ณ เวลานี้คงปฎิเสธไม่ได้แล้วว่า Nintendo Switch นั้นกลายมาเป็นเครื่องเล่นเกมที่ได้รับความนิยมสูงมากในโลกเป็นที่เรียบร้อย และในบ้านเราเอง แม้ว่า Nintendo จะยังไม่มีการประกาศเข้ามาทำตลาดในบ้านเราอย่างเป็นทางการ หรือแม้แต่จะแต่งตั้งตัวแทนเจ้าใดๆ อย่างเป็นทางการในบ้านเราก็ตาม แต่ก็ต้องยอมรับว่าแฟนเกมปู่นินที่ถือครอง Nintendo Switch ในบ้านเรานั้นมีปริมาณเยอะมากจนอยู่ในระดับที่เรียกว่าหากปู่มาเปิดตลาดออฟฟิเชียลคงกำไรไม่น้อย เพราะเอาแค่ใน APPDISQUS เอง ทีมงานเราก็มี Nintendo Switch กันไปมากกว่าครึ่งของทีมเข้าไปแล้ว
แต่การที่ Nintendo ไม่มี eShop ในบ้านเรานั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเอ็นจอยกับเกม Nintendo ราคาประหยัดไม่ได้ เพราะสำหรับ Nintendo Switch นั้นเป็นครั้งแรกที่ Nintendo ปล่อยเครื่องเกมออกมาแบบไม่ล็อกโซน นั่นหมายความว่าชาว Switch สามารถมีแอคเคาต์ได้มากกว่า 1 โซนในหนึ่งเครื่องที่ตนมี และการไม่ล็อกโซนแบบนี้ก็ทำให้เราสามารถซื้อของจาก eShop แบบข้ามโซนได้ด้วยบัตรเครดิตและเดบิต (เช่นบัตร ATM ที่มีเครื่องหมาย Visa) ได้ทั่วโลก และเพราะเหตุนี้จึงมีเทคนิกดีๆ ในการเลือกซื้อเกมให้ประหยัดที่สุดบน eShop มาฝากกัน
วิธีการซื้อเกม Nintendo Switch จาก eShop ให้ประหยัดที่สุดในโลก
ทีมงาน APPDISQUS ได้ทดสอบจากหลายๆ เกมแล้วพบว่า eShop ที่ขายเกมราคาถูกที่สุด (และถูกกว่าที่อื่นมากในหลายๆ เกม) คือ eShop ของประเทศแม็กซิโก ดังนั้นหากกำลังมองหาการซื้อเกมผ่าน eShop ราคาประหยัด แนะนำว่าให้สร้างบัญชีของประเทศแม็กซิโก (Mexico) กันเอาไว้ได้เลย
- เริ่มต้นจากการตรวจสอบว่าเกมที่ต้องการนั้นขายถูกสุดที่ eShop ประเทศใด
ขั้นตอนนี้เราจะใช้บริการฟรีของ eShop-Checker ในการตรวจสอบราคาเกมที่เราต้องการซื้อว่าที่ eShop ประเทศใดขายถูกที่สุด โดยการเข้าไปที่ eShop-Checker จากนั้นกดตรงเมนู $CURRENCY แล้วเลือกเปลี่ยนเป็นเงินบาทไทย (THB) แล้วก็เริ่มทำการค้นหาชื่อเกมที่เราต้องการซื้อได้เลย เว็บไซต์ eShop-Checker จะแสดง eShop ประเทศที่ขายถูกที่สุดขึ้นมา หากเราอยากให้แสดง 4 อันดับ eShop ประเทศที่ขายถูกที่สุดก็กดตรงลูกศรชี้ลงเพื่อเปรียบเทียบราคา
ในตัวอย่าง ทาง APPDISQUS ได้ลองทำการเปรียบเทียบราคาของเกมทั้งสิ้น 3 เกม คือ Cat Quest, The Coma: Recut และ Nine Parchments จะเห็นได้ว่า eShop ที่ราคาดีที่สุดของทุกเกมนั้นคือ eShop ประเทศแม็กซิโก (Mexico) และอีกแทบทุกเกมก็จะเป็นแบบนี้หมด โดยราคาต่างจา eShop ประเทศอื่นๆ มาก (ยกตัวอย่างเช่น Cat Quest ที่ต่างจากที่อื่นเป็นร้อยบาทเลยทีเดียว) ทั้งนี้เมื่อมีการสั่งซื้อจริง บัตรเครดิตก็เรียกเก็บเรตที่ใกล้เคียงกับที่ eShop-Checker แจ้งไว้เป็นเงินบาทไทย โดยสำหรับ Cat Quest นั้น ทีมงานโดยเรียกเก็บที่ 222 บาท (จากที่แสดงไว้เป็น 219,51 บาท ใน eShop-Checker)
- หลังจากได้ประเทศที่ขายถูกสุดแล้ว ต่อไปเราก็ไปสมัคร Nintendo Account เพื่อการใช้งานกับ eShop ประเทศนั้นๆ กัน (1 อีเมลใช้ได้กับ 1 Nintendo Account และ 1 eShop เท่านั้น)
- เข้าไปที่ accounts.nintendo.com จากนั้นกดเลือก “Create Nintendo Account” ที่เป็นปุ่มเขียวๆ อยู่ด้านล่างของหน้า
- เลือกสมัครสมาชิกและทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ
- ในขั้นตอนที่ 3 ให้กรอกข้อมูลส่วนตัวลงไป โดยสิ่งที่ต้องระวังคือ Email ที่จะต้องเป็นอีเมลใหม่ซึ่งยังไม่เคยลงทะเบียนกับ Nintendo มาก่อนไม่ว่ากับประเทศไหนๆ ก็ตาม
- ประเทศ (Country/region of residence) ให้เลือกเป็นประเทศที่เราเช็คมาแล้วขายเกมที่ต้องการซื้อถูกที่สุด ในที่นี้คือ Mexico (APPDISQUS แนะนำให้มี Mexico, USA และ Japan ติดไว้ โดย Mexico ใช้ซื้อเกมราคาถูก ส่วน USA และ Japan นั้นไว้ใช้ทำอย่างอื่น เช่นดาวน์โหลดเดโม่เกมมาทดสอบ เพราะเป็น eShop ที่ได้เดโม่เกมไว)
- กดเครื่องหมายถูกในข้อสุดท้าย จากนั้นก็กด “Submit” ได้เลย
- Nintendo จะส่งตัวเลข 4 หลักสำหรับการยืนยันอีเมลและบัญชีไปให้ที่อีเมลที่เพื่อนๆ ใช้สมัคร ให้กรอกตัวเลขทั้ง 4 หลักลงไปในขั้นตอนต่อไป จากนั้นกด “Verify”
- เสร็จขั้นตอนการสมัครบัญชีในประเทศที่เราต้องการใช้งาน eShop (กรณีตัวอย่างคือประเทศ Mexico)
- ผูกบัญชีนินเทนโด้ (Nintendo Account) เข้ากับ Nintendo Switch ของเราเพื่อการใช้งาน eShop ประเทศที่ต้องการ ในการซื้อเกม
- เปิด Nintendo Switch ขึ้นมา จากนั้นไปที่ “System Settings” > “User” > “Add User” เพื่อทำการเพิ่มบัญชีใหม่เข้าไปในเครื่อง ระบบจะถามให้ใส่ชื่อผู้เล่นที่ต้องการ และเลือกไอคอนของผู้เล่น ในขั้นตอนนี้ APPDISQUS แนะนำให้ใช้ตัวย่อของประเทศหลังชื่อผู้เล่นที่ตั้งเพื่อป้องกันการงงเองต่อไปหากมีหลายบัญชี ยกตัวอย่างเช่นในกรณีนี้ AlexboiJ คือบัญชีของประเทศญี่ปุ่น (Japan) และ AlexboiMex คือบัญชีของแม็กซิโก (Mexico) นั่นเอง
- กดเชื่อมผู้เล่นใหม่กับบัญชีของ Nintendo Account ที่เราเพิ่งทำการสมัครมา โดยเลือก “Sign In and Link” ในเมนูถัดมาที่ระบบเด้งขึ้นมาถาม จากนั้นก็เข้าสู่ระบบด้วยบัญชีที่เราเพิ่งสมัครเสร็จในขั้นตอนก่อนหน้า
- ออกไปหน้าแรก จากนั้นเลือก Nintendo eShop และเลือกบัญชีผุ้เล่นล่าสุดที่เราเพิ่งสมัคร ในกรณีนี้คือ AlexboiMex เพื่อเข้าสู่ eShop ของประเทศที่เราเพิ่งสมัครเพื่อทำการซื้อเกมต่อไป ลองตรวจสอบราคาเกมดู จะเป็นราคาที่มีหน่วยสกุลเงินเป็นประเทศที่เราเลือกสมัคร Nintendo Account ในกรณีนี้คือ MX$ นั่นเอง
- เลือกเกมที่ต้องการซื้อ และทำการซื้อเกมได้เลย โดยเลือกจ่ายผ่านบัตรเครดิตหรือเดบิตที่ออกโดยธนาคารในไทยได้อย่างไม่มีปัญหา ไม่มีการถามที่อยู่ใดๆ (สำหรับบัญชีประเทศแม็กซิโก – Mexico) ทั้งนี้ APPDISQUS ไม่แนะนำให้ใช้บัญชี PayPal เพราะอาจทำรายการไม่สำเร็จ
- บัญชีประเทศแม็กซิโกไม่จำเป็นต้องเติมเงินเข้าไปเก็บไว้ใน Nintendo Account ของเราแต่อย่างใด เราสามารถจ่ายตามราคาสินค้าจริงได้โดยในหน้ายืนยันการเติมเงิน ให้เลือก “Required Amount Only”
บัญชีในบางประเทศจำเป็นต้องมีการกรอกรหัสไปรษณีย์ของสถานที่อยู่ เช่นบัญชีประเทศอเมริกา (America) เพื่อการคิดคำนวนภาษีต่อไป ในกรณีนี้ APPDISQUS แนะนำให้ใช้รหัสไปรษณีย์ของรัฐต่อไปนี้เพื่อไม่โดยคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนของภาษี
-
97330 – Corvallis, Oregon
-
03222 – New Hampshire, Bristol
-
97222 – Milwaukie, Oregon
-
97116 – Forest Grove, Oregon
-
97080 – Portland, Oregon
เป็นอย่างไรก็กันบ้างกับเทคนิกการซื้อเกมบน Nintendo Switch eShop ให้ได้ราคาดีที่สุด หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ นะครับ แล้วอย่าลืมติดตาม APPDISQUS เอาไว้ เร็วๆ นี้เราจะเปิดหน้าพอร์ทอลสำหรับข่าวเกมโดยเฉพาะให้กับเพื่อนๆ เกมเมอร์ได้ติดตามกัน รวมไปจนถึงรีวิวเกมใหม่ๆ ของคอนโซลต่างรุ่น และของรางวัลอีกมากมายมาแจกกัน ติดตาม APPDISQUS ไว้ล่ะเหล่าเกมเมอร์ทั้งหลาย เรามีเรื่องราวดีๆ แบบนี้มาฝากกันเป็นประจำอย่างแน่นอน!