HDC 2019 หรืองาน Huawei Developer Conference ประจำปี 2019 เป็นงานประชุมเพื่อนักพัฒนาที่ปกติ Huawei จัดขึ้นในประเทศจีนมาหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่พิเศษเพราะว่า เป็นครั้งแรกที่เขาเชิญสื่อต่างประเทศเข้าไปร่วมรับฟังข้อมูลภายในงานด้วย
การจัดงานครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ใช้พื้นที่สนามบาสเก็ตบอลเต็มโดม คนเข้าร่วมงานกว่าหกพันคน มีทั้งผู้ซื้อบัตรเข้าชม, นักพัฒนา, ผู้บริหาร, พร้อมสื่อที่เข้าร่วมงานมากมายจากทั้งสื่อในประเทศจีน และสื่อนอกที่ได้รับเชิญไปอีกหลายประเทศ หนึ่งในนั้นคือสื่อจากประเทศไทยครับ ฉะนั้นงานครั้งนี้ เรา Appdisqus จึงได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสบรรยากาศและรับฟังข้อมูลด้วยนั้นเองครับ
ภายในงานมีหลายอย่างที่ถูกพูดถึงขึ้นมาได้อย่างน่าสนใจ หลายคนอาจจะรอฟังข้อมูลเพิ่มเติมของ EMUI 10.0 หรือระบบใช้งานในเครื่องสมาร์ทโฟนและแท็บแล็ตของ Huawei ในเวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งเราพรีวิวให้อ่านกันไปแล้วในบทความนี้ พรีวิว EMUI 10.0
และหลายคนอาจจะรอฟังข้อมูลระบบปฏิบัติการตัวใหม่ ที่เผยชื่ออย่างเป็นทางการในงานว่า “HarmonyOS” เราเอาข้อมูลมาฝากกันแล้วใน บทความนี้
แต่สิ่งที่ผมอยากจะบอกทุกคน คือความน่าสนใจจริงๆ ที่เรา Appdisqus ได้ไปรับมา มันอยู่หลังเวทีครับ เพราะงานที่เห็นจัดกันในฮอลล์ยักษ์และยิงไลฟ์สดไปทั่วโลกนั้น จริงๆ แล้วมันเป็นแค่การเปิดม่านเทศกาลครับ เพราะในช่วงเวลาเดียวกัน งาน HDC 2019 ได้กระจายจัดขึ้นอีกหลายจุด หลายกลุ่ม กระจายหลายวัน เป็นมหกรรมโชว์ของที่ผมเรียกว่าแทบจะยึดพื้นที่เซินเจิ้นและตงกวนกันเลยครับ
เพราะทาง Huawei มีการจัดงานแยกทั้งเป็นแถลงข่าวรอบสื่อ มีการจัดโชว์ของส่องของจริงในงานต่างหาก มีการจัดในโรงแรมที่สื่อพักโดยมีรอบที่เขานัดให้สัมภาษณ์ Q&A กับคนรับผิดชอบการพัฒนาของ Huawei โดยตรง
และยังมีพื้นที่จัดงานอีเวนท์ โชว์นวัตกรรมทุกอย่างที่ถูกพูดถึงบนเวที ซึ่งนำมาโชว์ของจริงให้ลองสัมผัสจริง ยังมี Workshop จัดอบรมและพูดคุยกับนักพัฒนาทั้งรุ่นเก๋าและรุ่นเยาว์
ซึ่งที่ผมว่านี้เขาย้ายไปจัดกันที่ แคมปัส Ox Horn อภิมหาอาณาจักรออฟฟิศที่ทำงานขนาดมหึมา ซึ่งมีมูลค่าที่ใช้ในการก่อสร้างกว่าห้าหมื่นล้านบาท กินพื้นที่กว้างจนเกือบเป็นประเทศ แบ่งเป็น 12 เขต 12 โซน
ออกแบบแต่ละโซนให้เหมือนเมืองดังในยุโรป เชื่อมต่อกันโดยรถไฟโดยสาร ใหญ่เกินจินตนาการครับ นอกจากจะใหญ่แล้วทุกอย่างหรูหรามีมูลค่าสูงทุกพื้นนที่ – – ผมเชื่อว่าถ้าไม่เห็นกับตา มันคิดภาพไม่ออกแน่นอนครับว่ามันใหญ่และอลังการมากสักเพียงใด
เอาว่างานครั้งนี้ Huawei เขาปูพรมจัด HDC 2019 ในทุกพื้นที่ของเขาจริงๆ ครับ (โรงแรมที่จัดงาน และสำหรับให้สื่อเข้าพัก ก็เป็นโรงแรมของ Huawei อีกเช่นกัน) การที่เขาต้องจัดงานในหลายพื้นที่ หลายบริบท หลากหลายรูปแบบนำเสนอ ก็เพราะสิ่งที่เขามี “มันเยอะมาก” ฉะนั้นผมบอกเลยว่า อย่าติดอยู่กับความสนใจ HarmonyOS ระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดของ Huawei กันมากนัก เพราะผมจะบอกว่าที่ไปพบไปเห็นมา HarmonyOS น้ำหนักมันนิดเดียวเมื่อเทียบกับ “สิ่งที่เป็น Huawei”
ทำไมถึงเป็นแบบนั้นผมจะเล่าให้ฟังครับ…
ก่อนอื่นผมขอเริ่มจาก “Who is Huawei” ก่อนเลย
Huawei ไม่ใช่บริษัทที่ขายแค่โทรศัพท์ครับ แต่ถ้าใครรู้จักเขาแค่นั้นจริงๆ ผมว่ารู้น้อยเกินไปแล้วละครับ เพราะ Huawei เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ประกอบการธุรกิจหลักมากกว่าแค่จำหน่ายโปรดักส์เพื่อผู้บริโภคเท่านั้น เขายังมีธุรกิจด้านการจัดการ, การดูแล การรักษาความปลอดภัย ที่ตอบรับงานบริการให้กับระดับองค์กรขนาดใหญ่ หรือแม้แต่ระดับดูแลประเทศ
เขามีระบบที่สามารถควบคุมเมืองทั้งเมืองได้ สอดส่องดูแลประเทศทั้งประเทศได้ มีการจัดการที่ก้าวหน้ามากจนน่าทึ่ง และสำหรับผมบางครั้ง เมื่อไปรู้ว่าเขามีวิทยาการที่ไกลไปขนาดนั้นแล้ว เริ่มกลัวครับ เชื่อว่าหลายคนอาจจะเป็นเหมือนผมถ้าได้ไปสัมผัส เพราะวิทยาการแบบในหนังมันมาอยู่ในโลกความจริงแล้วครับ และ Huawei เขาทำสำเร็จ
เขามีระบบ AI ที่คอยจัดการคิด ตรวจสอบ และรับคำสั่งได้ต่อเนื่องแบบเรียลไทม์ ไม่พักไม่ผ่อน ทำงานได้ 24ชั่วโมง ตลอด 7 วัน กับฐานข้อมูลบิ๊กดาต้าที่มาจากอุปกรณ์มากมายและเซ็นเซอร์สารพัดตรวจสอบ พร้อมระบบเน็ตเวิร์คล้ำยุค ที่ถ้าติดตั้งที่ไหนและเมื่อไหร่ เขาสามารถเข้าถึงทุกๆ อย่างที่จะแปรเปลี่ยนเป็นข้อมูลได้ ไม่ว่าจะเป็นการระบุบุคคล, การเข้าถึงข้อมูลติดต่อ, ตำแหน่งที่ตั้ง, การเคลื่อนไหว, สามารถดูสภาพองค์รวมเป็นวงกว้าง ทั้งสภาพการจราจร, สภาพอากาศ, เหตุฉุกเฉินที่เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์
ผมนิยามระบบที่ไปเห็นนี้ได้เลยว่า ถ้ามันถูกใช้งานได้อย่างเต็มระบบ ผู้ที่อยู่ในจุดศูนย์กลางของการควบคุม “อยากรู้อะไรต้องได้รู้”
สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นและกำลังจะเกิดขึ้น มันตรวจจับได้หมดและแจ้งให้ทราบได้ทันทีที่พบ ผู้สั่งการสามารถสั่งงานบุคลกรได้ในระยะไกล มองเห็นทั้งภาพมุมมองบุคคลและมุมมองกว้าง สั่งงานได้ในทันทีด้วยข้อมูลตำแหน่งของเจ้าหน้าที่และการสื่อสารด้วยอุปกรณ์ทันสมัยแบบวิทยุสื่อสารที่มีกล้องส่งภาพระยะไกลเป็นต้น
เรากำลังพูดถึงการควบคุมสิ่งที่จะเข้ามาแทนมนุษย์อีกด้วยนะครับ เช่นแขนกล หรือหุ่นยนต์ หรือแม้แต่พาหนะที่ควบคุมระยะไกล
เป็นเจ้าใหญ่ของโลก ที่ทำระบบเน็ตเวิร์ค, อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบบิ๊กดาต้าซึ่งเป็นทั้งผู้ผลิตและออกแบบอุปกรณ์ พร้อมบริการ Cloud Server ครอบคลุมครบครันภายใต้ชื่อบริษัทเดียว
มันครบวงจรไปหมดเลยครับ และถ้าทั้งหมดถูกเอามาใช้เพื่อความปลอดภัย มันก็จะรู้สึกปลอดภัยสุดๆ ละครับ แต่ถ้าคิดตรงข้าม? ก็ไม่แปลกเลยที่ประเทศบางประเทศจะแสดงออกถึงความกังวลขึ้นมา เพราะเขามาไกลและดูใหญ่จนน่ากลัว
แต่อย่างไรก็ตาม Huawei ก็เป็นบริษัทที่ได้รับความเชื่อมั่น ในการให้เข้าไปดูแลจัดการงานส่วนดิจิตอล, โครงข่าย และความปลอดภัย ให้กับหลายๆ ประเทศทั่วโลกครับ ประวัติการทำงานทั้งผลงานและพาร์ทเนอร์ของเขามีมากมายจนได้รับความเชื่อใจจากองค์กรขนาดใหญ่และรัฐบาลในหลายประเทศ
Huawei มีหมดแล้วทุกอย่าง ทั้งระบบการควบคุมรถยนต์ HiCar ที่สามารถเชื่อมต่อรถยนต์, สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์สวมใส่เข้าด้วยกันได้ เพื่อเป็นการตรวจจับการขับขี่ของมนุษย์ แจ้งเตือนก่อนเกิดอันตราย รวมถึงความสามารถในการสั่งงานระยะไกล พร้อมระบบการถ่ายทอดภาพผ่านสัญญาณเครือข่ายเพื่อให้คนอยู่ไกลๆ ได้เข้าใกล้กันในระหว่างขับขี่
มีระบบ HiLink ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ทุกอย่างภายในบ้าน ทำบ้านให้เป็น Smart Home ซึ่งคนไทยแทบจะไม่รู้จักเพราะเขาไม่ได้นำเข้าอุปกรณ์มาทำตลาดในเมืองไทย แต่ที่ประเทศจีน มันควบคุมและครอบคลุมบ้านทั้งหลังได้หมดแล้ว มีอุปกรณ์นับร้อยๆ รุ่นที่ผลิตออกมารองรับกับระบบ HiLink ในวันนี้ครับ
ฉะนั้นจากสิ่งที่เขาเป็น และสิ่งที่เขามี เมื่อย้อนกลับไปดูยังเวที HDC 2019 ทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่เขานำมาโชว์ มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของ Huawei เท่านั้นเอง เป็นส่วนที่จะเกี่ยวข้องกับโอกาสของนักพัฒนาภายนอกที่จะเข้ามาร่วมด้วยกันเป็นงานที่เอาไว้แจ้งให้นักพัฒนาได้รับรู้ว่าเขากำลังเดินไปทางไหน เมื่อตีโจทย์ความต้องการของเขาได้แบบนี้แล้ว ก็เข้าใจเจตนาที่ตรงตามชื่องานเป๊ะเลยครับ Huawei Developer Conference งานเพื่อนักพัฒนาจริงๆ
HarmonyOS ก็เช่นกัน มันเป็นโครงการใหม่โครงการหนึ่งที่เหมือนไม่ใช่เรื่องยากอะไรสำหรับเขาในการพัฒนามันขึ้นมาให้มีตัวตนครับ แต่เขาต้องการนักพัฒนาที่จะมาเข้าร่วมเพราะนี้เป็น OS ใหม่ จึงนำมาประกาศบนเวทีนักพัฒนา HDC 2019 ในครั้งนี่้นั้นเอง สำหรับเรามันเป็นเรื่องใหญ่เพราะเป็นเรื่องโดนใจของคนรักวงการมือถือจึงสนใจกันเป็นพิเศษ
ด้วยจังหวะและความอยากมันส์ หลายคนเลยอาจจะคิด ว่า HarmonyOS ทำออกมาเพื่อใช้เป็นอาวุธไปตบตีแข่งขันกับเจ้าตลาด เป็นคำขู่ที่สวนหมัดกลับไป หลังจากโดนอเมริกาออกมาจงใจสกัดดาวรุ่งจากกรณี Google และ ระบบ Android เขาก็เลยเปิดตัว HarmonyOS ออกมายิงสวนมันซะเลย
แต่ผมคิดว่าจุดเริ่มการทำ HarmonyOS ไม่ใช่เพื่อทำออกมาใช้ขู่กลับในลักษณะนั้นครับ
แต่มันมีขึ้นมาได้เพราะ Huawei ทำได้ และเขาควรทำ แต่ยังไงงานนี้ก็ต้องให้เครดิตอเมริกาครับ เพราะ HarmonyOS คือระบบที่เหมือนจะมีกรณี Google เข้ามาทำให้ Huawei ได้ตระหนักคิดถึงตัวเองว่า เขาทำอะไรได้ หรือไม่ได้
ถ้าควบคุมคนอื่นมันทำไม่ได้และไม่มีอะไรแน่นอน การพึ่งพาตนเองย่อมเป็นทางเลือกที่ดีกว่า และเขาก็ทำในสิ่งที่เขาถนัด นั้นคือ “การพัฒนา”
และจากที่ผมเกริ่นข้างต้น ด้วยศักยภาพที่เขามี ระบบ HarmonyOS จึงเกิดขึ้นมาได้ไม่ยาก แม้ว่า Huawei จะประกาศชัดเจนว่าจะนำไปใช้บนอุปกรณ์หน้าจอขนาดใหญ่เช่นทีวี และอุปกรณ์ IoT ทั้งหลายแหล่เป็นสำคัญ แต่ถ้ามีเหตุฉุกเฉินขึ้นมาเขาก็พร้อมจะปรับนำมาใช้บนสมาร์ทโฟนได้ในทันที เรียกถ้าจะทำใส่มือถือจริงๆ ขอเวลาแค่สองอาทิตย์ก็มีมาให้ใช้กันได้แล้วครับ
แต่ที่ยังไม่ใส่ในสมาร์ทโฟน เพราะเขาชัดเจนว่ามันยังไม่จำเป็น ระบบ Android เป็นทางเลือกที่ดีอยู่แล้ว มีความพร้อม และตอบรับความต้องการของผู้ใช้ได้มากกว่า OS ใหม่
ซึ่งความเจียมตัวแบบรู้ตัวเองแบบนี้ ดีครับ เขาแค่เบ่งกล้ามเบาๆ แค่พองาม ให้รู้ว่าเขาทำอะไรได้ แต่ก็ยังสุภาพรู้อะไรเป็นอะไร แล้วก็ทำมาหากินกันต่อไปตามที่มันควรจะเป็น
จะเห็นว่าความเป็น Huawei มันยิ่งใหญ่มากครับ งาน HDC 2019 มันแค่ส่วนหนึ่งที่เอามาฉายแสงบนเวที ไม่แปลกที่ในระดับประเทศแล้ว Huawei จะอยู่ในโฟกัสของทุกบริษัทและรัฐบาล เมื่อเขาขยับจะทำอะไรมันคือเรื่องใหญ๋
จากผลงานที่ประสบความสำเร็จมันมีมากมาย เขามีศักยภาพ เขามีทุน และมีความพร้อมสูงมาก แถมมีความความจริงจังดุดันด้วย DNA ของชาวจีนอัดอยู่เต็มพิกัด นี่จึงเป็นเหตุผลที่บริษัทเทคโนโลยี Huawei โตวันโตคืนในแบบที่ทุกคนที่เป็นคู่แข่ง “ต้องเฝ้าระวัง” กันนั้นเองครับ
และนี่คือ Huawei จากผลลัพท์ที่ได้ไปทัวร์ชม “HDC 2019” ในสายตาของผม เขาเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่และยังไปได้อีกไกลมากจริงๆ ครับ