ความเชื่อมั่นหนึ่งเดียวตอนนี้ของ Apple สำหรับพอร์ต USB Type-C ใน MacBook ตัวใหม่ อาจทำให้เสียลูกค้าไปไม่มากก็น้อย แต่ในมุมมองของนักวิเคราะห์กลับมองว่า บริษัทกำลังเป็นผู้นำในการออกแบบของ PC ในอนาคต
การมาของ MacBook ตัวใหม่กับพอร์ต USB Type-C ช่องเดียวที่จะทำหน้าที่ทั้งชาร์จแบต เล่นวิดีโอจากภายนอก และรับส่งข้อมูล
พร้อมแล้วหรือยัง ? สำหรับการเลิกใช้สายเคเบบิ้ลต่างๆในการเชื่อมต่ออุปกรณ์
สำหรับLaptop ตัวใหม่ของ Apple ที่่ถูกออกแบบมาบางเฉียบและมาพร้อมกับช่อง USB เล็กๆ เพียงช่องเดียวหรือที่เราเรียกว่า USB Type-C อธิบายง่ายๆคือ มันเป็นพอร์ตอเนกประสงค์ที่จะใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกอย่าง External hard drive ใช้เชื่อมต่อวิดีโอเพื่อส่งไปรับชมในโทรทัศน์ และชาร์จแบตเตอรี่ของ Laptop ตอนที่แบตจะหมด ในช่องเดียวกันนั่นเองครับ
สำหรับพอร์ต USB ใหม่นั้นมีความยืดหยุ่นอย่างน่าทึ่งเลยทีเดียวครับ แต่มันกลับมีมาให้แค่ช่องเดียวเท่านั้น นั่นก็หมายความว่าพอร์ตแบบนี้อาจจะทำให้คนที่จำเป็นต้องเชื่อมต่อ อุปกรณ์หลายๆอย่างพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น ปริ้นเตอร์, External hard drive, กล้อง, มอนิเตอร์, คีย์บอร์ด, เมาส์, โทรทัศน์, จอยเกมส์ และแท็บเล็ต รู้สึกไม่โอเคแน่ๆ สำหรับพอร์ตๆเดียว พูดง่ายๆก็คือมันไม่พอนั่นแหละครับ
อย่างไรก็ตามเราก็ควรที่จะทำความคุ้นเคยกับมันน่าจะีกว่าครับ เพราะ MacBook ตัวใหม่นี้เหมือนกำลังบอกใบ้ให้เรารู้ว่าอุตสาหกรรมของ Apple นั้นกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ค่อนข้างไว้วางใจในเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบไร้สายหรือ Wireless นั่นเอง ซึ่งในการเปลี่ยนแปลงแบบสุดโต่งในครั้งนี้อาจทำให้เหล่าบรรดาลูกค้าของ Apple รู้สึกถึงความพิเศษและความเจ็บปวด แบบเจ็บจี๊ด !! ในเวลาเดียวกัน อย่างที่บอกไว้ครับว่ามันเหมือนเป็นการเชื่อมต่อสำหรับอนาคต และตอนนี้ยังไม่มีอุปกรณ์ที่รองรับมากเท่าไรนัก
แต่ในการเปิดตัวครั้งนี้ก็ทำให้เราเห็นได้ชัดเลยครับว่าผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของ Apple ที่จะมาอีกในอนาคตนั้นจะเป็นแบบไหน และคาดว่ามันจะทำให้วงการอุตหาสกรรมในปัจจุบันนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน
นักวิเคราะห์ Endpoint Technologies อย่างนาย Roger Kay ได้กล่าวไว้ว่า “มันก็เหมือนกับการลดจำนวนช่องในการเชื่อมต่อด้วยสายลง และเพิ่มความสามารถในการเชื่อต่อแบบ Wireless หรือไร้สายให้กับเจ้า Laptop นั่นแหละครับ ” ซึ่งผมเองก็เห็นด้วยตรงจุดนี้ที่ว่าอนาคตจะเน้นไปในเรื่องการเชื่อมต่อแบบไร้สาย พอร์ตต่างๆเหล่านี้ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปครับ
บริษัท Apple นั้นถือเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในการผลิตสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่อยากให้ผู้ใช้ก้าวเข้าสู่อนาคต ในงานเปิดตัว Laptop เมื่อวันจันท์ที่ผ่านมา Phil Schillerรองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดโลกก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกแบบพอร์ตเดียวนี้ว่า ” มันเป็นวิสัยทัศน์ที่ฉลาดมากๆ สำหรับโน้ตบุคในอนาคต ที่จะไม่มีสายไฟระโยงระยางมั่วไปหมด ที่ซึ่งคุณไม่ต้องเชื่อมต่อโดยการเสียบปลั๊กอีกต่อไป”
ในอดีตนั้น Apple ก็เคยตัดเทคโนโลยีเก่าออกไปให้เราได้เห็นกันไปแล้ว อย่างในปี 1998 All-in-One iMac ที่ได้ตัดการเชื่อมต่อแบบเดิมๆ ของทั้งเมาส์และคีย์บอร์ดส่วนใหญ่ในยุคนั้นรองรับออกไป และที่เป็นข้อถกเถียงกันมากในสมัยนั้นนั่นก็คือ Apple ได้ตัดไดร์ฟ Floppy Disk ออกด้วย ซึ่งตอนนี้ Floppy Disk เองก็เลิกใช้งานไปแล้ว และสำหรับการมาของ MacBook Air ในปี 2008 และ MacBook Pro ก็ทำให้โลกมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน
“Apple นั้นมีความสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเอง และในอนาคต Apple น่าจะมีการเพิ่มปริมาณพอร์ตขึ้น เหมือนอย่างที่ Apple เคยเปลี่ยนแปลงมาในอดีต” แต่ตอนนี้ผู้ใช้อย่างเราๆคงต้องเลือกแล้วครับว่า จะใช้ Macbook ตัวใหม่ที่มีช่องๆเดียวให้เราใช้ หรือจะไปซื้อ Laptop ของเจ้าอื่น
Apple ปล่อยให้ผู้ใช้อยู่ในสถานการณ์ลำบาก ?
สำหรับ Apple’s $79 USB-C Digital AV Multiport Adapter ตัวนี้ก็คือพอร์ตที่มีไว้ให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นๆ ได้ในขณะที่กำลังชาร์จแบตเตอรี่อยู่ อธิบายง่ายๆคือเป็นเหมือนกับปลั๊กที่จะทำให้ช่องๆเดียวที่มีนั้น มีหลายช่องมากขึ้นนั่นเองครับ ดูได้จากในรูป
สำหรับมืออาชีพที่จำเป็นต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์มากมาย รวมถึงคนที่ใช้การเชื่อมต่อระดับ High Speed แบบ Thunderbolt ของ Apple อยู่ด้วยนั้น อาจจะต้องรู้สึกหงุดหงิดกันอยู่บ้างแหละครับ เพราะถึงแม้ USB-C ตัวนี้จะไวมากขึ้นและค่อนข้างจะดีกว่า Thunderbolt แต่ก็ต้องใช้ร่วมกับ USB-C Digital AV Multiport Adapter ซึ่งอาจจะไม่ค่อยตอบโจทย์เท่าไรนัก และแน่นอนว่ารวมถึงคนที่ต้องโหลดข้อมูลจาก Thumb Drive ไปที่โปรเจคเตอร์เพื่อทำการรายงานในที่ประชุม ก็คงไม่ค่อยชอบเท่าไรเช่นกัน
นักวิเคราะห์อย่าง Tom Maineli ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นด้วยว่า “มันแน่นอนอยู่แล้ว ที่จะต้องมีคนที่ไม่เห็นด้วย แต่มันก็จำเป็นสำหรับการก้าวไปสู่อนาคต” หากเรามองในเชิงธุรกิจนั้น Apple มีความตั้งใจที่จะใช้เทคโนโลยีตัวนี้เอาชนะคู่แข่งแบบขาดลอยนั่นเอง
“ มันต้องมีสักคนที่เป็นผู้เริ่ม แล้วค่อยมาตัดสินใจกันอีกทีว่าจริงๆแล้วมันดีไหม ซึ่ง Apple นั้นก็มีผู้ใช้ที่พร้อมจะสนับสนุนพวกเค้าอยู่แล้ว และดูเหมือน Apple ก็ชอบตรงจุดนี้ด้วยที่จะต่อสู้เอาส่วนที่เหลือของตลาด PC มาเป็นกำไรของพวกเค้า ซึ่งสำหรับผู้ขายรายอื่นนั้นก็คงรู้สึกดีเช่นกันเพราะหากผู้ใช้ไม่ชอบเค้าก็จะเปลี่ยนมาซื้อของพวกเค้า ที่ไม่ใช่ของ Apple” ตามมุมมองของผม Apple เหมือนอยากจะวัดดวงเลยครับว่าถ้ารุ่งก็รุ่ง แต่ถ้าร่วงค่อยกลับมาแก้ไข แต่ดูแล้วว่าทาง Apple น่าจะตัดสินใจมาแล้วก่อนที่จะลงมือทำว่ามันต้องรุ่ง
คำตอบของ ไข่และไก่ อะไรเกิดก่อน ?
Apple ที่กำลังเดินหน้าอยู่ตอนนี้นั้นเหมือนกับการตอบคำถามระหว่าง ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน มันก็คล้ายๆกับการกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกนั่นเอง ในวงการอุตสากรรมคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีใหม่จะไม่มีการนำมาผลิตออกขายหากผู้ใช้ ไม่เปิดใจยอมรับ แต่สำหรับผู้ใช้ก็เช่นกัน ผู้ใช้จะไม่ซื้อมาใช้จนกว่าจะมีอุปกรณ์ที่รองรับมากขึ้น” Mike Fiebus จาก TechKnowledge Strategies ได้กล่าวไว้ นอกจากนั้นแล้ว Mike ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า
“สำหรับ Apple นั้น อย่างที่เราทราบกันดีว่าสาวกของพวกเค้าจะซื้อของเหล่านั้นไม่ว่ามันจะเป็นอย่างไรก็ตาม ซึ่งนั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ Apple สามารถที่จะเริ่มผลิต Accessories ต่างๆออกมาเพื่อสนับสนุนการใช้งานของพอร์ตๆเดียว ดังนั้นในระยะยาวแล้ว MacBook ตัวใหม่นี้จะทำให้เกิดการนำมาซึ่งอุปกรณ์มากมายที่จะรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ”
ทั้งนี้สำหรับ Apple เองก็ออกมาให้คำตอบสำหรับผู้ใช้ที่กำลังกังวลสำหรับเรื่องนี้ว่า
“ถ้าคุณต้องการที่จะรับชม Content ต่างๆบนทีวี ก็สามารถทำได้ง่ายๆอยู่แล้วผ่าน AirPlay หากคุณต้องการจะแชร์ไฟล์ต่างๆคุณก็สามารถทำได้ผ่าน AirDrop หรือถ้าคุณอยากจะเชื่อมต่อแบบสัญญาณโทรศัพท์คุณก็สามารถใช้ iPhone ของคุณแชร์สัญญาณให้ได้อยู่แล้วผ่าน Personal Hotspot หรือถ้าคุณอยากจะฟังเพลงคุณก็สามารถเชื่อมต่อมันได้กับหูฟังหรือลำโพงก็ได้เช่นกัน” เรียกว่ารองรับการใช้งานแบบไร้สายทุกอย่างเลย
อย่างที่เห็นกันเลยครับว่าตอนนี้อุตสาหกรรมทั้งหมดกำลังเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน ขนาด Microsoft เองยังมีคีย์บอร์ดตัวใหม่อย่าง Designer Bluetooth Desktop ที่จะสามารถเชื่อต่อคีย์บอร์ดและ PC ได้แบบไร้สายนั่นเอง อย่างในเรื่องของกล้องถ่ายรูปเองก็เริ่มมีการเพิ่มขึ้นมาในเรื่องของการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ซึ่งนั่นก็ทำให้ทั้ง สายUSB, Memory Card และ Card Reader หมดประโยชน์ไปในทันที! และจริงๆแล้วพวกเราเองก็รู้ตัวดีอยู่แล้วว่า พวกเราชอบการเชื่อมต่อแบบไร้สายครับ
อันจะเห็นได้จากการที่เราใช้แท็บเล็ตและ สมาร์โฟนกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน นั่นหมายถึงว่าเราชอบการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ไม่ใช่การเชื่อมต่อด้วยสายเคเบิ้ลต่างๆ เพื่อใช้ในการรับส่งข้อมูลแน่นอนครับ
แต่อย่างไรก็ตามสำหรับโลกวันนี้ มันก็ยังคงมีการเชื่อมต่อผ่านสายเคเบิ้ลอยู่ เราแนะนำว่าควรที่จะหลีกเลี่ยงการซื้อ Macbook ตัวใหม่นี้ แล้วไปใช้เป็น Apple MacBook Pro หรือ Windows PC ก็ได้ที่มีพอร์ตหรือช่องให้เราเสียบมากกว่า (สำหรับคนที่คิดว่าจำเป็นต้องใช้นะครับ)
พอร์ทเดียวสำหรับทั้งหมด
ถือเป็นโชคดีของเหล่าผู้ใช้ Windows PC ที่ดูเหมือนว่าจะได้ประโยชน์จากการพัฒนาในครั้งนี้ด้วย นั่นก็เพราะว่า USB นั้นมันเป็นอุตสาหรรมแยกอีกอุตสาหกรรมหนึ่ง ซึ่งหมายความว่า มีบริษัทมากมายที่จะสามารถผลิตอุปกรณ์ที่รองรับสำหรับ Windows PC นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น แท็บเล็ต รถยนต์ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็นต้องใช้การเชื่อมต่อเพื่อส่งถ่ายข้อมูลหรือพลังงาน รวมถึงพวกอุปกรณ์ต่างๆที่ทำงานได้เฉพาะกับเครื่อง Mac ด้วย ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ผลิต Hard drive ที่จะทำอุปกรณ์ออกมาสนับสนุนมากน้อยเพียงใด แต่ก็เชื่อว่า USB Type-C นั้นน่าจะแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วแน่นอนครับ
การเชื่อมต่อโดย Type-C หรือที่ Apple เรียกมันว่า USB-C มันก็เหมือนกับพอร์ต Micro USB ที่กลายมาเป็นที่แพร่หลายอย่างมากในเหล่า Android สมาร์ทโฟน สำหรับ USB-C นั้นเราไม่ต้องสับสนด้วยครับว่า เราจะเสียบด้านไหน เพราะมันใช้ได้เหมือนกันทั้ง 2 ด้าน และหากวันนึงที่ Type-C ได้เข้าไปอยู่ใน PC,โทรศัพท์มือถือ, กล้องถ่ายรูป หรืออุปกรณ์อื่นๆ วันนั้น Type-C ก็จะกลายมาเป็นการเชื่อมต่อแบบธรรมดาของเหล่าผู้ใช้นั่นเองครับ
และถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนทั้งหมดนี้ การออกแบบนั้นจะทำให้สิ่งที่รกหูรกตาเหล่าผู้ใช้อย่างเราๆหายออกไปหมดเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น USBแบบStandard-A,Standard-B, Mini-B, Micro-B, Micro-B USB 3.0 และ Standard-B USB 3.0. เหลือแค่ Type-C อย่างเดียว
และในความเรียบง่ายสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นนี้ ในเรื่องของ USB จะทำให้มันมีความเป็นไปได้สำหรับ Apple และ บริษัทอื่นๆ ที่จะออกแบบมาในแบบเดียวกันมากขึ้น และสำหรับประโยชน์อีกสิ่งหนึ่งนั่นก็คือ USB Power Delivery เป็นฟีเจอร์ที่จะทำให้เราสามารถชาร์จอุปกรณ์อย่าง Laptop ได้เร็วขึ้น กล่าวคือชาร์จแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่าเหล่าสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตทั้งหลายแหล่
ส่วนตัวผมเองแล้วผมมองว่า USB-C นั้นถือเป็นก้าวใหม่ที่โลกกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปอีกขึ้นครับ แต่ผมค่อนข้างจะชอบแนวคิดที่ว่า โลกในอนาคตจะเป็นการเชื่อมต่อแบบไร้สาย การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของ Apple ทำให้รู้สึกว่า กำลังจะมีอะไรใหม่ๆที่น่าสนใจจากบริษัทต่างๆโผล่ออกมารองรับการใช้งานแบบไร้สายมากขึ้น ไม่ได้หมายถึงสมาร์ทโฟนนะครับ ก็คงต้องรอดูกันต่อไปครับว่าโลกในอีกไม่กี่วัน กี่เดือน กี่ปีครั้งหน้านี้จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง