Max m2 และ Max Pro m2 ถ้า Asus ปล่อยมือถือรุ่นไหนออกมาในชื่อของ “Max” แล้วละก็ ให้รู้ไว้เลยครับว่า มันคือมือถือที่จะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่แน่นอนครับ
จุดขายหลักของสมาร์ทโฟนในซีรีย์นี้คือความอึดของพลังงานที่เกินจะพอสำหรับการใช้งานในแต่ละวันของเราได้เต็มพิกัด ซึ่งในแต่ละปีก็มีการพัฒนาสเปค ระบบภายใน และรูปทรงภายนอกมาใหม่ ภายใต้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและรูปทรงที่สวยกว่าเดิมครับ และล่าสดกับ ASUS Max m2 และ Max Pro m2 เราจะดูไม่ออกเลยว่า นี่มันเป็นสมาร์ทโฟนที่ทีแบตเตอรี่ใหญ่ขนาด 4,000 mAh และ 5,000 mAh ใส่ไว้อยู่ภายใน
ก็เพราะขนาดของพวกมันไม่ต่างไปจากสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นตามปกติเลยนั้นเองครับ
ASUS Max m2 และ Max Pro m2 มีความต่างของภายนอกชัดเจนครับ ตัว Pro จะมีความหรูหรากว่าด้วยวัสดุกระจกและขอบเครื่องโค้ง 2.5D ด้านหลัง ส่วน Max m2 อาจจะดูทนไม้ทนมือกว่าด้วยฝาหลังผิวสัมผัสโลหะ เรียบๆ
โดยสเปคทั้งคู่มีดังนี้ครับ
Asus Zenfone Max m2
- หน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด HD+
- Snapdragon 632
- กล้องหน้าความละเอียด 13 MP
- กล้องหลังคู่ความละเอียด 8 + 2 MP
- RAM : 4 GB
- ROM : 32/64 GB
- แบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh
- Android 8.1 OREO
Asus Zenfine Max Pro m2
- หน้าจอ 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ใช้จอ Gorilla Glass 6
- ด้านหลังเครื่องเป็นกระจก Glossy
- Snapdragon 660
- กล้องหน้าความละเอียด 13 MP
- กล้องหลังคู่ความละเอียด 12 + 5 MP
- แรม 4/6 GB
- รอม64 GB
- แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh
- Android 8.1 OREO
จากการทดสอบใช้งานของเครื่องทั้งสองรุ่น ก็ให้ความรู้สึกระดับเดียวกันครับ แม้สเปคเครื่องจะต่างกันในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ค่อยจะรู้สึกห่างกันนักครับ โดยตัว Pro จะให้เสปคที่สูงกว่าเล็กน้อย ด้วยหน่วยประมวลผล Snapdragon 660 แต่สำหรับตัว m2 ธรรมดาจะให้มาเป็น Snapdragon 632 ครับ แรมเริ่มที่ 4GB และหน่วยความจำสูงสุดของทั้งคู่นั้นคือ 64GB สเปคเครื่องระดับนี้ก็นับเป็นเครื่องสมาร์ทโฟนในระดับกลางบน แต่ทาง Asus ประกาศขายในราคาที่ถูกกว่าประสิทธิภาพของมันครับ ทำให้น่าสนใจ
โดยจะมีจุดที่คุ้มทุนไปมากกว่าเดิมก็คือเรื่องของงานดีไซน์และงานประกอบเครื่อง ต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้เครื่องราคาไม่กี่พัน ก็สร้างความหรูหราได้แล้วครับ ซึ่งทั้งสองรุ่นก็หน้าตาดีกันทั้งคู่เลยทีเดียว
รองรับการสแกนลายนิ้วมือและสแกนใบหน้า รอบรับสองซิมการ์ดพร้อมช่องใส่ Micro SD card รวมทั้งสิ้นเป็นสามสล็อต Dual 4 G หรือเชื่อมต่อสัญญาณ 4G ได้ทั้งสองซิม
มาพร้อมกล้องหลังคู่ทั้งสองรุ่น ฟังก์ชั่นกล้องออกแบบมาได้ดี มีโหมดถ่ายบุคคลละลายหลัง แถมกล้องก็มีความฉลาดและความคมในการถ่ายภาพด้วยนะครับ ถ่ายภาพได้ง่าย ภาพดีในตอนแสงกลางวัน กลางคืนอาจจะสู้กล้องรุ่นใหญ่ไม่ไหว แต่ก็อยู่ในระดับคุ้มราคาเลยนะครับ
ตัวอย่างภาพถ่าย
พอร์ตชาร์จใต้เครื่องยังเป็น Micro USB ภายในกล่องมีมาให้ทั้งเคสใส หูฟัง ที่ชาร์จและสาย ซึ่งจุดอ่อนของเครื่องสองรุ่นนี้ก็มาจากจุดแข็งด้วยเช่นกันครับ ด้วยเพราะว่าแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ของมัน จำเป็นต้องใช้เวลาในการาร์จแบตจนเต็มร่วมๆ เกือบสองชั่วโมงเลยทีเดียว เพราะระบบการชาร์จไฟไม่ได้เป็นแบบชาร์จไวอะไรที่จะเร็วมากมายครับ มันจึงใช้เวลาในการเติมไฟค่อนข้างนานกว่าชาวบ้านนั้นเอง
การใช้งานเช่นดูหนัง เข้าเว็บไซท์ และการใช้งานทั่วไปผมการันตีว่าแรงเพียงพอสบายๆ ครับ ส่วนสำหรับการเล่นเกมมันอาจจะไม่เต็มที่ 100% กับเกมใหญ่ที่ต้องการประสิทธิภาพการประมวลผลสูง ตัวนี้พอเล่นได้ ไม่แลคชัดเจนจนหงุดหงิด ผมว่าเหมาะนะที่จะหามาให้ลูกใช้ ไว้เล่นเกม ติดต่อสื่อสาร เพราะแบตเตอรี่อยู่ได้ยาวนานไม่ขาดการติดต่อครับ จะใช้งานให้แบตหมดได้ในวันเดียว ต้องใช้งานหนักมากจริงๆ
ราคาของเครื่องทั้งสองรุ่นถือว่าไม่แพงครับ ค่อนข้างถูก ตัวเครื่องสวยดีเมื่อดูจากมาตรฐานรุ่นอื่นๆ ในตลาดที่ราคาใกล้เคียงกัน
ประสิทธิภาพเพียงพอใช้งานทั่วไปจนถึงใช้เล่นเกมแก้เบื่อ มีจุดเด่นที่แบตเตอรี่ใหญ่เลยอึดมาก อยู่กับเราได้ข้ามวันสบายๆ ข้อเสียยังไม่เจออะไรชัดเจนนอกจากการชาร์จไฟที่ต้องใช้เวลานานสักหน่อยกว่าเต็มเท่านั้นเอง
โดยรวมสรุป เป็นสองรุ่นที่คุ้ม ซื้อได้เลย โดยเฉพาะอยากได้เครื่องราคาไม่แพงที่แบตเตอรี่ทน อยู่กับเราให้ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน