ในยุคของการ Work From Home เชื่อว่าหนึ่งในปัญหาที่ หลายคนพบเจอคือการที่ติดอิ นเทอร์เน็ตบ้านเพื่อใช้งาน แล้วพบว่ามีความไม่เสถียร เนื่องจากต้องใช้งานพร้อมกั นหลายอุปกรณ์ หรือในบางพื้นที่สัญญาณไม่ ครอบคลุม จนบางครั้งส่งผลต่อการประชุ มงานนัดสำคัญ จนถึงทำให้พลาดโอกาสทางธุรกิ จบางอย่าง
ประกอบกับปัจจุบัน การใช้งาน ‘เน็ตบ้าน’ ไม่ได้ถูกนำไปใช้ งานเฉพาะภายในที่พักอาศัยเท่านั้ น แต่ในกลุ่มองค์กรธุรกิ จขนาดกลางและย่อย อย่าง SMEs ที่ปัจจุบันสำนักงาน หรือออฟฟิศ ไม่ได้จำกัดอยู่ เฉพาะภายในอาคารสูง หรือเช่าใช้พื้นที่สำนักงานเท่ านั้น แต่มีการประยุกต์นำอาคารพาณิชย์ หรือตึกแถวมาใช้ ช่วยเพิ่มความสะดวกในการเข้าใช้ พื้นที่ และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปในตั ว
สอดคล้องกับเทรนด์การทำงานยุ คใหม่ ( Future of Work) ที่มีการสำรวจพบว่า องค์กรธุรกิจหลายแห่งมีโอกาสที่ จะลดพื้นที่เช่าเพื่อทำสำนักงาน และปรับมาทำงานในลักษณะของ Home Office มากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับพฤติ กรรมการทำงานในยุคหลังโควิด-19 ที่เปลี่ยนแปลงไป เมื่ออินเทอร์เน็ตได้เข้ามาเชื่ อมต่อให้การทำงานเกิดขึ้นได้ จากทุกที่
จากผลการสำรวจ “ Cisco Global Workforce” ยังพบข้อมูลที่น่าสนใจว่า 65% ของการทำงานในอนาคตอาจเกิดขึ้ นที่บ้าน หรือ โฮมออฟฟิศ ตามด้วย 30% ที่มีความจำเป็นต้องทำงานในสำนั กงานแบบเดิม และอีก 5% เป็นการทำงานจากที่ไหนก็ได้ ทำให้ธุรกิจกว่า 53% มีโอกาสลดขนาดสำนักงาน หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบสำนั กงานใหม่ให้เหมาะสมมากขึ้น
อีกเทรนด์ที่เห็นได้ชัดเจนมากขึ้ นในช่วงการแพร่ระบาดที่ผ่านมา จากรายงาน Google Community Mobility Reports ที่แสดงให้เห็นข้อมูลการเดิ นทางของคนในชุมชนพบว่า ผู้คนเดินทางไปสำนักงานลดลงถึง 24% และเดินทางไปยังที่พักอาศัย หรืออยู่บ้านเพิ่มขึ้นถึง 9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ หรือแม้แต่ข้อมูลการใช้งานอิ นเทอร์เน็ตบ้านจากผู้ให้บริ การอินเทอร์เน็ต ยังพบว่า มีการใช้งานในบ้านเพิ่มขึ้นกว่า 40%
ส่งผลให้ความสำคัญของการใช้งาน อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในบ้าน หรือโฮมออฟฟิศมีความจำเป็นมากขึ้ นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งกลายเป็นว่า เราเตอร์ ที่ผู้ให้บริการให้มาเพียงตั วเดียวอาจไม่เพียงพอต่อความต้ องการในการใช้งานที่ต้ องการความเสถียรในการเชื่อมต่ ออุปกรณ์ที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงสัญญาณที่ครอบคลุมทั่วพื้ นที่ ซึ่งอาจกลายเป็นปัญหาหลั กในการใช้งานเน็ตบ้านก็ว่าได้
เลือกใช้ ‘เราเตอร์’ คุณภาพสูง ช่วยแก้ปัญหาได้
ด้วยการที่ปัจจุบันสัญญาณเครื อข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สายที่ใช้ งานกันทั้งบนคลื่น 2.4 GHz และ 5 GHz ทำให้เวลาส่งคลื่นจากจุ ดกระจายสัญญาณไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ภายในบ้าน มักจะเจออุปสรรคที่มาขวางกั้ นอย่างกำแพงห้อง และเพดาน ส่งผลให้บริเวณที่ใช้งานได้ดีที่ สุด มักจะเป็นจุดที่ติดตั้งเราเตอร์ ใช้งานเท่านั้น เมื่อใช้ในพื้นที่อื่นจะเจอปั ญหาสัญญาณดรอป ได้ความเร็วไม่เต็มสปีดตามที่ สมัครใช้งาน
เนื่องจากเราเตอร์ส่วนใหญ่ที่ผู้ ให้บริการอินเทอร์เน็ต แถมมาให้ใช้งานนั้น อาจมีข้อจำกัดในแง่ของต้นทุน ทำให้คุณภาพในการกระจายสัญญาณนั้ น ไม่เพียงพอที่จะครอบคลุมทั่วพื้ นที่บ้าน ทาวน์เฮ้าส์ หรืออาคารพาณิชย์ได้ทั้งหมด ดังนั้น การเลือกลงทุน ‘เราเตอร์’ ที่มีประสิทธิภาพ พร้อมเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาสัญญาณไม่ ครอบคลุม และเป็นการลงทุนครั้งเดียว และสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องไม่ ต่ำกว่า 5 ปี
อย่างไรก็ตาม ในการเลือกใช้งานเราเตอร์คุ ณภาพสูง ก็ยังมีปัจจัยอื่นที่ ควรนำมาคำนึงถึงอย่างพื้นที่ที่ พักอาศัย หรือพื้นที่ใช้งานทั้งหมด จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อทั้ งในฝั่งของการใช้งานแต่ละบุ คคลอย่างสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ค สมาร์ททีวี จนถึงบรรดาอุปกรณ์ IoT ที่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จำนวนมากเชื่อมต่อใช้งาน
โดยทางลิงค์ซิส ( Linksys) แบรนด์ชั้นนำเรื่องอุปกรณ์เน็ ตเวิร์คภายในบ้าน ของ เบลคิน อินเตอร์เนชันแนล และ ฟอกส์คอน อินเตอร์คอนเน็ค เทคโนโลยี ได้เริ่มแนะนำเราเตอร์มาตรฐาน WiFi 6 ที่มีทั้งเทคโนโลยี Intelligent Mesh และ EasyMesh มาเป็นทางเลือกให้กลุ่มผู้ใช้ งานที่ต้องการคุณภาพ และสัญญาณครอบคลุมสำหรับใช้ งานในบ้าน หรือโฮมออฟฟิศ
ซึ่งเทคโนโลยีที่เหมาะกับการใช้ งานในสำนักงานยุคใหม่ หรือการใช้งานในบ้านคื อเทคโนโลยี Intelligent Mesh ที่มากับผลิตภัณฑ์เราเตอร์ ในตระกูล Linksys Velop MX ซีรีส์ อย่าง MX4200 ที่รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 6 สามารถใช้งานร่วมกับ Linksys Velop และ MR ซีรีส์ รุ่นอื่น ๆ เพื่อขยายจุดกระจายสัญญาณเพิ่ มเติมผ่านเครือข่าย WiFi ได้แบบอัตโนมัติ ทำให้สามารถใช้งานเครือข่าย WiFi เดียวกันครอบคลุมทั้งบ้าน
จุดเด่นของเทคโนโลยี EasyMesh ที่มาในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Linksys E ซีรีส์ ทั้ง E9450 , E8450 , E7350 จะมีความโดดเด่นในแง่ของพื้นที่ ใช้งานที่ครอบคลุมตั้งแต่ 140 ตารางเมตร – 230 ตารางเมตร ทำงานบน WiFi แบบ Dual Band เพิ่มแบนด์วิดท์เป็น 2 เท่า เพื่อหลีกเลี่ยงสัญญาณรบกวน และเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่ อมต่อ และยังรองรับการเพิ่มจุ ดกระจายสัญญาณเพิ่มเติมเพื่อให้ ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น
นอกจากนี้ ด้วยการที่รองรับมาตรฐาน WiFi 6 ทำให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT จำนวนมากได้พร้อมกัน และยังรองรับการใช้งานที่ หลากหลาย ทั้งการทำงาน เล่นเกม เล่นเน็ตที่ต้องการความรวดเร็ว จนถึงด้านความบันเทิ งจากคอนเทนต์ระดับ 8 K จากหลากหลายอุปกรณ์พร้อมกัน
ตอบโจทย์ SMEs – ครีเอเตอร์
แน่นอนว่าในการลงทุนเราเตอร์เพื่ อใช้งาน ต้องเข้าไปแก้ไขปัญหาสำคัญสำหรั บธุรกิจ SMEs ที่ต้องการคุณภาพในการเชื่อมต่ ออินเทอร์เน็ตภายในโฮมออฟฟิศ เพื่อรองรับการใช้งานของพนักงาน ที่มีดีไวซ์หลากหลาย ช่วยเพิ่มประสิทธิ ภาพในการทำงานยุคใหม่ได้
รวมถึงกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้ องการอินเทอร์เน็ตความเร็วสู งอย่างในกลุ่มคอนเทนต์ครี เอเตอร์ ที่ปัจจุบันนิยมการสร้ างสรรคอนเทนต์ด้วยวิดีโอ ทำให้การมีเราเตอร์ที่รองรั บการใช้งาน สามารถดาวน์โหลด อัปโหลดคอนเทนต์ได้อย่างทันใจ จะเข้ามาตอบโจทย์การใช้งานได้ เป็นอย่างดี
เพราะด้วยระบบ Mesh WiFi อัจฉริยะของ Linksys จะช่วยให้การทำงานในโฮมออฟฟิศ โดยเฉพาะในอาคารพาณิชย์ และทาวน์โฮมที่มีหลายชั้น สามารถแบ่งพื้นที่การทำงานได้ เป็นสัดส่วน และทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงอิ นเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้ ครอบคลุมทั้งหมด
สำหรับราคาจำหน่ายของเราเตอร์ Linksys ที่รองรับเทคโนโลยี Intelligent Mesh และ EasyMesh ประกอบด้วย
– Linksys Velop AX4200 Tri-Band WiFi 6 เริ่มต้นที่ 7 ,490 บาท
– Linksys E9450 Dual Band WiFi 6 EasyMesh Router (AX5400) ราคา 4 ,740 บาท
– Linksys E8450 Dual-Band WiFi 6 EasyMesh Router (AX3200) ราคา 3 ,125 บาท
– Linksys E7350 Dual-Band WiFi 6 EasyMesh Router (AX1800) ราคา 2 ,840 บาท