XIAOMI MI MIX 3 ตัวนี้หรูครับ ผมรู้สึกว่าในด้านความหรูหรา ดูราคาแพง ของเครื่องนี้ จะดูดีที่สุดของเครื่อง Xiaomi ตั้งแต่จับมาเลย ด้วยน้ำหนักตัวเครื่อง หรือความหนา ไม่ว่าจะจงใจหรือไม่จงใจ เจ้าตัว Mi Mix 3 ก็รู้สึกดีเวลาถือใช้งานครับ
ต้องบอกก่อนเลยว่า ภายนอกของ Mi Mix 3 เป็นเครื่องที่ค่อนข้างจะหนาครับ อาจจะเพราะด้วย Mi Mix 3 เป็นเครื่องที่ซ่อนกลไกพิเศษไม่เหมือนเครื่องไหน ฝาหน้าและฝาหลังสามารถสไลด์ขึ้นลงได้ เป็นการเปิดกล้องหน้าที่ซ่อนไว้ภายในนำออกมาใช้งานครับ การออกแบบแบบนี้ ทำขึ้นเพื่อให้ Mi Mix 3 เป็นเครื่องหน้าจอเต็ม ไร้ขอบ ไร้ติ่ง ไร้การเจาะรูบนหน้าจอใดๆ เพราะว่าเขาซ่อนกล้องไว้ข้างในนั้นเเอง
ค่อนข้างจะดูทันสมัยเลยครับงานออกแบบแบบนี้ของ Mi Mix 3 แต่ว่ากลไกของสไลด์ฝาหลังไม่ใช่เป็นแบบอัตโนมัตินะครับ มันใช้ระบบ “อัตโนมือ” หรือการสไลด์ขึ้นลงด้วยมือของเราเองนี้แหละ “ป๊อก แป๊ก ป๊อก แป๊ก” กันทั้งวัน
ด้านความทนทานนั้นผมว่าไม่ต้องเป็นห่วงครับ เพราะข่าวว่าเขาทดสอบแล้วว่า มันทนการกระแทกของการสไลด์ได้กว่า 300,000 ครั้ง ฉะนั้นมันทนรับได้ตลอดอายุการใช้งานของมันนั้นแหละครับ และถ้าเกิดมันมีปัญหาจริงๆ Xiaomi เขาก็พร้อมรับประกันให้ภายในอายุประกัน ฉะนั้นสไลด์กันเต็มที่ไปเลย
แต่สิ่งที่มันจะขัดใจสักหน่อยก็คือเสียงครับ เวลาสไลด์มันก็จะดังในจังหวะกระแทก แป๊ก! เสียงมันไม่เท่ ^^ แต่ก็สามารถตั้งค่ากลบเสียงของการสไลด์ได้ในการตั้งค่านะครับ
การสไลด์ฝาหลังของ Mi Micx 3 นับเป็นไฮไลค์ของรุ่นเลย เพราะเขาใส่ฟังก์ชั่นสำหรับการเรียกใช้พิเศษเอาไว้ให้ด้วย ไม่ใช่แค่จะใช้สไลด์เพื่อเปิดกล้องเท่านั้นนะครับ แต่ยังรองรับหน้าใช้งานด่วน และอีกหลายฟังก์ชั่น เรียกว่ามาใหม่ทั้งที ก็ใส่ซอฟท์แวร์ดีๆ เข้ามาให้ด้วย
ตัวเครื่อง Mi Mix 3 รองรับการสแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่องเช่นเคย และพร้อมใช้งานสแกนใบหน้าด้วยเช่นกัน แค่เพียงต้องสไลด์ตัวเครื่องเปิดกล้องขึ้นมาก่อน เป็นการเปิดการใช้สแกนใบหน้าไปในตัวครับ
ตัวเครื่องโดยรวมโคตรสวยครับ ฝาหลังสะท้อนเงาผิวแนวเซรามิค เป็นรอยนิ้วมือบ้างแต่สวยขนาดนี้ขอยอม รองรับสองซิมการ์ดแบบ Dual 4G มีปุ่มเรียกใช้คำสั่งเสียงโดยตรง ภายในให้แบตเตอรี่ 3,200 mAh ซึ่งรองรับระบบชาร์จไว Qualcomm QuickCharge แถมเป็นเวอร์ชั่น 4.0+ ซะด้วย โดยในกล่องจะมีที่ชาร์จ มีเคส มีพอร์ตแปลง USB Type C ให้เป็น 3.5 เพื่อเสียบหูฟังมาให้ แต่ปลั๊กชาร์จที่ให้มาในกล่องยังไม่ถึงใจ เพราะว่าให้มาเป็น QuickCharge 3.0 เท่านั้น ^^ ไม่ใจเลย Xiaomi
แต่ในกล่องดันให้ที่ชาร์จไร้สายมาให้ ^^ ฉะนั้นผมว่าห้ามบ่นครับ
เขาขายถูกมากจริงๆ เมื่อดูจากสเปค เจ้าตัวนี้ใช้หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.39 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล แถมใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 845 มีรุ่นให้เลือกระหว่าง RAM 6 และ 8 GB หน่วยความจำภายในมีทั้งรุ่น 128 / 256 GB ประสิทธิสูงแบบนี้ เปิดขายเริ่มต้นที่ 18,999 บาทเท่านั้นเอง
ตัวเครื่องสวย มีกลไกแปลกใหม่ ประสิทธิภาพสูง มีเทคโนโลยีที่ดี ส่วนราคาก็ไม่แพง แถมยังเป็นเครื่องที่กล้องดีมากอีกด้วยครับ เพราะว่าถ้าใครนิยมเทียบผลทดสอบตัวเลขรีวิวกล้องจาก DxOMark ตัวนี้น่าจะวางใจกันได้ เพราะ Mi Mix 3 ได้คะแนนเรื่องกล้องถึง 108 คะแนนเลยทีเดียวครับ
กล้องหน้าที่ซ่อนไว้เป็นแบบกล้องคู่ครับ ความละเอียด 24ล้าน + 2ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์หลักเป็นของ Sony IMX576 ส่วนกล้องหลังความละเอียด 12ล้านพิกเซลซึ่งเป็นแบบกล้องคู่เช่นกัน โดยจะทำงานกับกล้อง 12 ล้านพิกเซลอีกหนึ่งตัว เป็นการใช้ชุดเซนเซอร์เดียวกันกับ Mi 8 ที่ได้รับคำชมเรื่องกล้องอยู่แล้วและพัฒนาขึ้นอีก มี AI คอยช่วยวัดแสงและการปรับภาพ ทำงานควบคู่กับกันสั่น OIS 4 แกน
คุณภาพถ่ายขั้นยอดเยี่ยมในกลุ่มสมาร์ทโฟนชั้นนำ มีโหมดถ่ายภาพกลางคืน เก่งมากในที่แสงน้อยเช่นกัน
กล้องหลังของ Mi Mix 3 ถือว่าดีครับ ปรับแต่งภาพหลังถ่ายได้หลายรูปแบบมาก ทั้งเบลอหลังแบบ Bokeh แปลกๆ แสงวน หรือกำหนดทางแสงแบบที่กล้องอื่นเขาไม่มี
แต่ AI ของ Xiaomi อาจจะไม่เก่งถึงขนาดปรับโหมดได้เองแบบรวดเร็วทุกโหมดนะครับ ยังต้องใช้การเปลี่ยนโหมดของผู้ใช้จะเข้าถึงประสิทธิภาพกล้องได้มากกว่า ซึ่งผมว่างวดหน้า ถ้า AI ของ Mi จะเข้าสู้โหมดถ่ายบุคคลทันทีที่ส่องเห็นคนอย่างรวดเร็ว ก็จะสะดวกกับผู้ใช้มากขึ้นได้อีก
ตัวอย่างภาพถ่าย
ระบบตัวเครื่องก็ใหม่แกะกล่องแน่นอนครับ รันบนระบบปฏิบัติการ Android Pie 9.0 ครอบด้วย MIUI 10 การใช้งานการตอบสนองก็ระดับสูงของเครื่อง Android แล้วละ มีธีมสโตร์สวยๆ มีระบบแยกบัญชีแอพพลิเคชั่นได้สองบัญชี
โดยรวมก็คุ้มหมดครับ ในราคา 18,999 บาท อาจจะติดที่เครื่องหนาไปหน่อยเรื่องเดียว และการสไลด์กล้องหน้าที่บางคนอาจจะรู้สึกว่ามันแปลกใหม่ดี แต่กับบางคนที่ผมถามมากลับรู้สึกมันยุ่งยาก อันนี้แล้วแต่มุมมองเลยครับ
แต่สำหรับผม สไลด์มันเล่นทั้งวันแหละครับ ^^ เท่จะตาย