Samsung Galaxy Tab S4 แท็บเล็ตสเปคสูงตัวใหม่ล่่าสุดของระบบ Android เปิดตัวพร้อมจำหน่ายในประเทศไทยแล้วครับ ในราคา 23,900 บาท มาพร้อมความสามารถที่ ‘เพียบ’ เลยครับ
Galaxy Tab S4 เป็นแท็บเล็ตที่มาพร้อมกับปากกา S-Pen ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะของรุ่นนี้เลย ปากกาด้ามใหญ่ ไซด์เดียวกับปากกาลูกลื่นจริงๆ หน้าจอของ Galaxy Tab S4 ก็รองรับการใช้งานกับตัวปากกาได้ในระดับเหมือนเครื่อง Samsung Galaxy Note เลยครับ เพราะใช้เทคโนโลยีเดียวกัน ฉะนั้นเรื่องการตอบสนองและฟังก์ชั่นสำหรับงานด้านปากการับรองว่าหายห่วง ดีที่สุดในตลาดแน่นอน
Galaxy Tab S4 เป็นแท็บเล็ตหน้าจอใหญ่ขนาด 10.5 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียดสูง 2560 x 1600 พิกเซล ใส๋ซิมการ์ดเพื่อเชื่อมต่อ 4G และโทรสนทนายามต้องการได้ครับ รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi แบบ MU-MIMO ด้วยครับ ด้านการเชื่อมต่อค่อนข้างครอบเลย
ขนาดแบตใหญ่ 7,300 mAh ชาร์จผ่านพอร์ต USB Type C ที่รองรับ USB 3.1 ลำโพงเสียงสเตอริโอรอบทิศสี่ตัว ระบบ Dolby Atmos เสียงดังดี ฟังเพลงดูหนังเล่นเกมไม่ต้องต่อลำโพงเพื่ม แบตเตอรี่ใหญ่ใช้งานได้เต็มวันครับ ผมลองเล่นเกมต่อเนื่องกันได้ถึง 8 ชั่วโมงก่อนแบตจะหมด
จะเห็นว่าทั้งจอภาพ ทั้งการเชื่อมต่อ และระบบเสียงถือว่าระดับสุดยอดครับ ส่วนในด้านการประมวลผลก็เกือบจะสุดเหมือนกันเพราะใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 835 ตัวรุ่นท็อปของปีที่แล้ว ก็ถือว่ายังแรงอยู่ แรมขนาด 4GB หน่วยความจำ 64GB เพิ่มหน่วยความจำได้ด้วย Micro SD card
ดูหนังเป็นงานถนัด ส่วนการเล่นเกมก็ไหวครับ จอใหญ่ เล่นเกมใหญ่ๆ กราฟิกสูงได้อยู่ อาจจะไม่ลื่นไหลระดับสูงสุดแต่ก็ระดับท็อปอยู่เหมือนกัน
สเปคโอเคดีครับ ตัวเครื่องค่อนข้างจะระดับสูงรอบด้านทั้งภาพและเสียง การเชื่อมต่อก็มาครบ
ในด้านการใช้งาน Galaxy Tab S4 ยังรองรับปากกาพร้อมโหมดการทำงานใหม่ที่เหมือนกับเครื่อง Galaxy Note 9 ใส่เข้ามาให้ด้วย เช่นระบบ Wacom Mode ที่ใช้หน้าจอของตัวแท็บเล็ตเป็นกระดานวาดได้แบบอุปกรณ์ Wacom เรียกว่าใครที่ใช้งานด้านนี้มาก่อนยิ้มหวานเลย ^^ ถนัดแน่นอน
ประสิทธิภาพปากกาเหลือกินเหลือใช้ในระดับ Galaxy Note เลยครับ ใช้ในงานวาดภาพและออกแบบได้เลย
Galaxy Tab S4 สามารถเชื่อมต่อกับสาย USB Type C to HDMI เพื่อต่อภาพขึ้นหน้าจอมอนิเตอร์ได้ครับ แถมแยกการทำงานจากกันได้อิสระ เหมือนจากหนึ่งกลายเป็นสองเครื่อง เพราะทั้งหน้าจอตัวเองและหน้าจอที่มาเชื่อมต่อ แยกทำงานกันได้แบบไม่ต้องเกี่ยวข้องกันเลย
พร้อมโหมดการทำงานที่เปลี่ยนเป็น Dex Mode ซึ่งเป็นโหมดที่ออกแบบหน้าตาการทำงานให้ไม่ต่างไปจากเครื่องโน๊ตบุ๊คพกพา แต่รันแอพพลิเคชั่นบนระบบ Android เหมาะมากสำหรับการเชื่อมต่อเมาส์หรือใช้งานบนหน้าจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ครับ จริงๆ แล้วตัวมันเอง แม้จะไม่ได้เชื่อมต่อกับจอมอร์นิเตอร์ ก็เปิดใช้งาน Dex Mode ได้ตามต้องการนะครับ เผื่อใครจะถนัดการใช้งานในแบบโน๊ตบุ๊ค PC มากกว่าแบบหน้าแท็บเล็ต Android ปกติ
และเมื่อต่อกับคีย์บอร์ดเคสของมันแล้ว ก็กลายร่างกลายเป็นอุปกรณ์ทำงานชั้นดี ที่มีปากกาชั้นเลิศให้เราได้ทันทีเลยครับ ^^ อันนี้คือจุดขายหลัก
ตัวเคสคีย์บอร์ดก็ออกแบบมาได้สวยครับ ไม่หนัก สัมผัสเป็นคีย์บอร์ดพลาสติก ปุ่มมีการดีดสะท้อนให้พอเหมาะ มีช่องเสียบปากกาซึ่งแน่นหนาพอประมาณ เขย่าแล้วปากกาไม่หลุด แต่ถ้าไปเกี่ยวกับอะไรเข้าก็หลุดได้อยู่นะครับ มันไม่ได้ยึดไว้แน่นมาก
ตัวคีย์บอร์ดกับตัว Galaxy Tab S4 ไม่ได้ใช้การเชื่อมต่อแบบไร้สายนะครับ มันใช้พินด้านขอบล่างของเครื่องเพื่อเชื่อมต่อการทำงานกันโดยอัตโนมัติเมื่อนำมาประกบกัน ตัวคีย์บอร์ดไม่ต้องชาร์จไฟ มีปุ่มครบเรียงแถวแบบ Qwerty พร้อมปุ่มเปลี่ยนภาษาในตัว
ฉะนั้นขอบเขตการใช้งานของ Galaxy Tab S4 ก็จะกว้างมาก ด้วยการที่มันรองรับปากกา S-Pen ประสิทธิภาพพื้นฐานดี ดังนั้นเมื่อใครที่ต้องการใช้งานแอพพลิเคชันบนระบบ Android ในรูปแบบหน้าจอใหญ่ๆ ก็เหมาะมากครับ แถมมีโหมดการใช้งานแบบ Dex Mode ที่ทำงานในแบบต่อกับจอใหญ่ ทำงานสองจอ หรือแม้แต่เชื่อมต่อกับเคสคีย์บอร์ดของมัน ก็เหมือนเราได้โน๊ตบุ๊คในระบบ Android มาเครื่องหนึ่งเลย
เป็นแท็บเล็ตที่มีสิทธิพิเศษจาก Galaxy Gift ด้วยนะ ^^
ใครมองหาอุปกรณ์การทำงานด้านไฟล์เอกสาร พิมพ์งาน วาดภาพ ตัวนี้ตอบโจทย์และครบครับ เครื่องเดียวอยู่!