โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
กิจกรรม”Ice Bucket Challenge” ได้เริ่มมาจากจากสมาคมผู้ป่วยโรคเอแอลเอส คือการท้าทายให้อีกฝ่ายยกถังน้ำเย็นที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งเทใส่ตัวเอง พร้อมทั้งถ่ายคลิปวิดีโอและโพสต์ขึ้นบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ เพื่อแสดงว่าได้ทำภารกิจตามคำท้าเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีกำหนดระยะเวลา 24 ชั่วโมงหลังจากถูกท้า แต่ถ้าไม่ทำหรือทำไม่ได้ ต้องบริจาคเงิน 100 ดอลล่าร์สหรัฐเพื่อองค์กรการกุศล และจะต้องทำการท้าทายเพื่อนอีก 3 คน ให้มารับคำท้า เพื่อนำเงินที่ได้มาเข้าองค์กรการกุศลเพื่อต่อสู้กับโรคเอแอลเอส
โดยคนดังๆ ทั่วโลก ได้รับคำท้าและทำกิจกรรมยอดฮิตนี้ เช่น จัสติน บีเบอร์, โอปราห์ วินฟรีย์, โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์, บิล เกตส์, เกว็น สเตฟานี, มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก, เทยเลอร์ สวิฟและคริสเตียโน โรนัลโด
นายฉลองชัย พลรังสรรค์ อายุ 37 ปี คนขับรถแกร็บแท็กซี่กล่าวว่า “ผมรู้สึกว่ากิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่ดี และน่าสนใจครับ เป็นกิจกรรมการกุศลที่ระดมทุนบริจาคด้วยวิธีที่แปลกใหม่ ผมรู้สึกยินดีที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ น้ำเย็นๆทำให้ผมรู้สึกสดชื่นมากครับ”
คุณวีร์ จารุนันท์ศิริ รองกรรมการผู้จัดการบริษัท แกร็บ แท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการประชาสัมพันธ์ให้คนรตระหนักถึงโรค ALS และรู้สึกยินดีที่ได้ร่วมทำประโยชน์เพื่อสังคม ตามนโยบายของทาง GrabTaxi ครับ”
รูปของคนขับรถแท็กซี่ยกถังน้ำเย็นราดทีมผู้บริหารแกร็บแท็กซี่ที่สำนักงานใหญ่แกร็บแท็กซี่ ถนน เพชรบุรี และแกร็บแท็กซี่ได้ส่งคำท้าไปถึง ดีเจ ภูมิ คุณ SoMa Som จาก Launchpad และคุณ Lennart Van der Beek รองประธานฝ่ายการตลาด อโกด้า
เกี่ยวกับแกร็บแท็กซี่
แกร็บแท็กซี่เป็นองค์กรธุรกิจเพื่อสังคม มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมแท็กซี่ ก่อตั้งโดยนักศึกษาที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ1 ในการแข่งขันประจำปีของ Harvard Business School Business Plan Contest แกร็บแท็กซี่คือนวัตกรรมใหม่แห่งการขนส่งสาธารณะ โดยเสนอระบบจ่ายงานสำหรับรถแท็กซี่โดยใช้เทคโนโลยี GPS ที่ทำให้ผู้โดยสารเรียกแท็กซี่ที่อยู่ใกล้ที่สุดได้อย่างง่ายดาย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 มีคนขับรถแท็กซีหลายหมื่นคนได้เริ่มใช้เทคโนโลยีแกร็บแท็กซี่บนสมาร์ทโฟนเพื่อรับการเรียกแท็กซี่ที่อยู่ในเมืองต่างๆที่อยู่ในพื้นที่ให้บริการของเราในประเทศ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทยและเวียดนาม GrabTaxi ได้กลายมาเป็นผู้นำของตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยจำนวนดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นกว่า 1.5 ล้านครั้งและจำนวนผู้ใช้กว่า 275,000 คนต่อเดือน ผู้โดยสารสามารถเรียกแท็กซี่ผ่านสมาร์ทโฟนและ แท็บเล็ท (iOS: http://bit.ly/grabtaxi-iOS, Android: http://bit.ly/grabtaxi-Android and Windows: http://bit.ly/grabtaxi-Window) แกร็บแท็กซี่เชื่อว่าธุรกิจและคุณค่าทางสังคมสามารถทำร่วมกันแบบคู่ขนานได้และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถพัฒนาเปลี่ยนแปลงระบบขนส่งสาธารณะในประเทศไทยได้ ทำให้มีความสะดวกสบาย ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการเรียกแท็กซี่ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าไปได้ที่ http://www.grabtaxi.com.